รีวิว HUAWEI MatePad SE ความเบาที่ครอบคลุมการใช้งานประจำวัน

แนะนำ Tablet ราคาประหยัดอีกรุ่นกับ HUAWEI MatePad SE โดยรุ่นนี้มีหน้าจอขนาด 10.4 นิ้วบนความละเอียด 2K ลำโพงคู่พร้อมระบบเสียง HUAWEI Histen 8.0 และใส่ซิมได้ ใช้ชิป Snapdragon 680 ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3 โดยมีน้ำหนักแค่ 440 กรัมเท่านั้น

โปรโมชั่น HUAWEI MatePad SE

เตรียมพบ HUAWEI MatePad SE 4+64 GB WiFi กับ Special Deal ใน 12.12 ที่ HUAWEI Store บนช่องทาง Lazada และ Shopee รับรองคุ้มกว่าใคร เจอกัน 12 ธันวาคมนี้ ใส่ตะกร้ารอเลย

ซื้อผ่านเว็บ HUAWEI ได้รับกล่อง TrueID TV Box และเคส HUAWEI MatePad SE Folio Cover[ https://go.bacidea.com/BKfL ]

แท็บเล็ตที่เบา ถือได้สบายมือ

ในขณะที่มือถือบางรุ่นมีน้ำหนักมากถึงราว 240 กรัม แต่ HUAWEI MatePad SE ยังคงความเบาไว้ได้ดีเช่นเดียวกับ HUAWEI MatePad Pro 11-inch ที่ผมใช้อยู่ โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 440 กรัมเท่านั้น และด้วย Form Factor ลักษณะนี้ ทำให้การใช้งานจริงถึงได้ง่ายสบายมือมาก

รีวิว HUAWEI MatePad SE ความเบาที่ครอบคลุมการใช้งานประจำวัน 3

ขอบจอมีพื้นที่เว้นระยะเข้ามา ซึ่งเป็นผลดีในแง่การถือมือเดียว ทำให้เรามีตำแหน่งในการจับได้กระชับโดยไม่สัมผัสหน้าจอ และยังมีการลบขอบทำให้มนทุกด้าน ทำให้เป็นมิตรกับผู้ใช้แม้แต่เด็ก และยังให้หน้าจอแบบถนอมสายตาตามมาตรฐาน TUV Rheinland โดยแบ่งเป็น 3 โหมดคือ

  • Eye comfort ตัดแสงสีฟ้า ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา
  • eBook mode ปรับหน้าจอให้เป็นโทนขาวดำ คล้ายกับการอ่านหนังสือ
  • Dark mode ลดอาการแสงจ้าเกินไปในยามค่ำคืน

และที่น่าสนใจคือความสว่างหน้าจอที่มากถึง 4096 ระดับ ซึ่งปรกติแล้วในช่วงราคานี้จะเป็น 1024 ระดับเท่านั้น ทำให้การปรับแสงสว่างของหน้าจอทำได้เหมาะสมและสบายตายิ่งขึ้น

รีวิว HUAWEI MatePad SE ความเบาที่ครอบคลุมการใช้งานประจำวัน 5

โดยรวมแล้ว HUAWEI MatePad SE เป็นแท็บเล็ตที่ดีไซน์มาได้เป็นมิตรกับทุกคน มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย ถือสะดวก พร้อมกับหน้าจอขนาด 10.4 นิ้วกับความละเอียด 2K ที่ให้สีสันสวยงาม

ออกแบบให้ใช้แนวนอนเป็นหลัก

หากดูจากตำแหน่งการวางกล้องแล้ว จะเห็นได้ชัดเลยว่า HUAWEI MatePad SE ออกแบบมาให้ใช้แนวนอน ด้วยการวางกล้องไว้ตรงกลาง ซึ่งเหมาะมากกับการใช้งานแนวนอน จะทำให้กล้องอยู่ตำแหน่งกึ่งกลาง เหมาะกับการ VDO Call

ในแง่คุณภาพกล้องก็เป็นไปตามมาตรฐานของแท็บเล็ตทั่วไป คือเหมาะกับการใช้งานระดับ VDO Call เพื่อสื่อสารมากกว่าจะเน้นความสวยงาม

แท็บเล็ตที่โทรได้

ในยุคหลังคนไม่นิยมโทรด้วยแท็บเล็ตมากเท่าสมัยก่อน ทำให้แท็บเล็ตหลายรุ่นตัดฟังชั่นการโทรออกไป แต่ HUAWEI MatePad SE เลือกจะใส่การโทรมาให้ ดังนั้นในทางปฏิบัติแล้วไม่จำเป็นต้องมีมือถือเลยก็ได้ สามารถใช้ HUAWEI MatePad SE คู่กับหูฟัง TWS ทดแทนมือถือเลยก็ได้ ซึ่งอาจจะตอบโจทย์การใช้งานของคนบางกลุ่ม

รีวิว HUAWEI MatePad SE ความเบาที่ครอบคลุมการใช้งานประจำวัน 7

ใช้งานได้ครอบคลุม

หากมองในแง่สเปกแล้ว Snapdragon 680 กับแรมสูงสุด 4GB และหน่วยความจำภายในสูงสุด 128GB จัดว่าอยู่กลุ่มที่ใช้งานทั่วไปได้ แต่เมื่อจับคู่กับ HarmonyOS 3 ที่ขึ้นชื่อเรื่องการรีดประสิทธิภาพแล้ว นั่นทำให้ประสบการณ์ใช้งานจริงออกมาน่าประทับใจแม้ว่าจะมีแรมไม่เยอะมากนักก็ตาม

สิ่งที่หลายคนกังวลก็คือการรองรับแอป เนื่องด้วย HUAWEI ไม่ได้มี GMS แต่ในทางปฏิบัติแล้วก็มีวิธีทดแทนได้เกือบหมด โดยเฉพาะการใช้งานแบบแท็บเล็ตที่ต่างจากมือถือ เพราะในความเป็นจริงแล้วคนที่ใช้แท็บเล็ตมักจะเลือกเข้าเว็บแทนแอปบางตัว เนื่องจากเวอร์ชั่นเว็บทำงานได้สมบูรณ์กว่า

ดังนั้นในการใช้งานจริงเราจึงมีทางเลือกหลากหลายตามความชอบ เช่น

  • Mail : ใช้แอปเมลในตัวเครื่อง หรือโหลดแอปทดแทนเช่น Spark Mail หรือใช้ผ่านหน้าเว็บ
  • YouTube : ใช้แอป YT ที่โหลดได้จาก AppGallery

ส่วนแอปพื้นฐานส่วนใหญ่ก็สามารถใช้ได้ครบถ้วนโดยไม่ต้องพลิกแพลง เช่น Facebook, LINE, Twitter, TikTok, Netflix, Disney+, Office,

หรือหากจำเป็นต้องใช้แอปที่ผูกกับ GMS ก็มีตัวเลือกคือโหลด LightHouse หรือใช้ Gbox หรือ Gspace ทดแทนก็ได้

HarmonyOS คือความต่าง

หากพูดในมุมผู้ใช้ไม่อิงเรื่องราวเบื้องหลัง HarmonyOS ทำออกมาได้ลื่นและปัญหาน้อยมาก นี่คือจุดสำคัญที่ทำให้แฟนๆ HUAWEI ไม่อยากย้ายไปค่ายอื่น แม้ว่าสเปคจะสูสีแต่ด้วย Software ของ HUAWEI ที่ดีกว่า ทำให้การใช้งานจริงสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่า

รีวิว HUAWEI MatePad SE ความเบาที่ครอบคลุมการใช้งานประจำวัน 9

นอกจากเรื่องความลื่นไหลและจัดการทรัพยากรที่ดีมากแล้ว ในแง่การจัดวางตำแหน่ง UI และเมนูต่างๆ ยังทำให้เข้าใจได้ง่ายไม่ซับซ้อน และในส่วนของ Control Panel มีการตั้งค่าด่วนสำหรับเปิดปิดโหมดต่างๆ อย่างที่คุ้นเคย และยังมี Super Device ให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ของ HUAWEI ได้ง่ายๆ และถ้าเคยเชื่อมต่อหูฟังหรือลำโพง หรืออุปกรณ์เสริมใดๆ ไว้กับเครื่องอื่นก็จะแสดงผลในเครื่องนี้ด้วย ทำให้เราเชื่อมต่อได้ง่ายมาก

ความพิเศษกว่าคู่แข่งก็คือถ้าใช้ร่วมกับแล็ปท็อปเช่น HUAWEI MateBook 14s ก็จะสามารถกดค้นหาข้อมูลบน HUAWEI MatePad SE ผ่านทางแล็ปท็อปได้ทันที ทำให้ภาพรวมแล้ว Ecosystem ของ HUAWEI จึงน่าสนใจเป็นพิเศษ

ใช้งานได้แบบ Multitasking

ด้วยหน้าจอขนาด 10.4 นิ้ว หลายคนก็นิยมเปิดใช้งานแอปพร้อมกัน ซึ่ง HUAWEI MatePad SE ก็ทำได้ 2 รูปแบบคือ Multi-Window และ App-Multiplier ที่อธิบายอย่างง่ายคือ เราสามารถเปิดแอปเป็นหน้าต่างลอยเหนืออีกแอป รวมแล้วใช้งานได้ 4 แอป หรือเปิด 1 แอปแบบ 2 หน้าต่างได้ ซึ่งรูปแบบหลังจะใช้ได้กับแอปที่รองรับเท่านั้น

Kids Corner ออกแบบมาเพื่อเด็ก

แม้ว่าแท็บเล็ตจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็ก แต่การให้ใช้งานอย่างอิสระก็ไม่ใช่วิธีที่ดีนัก เนื่องจากการให้สิทธิ์กับเด็กที่ยังไม่เข้าใจในสิ่งต่างๆ ก็อาจนำพาความยุ่งยากมาได้ เช่น การกดซื้อแอปหรือเติมเกมโดยที่เด็กไม่รู้ผลเสียที่จะตามมา รวมถึงการอยู่หน้าจอนานเกินไปก็จะส่งผลลบต่อตัวเด็กด้วย

รีวิว HUAWEI MatePad SE ความเบาที่ครอบคลุมการใช้งานประจำวัน 11

ดังนั้น HUAWEI MatePad SE จึงมี Kids Corner ที่ออกแบบมาเพื่อเด็ก โดยมีจุดเด่นคือ

  • ระบบปกป้องสายตา ทั้งการตัดแสงสีฟ้า การแจ้งเตือนท่าทางที่ไม่เหมาะสมอย่างเช่นการดูจอใกล้เกินไป และการใช้งานระหว่างเคลื่อนไหนที่หน้าจอจะสั่นมากกว่าปรกติ รวมถึงโหมด eBook ที่ช่วยปรับสีสันให้เหมือนการอ่านจากกระดาษที่เป็นมิตรกับสายตาเด็กมากกว่า
  • ระบบจัดการเวลา เช่น ตั้งค่าจำกัดการเล่นต่อวันหรือต่อครั้ง รวมถึงการให้พักสายตาจากหน้าจอ โดยเมื่อครบเงื่อนไขก็จะล็อกตัวเครื่องไม่ให้เด็กใช้งานต่อ
  • ล็อกแอป ให้เลือกใช้เฉพาะแอปที่ผู้ใหญ่คัดไว้ให้เท่านั้น
  • ปรับ UI ให้ดูน่ารักเหมาะกับเด็ก

ความรู้สึกและประสบการณ์ใช้งานจริง

ปัจจัยแรกที่ผมจะให้คะแนนอุปกรณ์คือเรื่องดีไซน์ เพราะเป็นสิ่งที่รับรู้ได้ตั้งแต่แรกพบ ทั้งการมองและการสัมผัส ซึ่ง HUAWEI MatePad SE ให้ความรู้สึกที่ดีเมื่อเทียบกับราคา โดยลบขอบมุมไม่มีเหลี่ยมให้ระคายมือ แต่ก็ไม่ถึงกับทำโค้งทั้งหมด ฝาหลังเลือกใช้พื้นผิวแบบด้าน ทำให้รู้สึกกล้าหยิบกล้าใช้ ไม่ต้องกังวลมากนัก ทำให้ดีไซน์ดูมีความน่าสนใจ

ตำแหน่งการวางกล้องไว้ตรงกลางเป็นสิ่งดีมากถ้าใช้งานแนวนอน แต่ถ้าใช้งานแนวตั้งพร้อมกับการใช้งานกล้องหน้าก็ไม่ใช่เรื่องสะดวกนัก อย่างไรก็ตามด้วยขอบจอ Bezel ที่บางเมื่อเทียบกับราคาแต่หนากว่ารุ่นราคาสูง ก็มีข้อดีตรงที่การถือด้วยมือเดียวเป็นเรื่องง่าย ถือได้กระชับมือ เมื่อบวกกับการใช้งานแนวตั้งแล้ว ทำให้ HUAWEI MatePad SE มีขนาดเหมาะมากกับการอ่าน เช่น การอ่านสคริปสำหรับพิธีกร

รีวิว HUAWEI MatePad SE ความเบาที่ครอบคลุมการใช้งานประจำวัน 13

เครื่องที่ผมใช้รีวิวสามารถใส่ซิมได้ด้วย เพิ่มความสะดวกไปอีกขั้น โดยเฉพาะตอนนี้ที่มีฟุตบอลโลก และการดูผ่านแอป TrueID บนหน้าจอใหญ่แบบนี้ก็เต็มตาและพกพาง่าย เหมาะกับสถานการณ์มากๆ หรือจะเอาไว้ดูหนังก็ทำได้ดี ด้วยหน้าจอที่ให้สีสันสวยและมีลำโพงคู่ จะถือนอนดูก็ไม่เมื่อยเท่าไร

ด้านความลื่นไหล ในความจริงแล้วการใช้งานส่วนใหญ่ของผมทำงานผ่านเว็บ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องแอปหรือเรื่องแรมไม่พอ เพราะ Snapdragon 680 มันก็ลื่นเหลือๆ สำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว

รีวิว HUAWEI MatePad SE ความเบาที่ครอบคลุมการใช้งานประจำวัน 15

ในกรณีที่ต้องการใช้งานแอปที่ไม่มีบน AppGallery อันดับแรกผมจะเลือกโหลดจาก Aurora Store เพราะติดตั้งง่ายไม่มีโฆษณา แต่ถ้าเป็นแอปที่ต้องการ GMS สิ่งแรกที่ผมเลือกคือการติดตั้ง LightHouse เพราะให้ประสบการณ์ใช้งานดีที่สุด แต่ถ้า LightHouse ยังไม่ตอบโจทย์ก็แนะนำว่าไป Gbox หรือ Gspace เลยครับ

บทสรุป

ถ้าตั้งงบไว้ไม่สูงมากนัก การเลือก HUAWEI MatePad SE จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก เพราะในช่วงราคานี้มักจะได้สเปกในระดับกลางๆ ถ้าไม่มี Software ที่ดีก็จะทำให้ประสบการณ์ใช้งานไม่ดีเท่าไร แต่ด้วย HarmonyOS ทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะรีดประสิทธิภาพออกมาให้ลื่นไหลที่สุด

ในแง่ไลฟ์สไตล์ไม่อิงสเปกแล้ว หน้าจอก็ใหญ่ ภาพก็คม ลำโพงก็ดี มีช่องเสียบหูฟัง ผมเชื่อว่าตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ที่มีงบจำกัดครับ