ย้ำ 5 ความโดดเด่นของ HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตหน้าจอ 120 HZ OLED FullView Display

ตลาดสมาร์ทดีไวซ์ในปัจจุบันเต็มไปด้วยแท็บเล็ตมากมายที่แบรนด์ต่างๆ นำเสนอกันอย่างต่อเนื่อง ใครที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคนี้ที่พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และมองหาประสิทธิภาพแรงๆ ในไอเท็มที่รองรับการทำงานอย่างชาญฉลาด สะดวกสบาย ใช้งานง่ายในแบบ Smart Office ก็จะชนะใจลูกค้าได้ไม่ยาก สำหรับหัวเว่ยที่ยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางมาตลอด พร้อมด้วยประสบการณ์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี ทั้งเข้าใจและพร้อมตอบสนอง insight ของผู้บริโภคอย่างตรงจุดกับ HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตเรือธงตัวล่าสุดที่เรียกได้ว่ายังคงความร้อนแรงที่สุดรุ่นหนึ่งในเวลานี้ วันนี้เราจะมาย้ำ 5 ความโดดเด่นของดีไวซ์อัจฉริยะรุ่นนี้ว่ามีอะไรบ้าง ตามไปดูกันได้เลย

ข้อที่ 1 – คุณภาพคับจอ ไม่ว่าคอนเทนต์ไหนๆ ก็คมชัดเต็มตาไร้ที่ติ

ย้ำ 5 ความโดดเด่นของ HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตหน้าจอ 120 HZ OLED FullView Display 3

HUAWEI MatePad Pro 11-inch มาพร้อมกับหน้าจอ HUAWEI FullView Display แบบ OLED ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล ทำให้สามารถแสดงผลได้คมชัด และอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่กว้างขึ้นถึง 92% ช่วยให้รับชมเนื้อหาได้เต็มตามากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถแสดงสีบนหน้าจอได้ถึง 1.07 พันล้านสีและมีค่าความแม่นยำอยู่ที่ △E <1[1] เหมาะสำหรับใครก็ตามที่ต้องใช้งานแท็บเล็ตเพื่อการสร้างสรรค์ รับประกันเลยว่า HUAWEI MatePad Pro 11-inch สามารถแสดงผลของสีได้ไม่มีผิดเพี้ยน แถมยังถูกใจสายเล่นเกมแน่นอนเพราะหน้าจอแสดงผลอย่างลื่นไหลสูงสุดถึง 120 เฟรมต่อวินาทีแบบไม่มีสะดุด และหากมีความจำเป็นต้องใช้งานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานก็ไม่ต้องกังวลเพราะ HUAWEI MatePad Pro 11-inch ได้รับการรับรอง Full Care Display 3.0 ซึ่งเป็นมาตรฐานการรับรองที่ครอบคลุมที่สุดของ TÜV Rheinland การันตีลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาในระดับฮาร์ดแวร์ ทำให้คุณใช้งานได้อย่างสบายตาแม้จะใช้งานในที่แสงน้อย

ข้อที่ – ใช้แทนโน้ตบุ๊คได้สบาย เติมเต็มการใช้งานด้วยปากกาและคีย์บอร์ดแบบครบเซ็ต ไม่ต้องซื้อเพิ่ม

จะดีแค่ไหนถ้าคุณซื้อแท็บเล็ตเครื่องเดียวแต่แถมอุปกรณ์มาแบบครบจบทั้งปากกาและคีย์บอร์ดโดยไม่เสียเงินเพิ่ม  HUAWEI MatePad Pro 11-inch เลยจัดเต็มให้ไม่มีกั๊กทั้ง HUAWEI M-Pencil 2ndgeneration สำหรับใช้ วาด เขียน หรือจดบันทึก และ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard สำหรับพิมพ์งานแบบมือโปร แถมยังสามารถปรับการใช้งานได้ถึง 3 โหมดไม่ว่าจะเป็น Laptop mode ที่ให้คุณสามารถใช้งานได้เสมือนโน้ตบุ๊ค Split mode ที่แยกแป้นพิมพ์ออกจากฐานเวลาที่ต้องการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ หรือ Studio mode มอบองศาที่เหมาะแก่การวาดภาพและขีดเขียน

ย้ำ 5 ความโดดเด่นของ HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตหน้าจอ 120 HZ OLED FullView Display 5

ไม่เพียงแค่นั้น ยังให้ Magnetic stylus cover สำหรับเก็บ HUAWEI M-Pencil 2nd generation ให้ปลอดภัยและพกพาได้สะดวก ที่สำคัญ HUAWEI MatePad Pro 11-inch ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันเหนือชั้นอย่าง Cross-app colour capture ที่สามารถดูดสีภาพถ่ายหรือคอนเทนต์บนหน้าเว็บที่ต้องการผ่านการใช้ Eye dropper ทำให้ได้สีที่แม่นยำและถูกใจ ร่วมด้วยแอปฯ HUAWEI Notes ปลดล็อคการจดบันทึกให้ไม่ซ้ำใครด้วยรูปแบบกระดาษและหัวแปรงที่มีให้เลือกมากมายจนลืมสมุดโน๊ตกับปากกาไปได้เลย

รวมไปถึงฟังก์ชัน App Multiplier สำหรับเปิดพร้อมกันแบบสองหน้าต่าง[2] และฟีเจอร์ Multi-Windowสามารถเก็บหน้าต่างลอยได้สูงสุดถึง 10 หน้าต่างและสามารถเปิด 4 แอปพลิเคชันได้ในเวลาเดียวกัน ทั้งหมดนี้ทำให้ HUAWEI MatePad Pro 11-inch ขึ้นแท่นเป็นแท็บเล็ตทรงประสิทธิภาพ ที่ช่วยให้คุณไม่ต้องง้อการใช้แล็ปท็อปอีกต่อไป

ข้อที่ – มีฟีเจอร์เพื่อตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่ พร้อมรับมือการประชุมออนไลน์ทุกรูปแบบ

สำหรับคนทำงานอย่างเราๆ ที่การประชุมออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปเรียบร้อยแล้วHUAWEI MatePad Pro 11-inch พร้อมเป็นเพื่อนคู่ใจให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด เริ่มกันที่กล้องหน้าคมชัด 16MP พร้อมเทคโนโลยี FollowCam ที่จะติดตามผู้พูดโดยไม่ต้องปรับมุมมอง หมดกังวลเรื่องตกเฟรมไปได้เลย ต่อด้วย AI Noise Cancellation (ANC) ตัดเสียงรบกวนรอบข้างโดยเน้นเพียงเสียงพูดของผู้ใช้เท่านั้น และยังมีเทคโนโลยี HUAWEI Sound ผสานพลังของลำโพง 6 ตัวให้เสียงกระหึ่มดังฟังชัด ประชุมครั้งไหนๆ ก็เก็บทุกรายละเอียดได้ไม่มีพลาด 

ย้ำ 5 ความโดดเด่นของ HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตหน้าจอ 120 HZ OLED FullView Display 7

ข้อที่ 4 – เอื้อการใช้งานบนอีโคซิสเต็มแบบเต็มรูปแบบด้วย HUAWEI Super Device

ผู้ใช้ HUAWEI MatePad Pro 11-inch สามารถใช้งาน HUAWEI Super Device เชื่อมต่ออุปกรณ์ในอีโคซิสเต็มของหัวเว่ย ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น Mirror Mode เพื่อการแสดงเนื้อหาเดียวบนจอแล็ปท็อปให้เห็นคอนเทนต์บนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น หรือจะใช้แท็บเล็ตเป็นกระดานวาดเขียน เหมาะกับคนทำงานสายครีเอทีฟแบบสุดๆ หรือใช้ Extend Mode เพื่อเพิ่มพื้นที่การทำงานมากขึ้น ตอบโจทย์คนที่ชอบทำงานหลายๆ อย่างไปพร้อมๆกัน หรือ Collaborate Mode เพื่อถ่ายโอนไฟล์ระหว่างแล็ปท็อปกับแท็บเล็ตได้อย่างรวดเร็ว

ย้ำ 5 ความโดดเด่นของ HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตหน้าจอ 120 HZ OLED FullView Display 9

ซึ่งการใช้งาน HUAWEI Super Device นั้นก็สามารถเปิดใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ไปที่ Control Panel ของแล็ปท็อปหัวเว่ยและลากชนกับไอคอนแท็บเล็ต แค่นี้คุณก็ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอย่างไร้รอยต่อ

ข้อที่ 5 – แท็บเล็ต All-rounder ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ทั้งการเรียน การทำงาน งานสร้างสรรค์และความบันเทิง พร้อมราคาเตะตาและโปรโมชันโดนใจ จัดให้แบบเต็มที่

เรียกได้ว่า HUAWEI MatePad Pro 11-inch เป็นแท็บเล็ตที่เอาอยู่ในทุกๆ สถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนที่ต้องจดบันทึกเป็นหลัก สายงานครีเอทีฟที่ต้องวาดภาพเป็นประจำ สายทำงานก็สามารถใช้งานแทนแล็ปท็อปได้ หรือจะใช้รับชมความบันเทิงก็เหมาะเจาะ โดยมาในสี Golden Black และพร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งรุ่น WIFI (8 GB+128GB) ราคา 24,990 บาท และรุ่น LTE (8GB+256GB) ราคา 29,990 บาท บอกเลยว่าราคานี้ได้อุปกรณ์เสริมแบบคุ้มยิ่งกว่าคุ้มทั้งคีย์บอร์ดและปากกา

ย้ำ 5 ความโดดเด่นของ HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตหน้าจอ 120 HZ OLED FullView Display 11

เพียงแค่ซื้อภายในวันที่ 27 สิงหาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 รับฟรี! HUAWEI Smart Magnetic Keyboard, HUAWEI M-pencil 2nd generation และสิทธิประโยชน์มากมายจาก HUAWEI AppGallery อาทิ บริการ HUAWEI Cloud ฟรี 3 เดือน บริการ HUAWEI Music ฟรี 3เดือน บริการ HUAWEI Video ฟรี 1 เดือน ใช้งาน WPS Office ฟรี 3 เดือน และ Lazada voucher มูลค่า 50 บาท เป็นต้น รวมมูลค่าของสมนาคุณ 12,282 บาทสั่งจองได้แล้วที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada, JD Central


[1] Delta E คือ หน่วยชี้วัดมาตรฐานค่าความต่างหรือผิดเพื้ยนของสี (จากสายตาคนเรา) โดยอ้างอิงความถูกต้องของสีจาก CIELAB หรือ L*a*b. Delta E จะถูกใช้เพื่อรับรองว่าการแสดงผลของสีที่แสดงผลออกมาจะใกล้เคียงกับการรับสีด้วยตาของมนุษย์ และยังเป็นค่าความแตกต่างระหว่างจุดสีสองจุดที่กำหนดไว้ในปริภูมิสี CIELAB

[2] สำหรับแอปฯ WPS Office และแอปฯ ชอปปิง