รีวิว HUAWEI WATCH D พร้อมวัดความดันและ ECG เพื่อคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง

HUAWEI WATCH D นับว่าเป็นการยกระดับวงการ Smart Watch อย่างแท้จริง เรียกว่าเป็นรุ่นแรกที่วัดค่าความดันเลือดได้ และยังสามารถวัดค่า ECG หรือคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ด้วย ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ให้เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ประเภทที่ 2 เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง

ราคาและโปรโมชั่น

HUAWEI WATCH D เปิดตัวมาที่ราคา 14,990 บาท พรีออเดอร์ตั้งแต่ 24 มิถุนายน 2565 ถึง 7 กรกฎาคม 2565 รับทันที HUAWEI Scale 3 มูลค่า 799 บาท หาซื้อได้ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และแอปพลิเคชัน  My HUAWEI

สมาร์ทวอทช์ที่วัดความดันเลือดได้

นี่เป็น highlight เลยก็ว่าได้เพราะ HUAWEI WATCH D สามารถวัดความดันเลือดได้ โดยมีค่าใกล้เคียงกับการวัดที่โรงพยาบาล และยังสามารถวัดอัตราชีพจร และคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ( ECG ) โดยได้รับอนุมัติจาก อย. ให้เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ประเภทที่ 2

ในชุดมีสายและถุงลม Airbag ให้ 2 ขนาด พร้อมกับสายวัดเพื่อแนะนำว่าเราควรใส่ไซส์ไหน ในการใช้งานก็ให้ทำท่าทางตามที่แอปแจ้ง เพื่อให้วัดค่าความดันเลือดได้แม่นยำที่สุด และตัวปั๊มลมขนาดเล็ก ( Mini Pump ) ก็จะทำให้ถุงลมพองตัวขึ้นในลักษณะเดียวกับการวัดค่าที่โรงพยาบาล แต่มีขนาดกระทัดรัดกว่า

ตัวปั๊มลมถูกพัฒนาให้มีขนาดเล็กเท่าเหรียญ สามารถทำแรงดันได้ถึง 40kPa วัดความดันเลือดได้สูงสุดที่ 230mmHg เทียบเท่าเครื่องวัดความดันเลือดทั่วไปในท้องตลาด ส่วนถุงลมที่มีลักษณะยาวและแคบได้รับการออกแบบมาให้มี 2 ชั้น เมื่อถูกปั๊มลมเข้าไป ถุงลมจะพองออกและรัดข้อมือได้พอดี ช่วยให้ตรวจวัดความดันเลือดได้แม่นยำมากขึ้น

HUAWEI WATCH D ใช้เซ็นเซอร์ความดันที่มีความละเอียดสูง 0.01mmHg ซึ่งสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของค่าความดันเลือดได้อย่างแม่นยำ และได้รับการออกแบบช่องทางการไหลของลมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงสามารถควบคุมการคลาดเคลื่อนให้ต่ำได้โดยอยู่ระหว่าง ±3mmHg นับว่า HUAWEI ได้ยกระดับนวัตกรรมบนข้อมือ เพื่อการดูแลและติดตามสุขภาพของตัวเราและคนที่เรารัก

ตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจอย่างแม่นยำ

HUAWEI มีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจมาหลายปี โดยใช้เซ็นเซอร์ ECG ที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อให้ตรวจวัดค่าได้แม่นยำที่สุด ซึ่ง HUAWEI WATCH D ได้รับการอนุญาตจาก อย. ตามใบรับแจ้งที่ 65-2-2-2-0003968 ทำให้สามารถใช้งาน ECG ได้ในประเทศไทย

สามารถบันทึกผล ECG ได้โดยการวัดแบบ Single Lead และจะรับสัญญาณรูปคลื่นภายใน 30 วินาที สามารถวิเคราะห์ผลลัพธ์ได้แบบ realtime กำหนดจังหวะไซนัส และความเสี่ยงของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยพิจารณาจากรูปคลื่นของคลื่นไฟฟ้าหัวใจในแอป ECG และมีคุณสมบัติแจ้งเตือนความผิดปกติของภาวะหัวใจเบื้องต้น

แจ้งเตือนเมื่อเคลื่อนไหวผิดปรกติ

HUAWEI WATCH D ยังมาพร้อม Motion Sensor และ Pulse Wave Detection สำหรับตรวจจับการเต้นของหัวใจ เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้ให้ปรับลักษณะการสวมใส่ ในกรณีที่ตรวจพบการเคลื่อนไหวที่ผิดปรกติ รวมถึงการตรวจจับระดับความสูงต่ำของการแกว่งแขน

ยังคงครบถ้วนด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพอื่นๆ

HUAWEI WATCH D ยังคงมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพอื่นๆ ไว้เช่นเคย เช่นการวัดค่า SpO2 แบบอัตโนมัติตลอดทั้งวัน และ HUAWEI TruSeen 5.0+ ที่แม่นยำยิ่งขึ้นด้วยโฟโตไดโอด 8 ตัว และฟิล์มแบบ Micro Nano ที่ช่วยให้แสงส่องผ่านได้ดีขึ้น และยังมี HUAWEI TruSleep 2.0 ที่ตรวจจับวัดค่าคุณภาพของการนอน, HUAWEI TrueRelax เพื่อช่วยคลาดเครียด, การวัดค่าอุณหภูมิผิวหนัง

ด้านการออกกำลังกายก็มี GPS ในตัวเพื่อช่วยติดตามตำแหน่งการวิ่งหรือทำกิจกรรมต่างๆ โดยมีโหมดออกกำลังกายให้เลือกมากกว่า 70 โหมด

ออกแบบดูแข็งแรงแต่แฝงด้วยความเป็นแฟชั่น

ด้วยความเป็นอุปกรณ์วัดค่าทางการแพทย์ได้เบื้องต้น จึงต้องออกแบบด้วยความแข็งแรงทนทาน แต่ก็มีการปรับให้เหมาะกับแฟชั่นเพื่อให้เข้ากับการแต่งตัวในแต่ละวัน โดยตัวสายเป็นการล็อกแบบผีเสื้อเพื่อความกระชับและยืดอายุการใช้งานของตัวสาย ตัวเรือนให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทานกว่าปรกติ พร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาดกว้าง 1.64 นิ้วแบบสัมผัส และปุ่มควบคุมด้านข้าง

ในการใช้งานทั่วไปสามารถอยู่ได้นานถึง 7 วันต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ซึ่งเพียงพอกับชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ และยังสามารถ Customize ปรับแต่งหน้าจอเพื่อให้เข้ากับสไตล์ของแต่ละคนด้วย

ความรู้สึกการใช้งานจริง HUAWEI WATCH D

ผมไม่ได้ใช้งาน HUAWEI WATCH D เอง แต่เอาให้แฟนใช้ เนื่องจากแฟนผมป่วยและมีอาการผิดปรกติด้านหัวใจ เคยเข้ารับการรักษาเบื้องต้นมาแล้ว ก็เลยอยากให้แฟนใส่ไว้เพื่อรู้เท่าทันร่างกายตัวเอง เผื่อมีอาการผิดปรกติเบื้องต้นจะได้รีบทำการรักษา

ตั้งแต่พลอยใช้ HUAWEI WATCH D ก็ทำให้สามารถตรวจสอบค่าต่างๆ เบื้องต้นได้เอง โดยไม่ต้องรอนัดหมอ ในบางครั้งที่รู้สึกล้าก็เปิดแอปดูได้ว่าอาจจะเพราะนอนหลับลึกน้อยเกินไป หรือบางทีรู้สึกเหนื่อยหรือหัวใจเต้นแรง ก็ลองวัดค่าด้วยตัวเองทีละอย่าง ตั้งแต่ค่า SpO2, ค่าความเครียด, ค่าความดันเลือด, ค่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ฯลฯ เพื่อให้รู้ว่าวิตกกังวลไปเองว่าป่วยหรือป่วยจริง อย่างน้อยก็ได้เช็คอาการเบื้องต้นก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปโรงพยาบาลและไม่ต้องเสียค่าตรวจโดยไม่จำเป็น

การดูแลรักษาก็ต้องถนอมมากกว่า Smart Watch ทั่วไป เนื่องจากมีส่วนของถุงลมและปั๊มลม ถ้าจะยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานก็ควรเลี่ยงการโดนเหงื่อและน้ำรวมถึงการทำให้เปื้อน เพราะจะทำให้การวัดค่าผิดเพี้ยน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วควรเปลี่ยนชุดถุงลมทุกๆ 6 เดือนครับ

สำหรับคนที่มีอาการป่วยหรืออยากดูแลสุขภาพคนในครอบครัวเป็นพิเศษ การเลือกใช้ HUAWEI WATCH D คงเป็นตัวเลือกเดียวที่มีในตอนนี้ ถ้าเทียบสิ่งที่ได้กับราคา 14,990 บาท ผมมองว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ถูกมากครับ เพราะถ้าเรารู้ช้าเกินไปหรือเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลบ่อยๆ ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่านี้