รีวิว OPPO Find N5 ที่สุดของประสบการใช้งานมือถือจอพับ ควรค่าการเป็นจอพับแห่งปี

ณ วันที่ OPPO Find N5 เปิดตัวสู่สายตาชาวโลก ก็มีจุดให้คนพูดถึงหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความบางที่สุดในโลก กล้องที่ดูไม่หวือหวานัก รวมถึงการใช้งานร่วมกับ macOS ได้น่าสนใจมาก แต่ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากที่ผมได้ใช้งานจริง ผมกลับติดมือถือเครื่องนี้มาก กลายเป็นมือถือที่ผมพกติดตัวและใช้งานบ่อยที่สุด

ที่สุดของนวัตกรรมบนมือถือจอพับ

OPPO Find N5 รวมความเป็นที่สุดอยู่หลายอย่างเมื่อเทียบกับมือถือจอพับด้วยกัน อย่างแรกคือความบาง 8.93 มม. เมื่อปิดฝาพับ ซึ่งเป็นมือถือจอพับที่บางที่สุดในโลก แซงหน้า HONOR Magic V3 ที่ผมเคยใช้ก่อนหน้านี้ และยังมีน้ำหนักเบา 229 กรัมเทียบเท่ามือถือ Bar type ที่เราคุ้นเคยกัน และถ้ากางหน้าจอออกก็จะบางแค่ 4.21 มม. เท่านั้น

นอกจากนี้ปุ่มด้านข้างยังคงเอกลักษณ์ไว้ด้วยการให้ปุ่ม Alert Slider ที่สลับโหมดระหว่าง เสียง, สั่น, เงียบ ได้มั่นใจกว่า

แม้จะมีทรวดทรงเพรียวบางแบบนี้แต่ก็ใส่ชิปที่แรงที่สุดอย่าง Snapdragon 8 Elite ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องประสิทธิภาพความลื่นไหล และยังให้แบตเตอรี่มากถึง 5600mAh ซึ่งจากที่ผมหาข้อมูลมาก็น่าจะเป็นมือถือจอพับที่แบตเตอรี่เยอะที่สุดด้วย และยังมีระบบชาร์จเร็ว 80W SUPERVOOC และชาร์จแบบไร้สาย 50W AIRVOOC ด้วย ทำให้สามารถใช้งานระหว่างวันได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องเสียบชาร์จบ่อยๆ และใช้เวลาน้อยกว่าในการชาร์จให้เต็ม

ในขณะที่จัดเต็มด้านสเปคต่างๆ ก็ยังให้หน้าจอที่น่าประทับใจด้วย โดยจอด้านนอกมีขนาด 6.62 นิ้ว ทำให้ประสบการณ์ใช้งานเหมือนมือถือทั่วไปที่จอใหญ่ และเมื่อกางออกมาก็จะพบหน้าจอขนาด 8.12 นิ้ว ซึ่งเป็นมือถือจอพับที่มีขนาดจอในใหญ่ที่สุดด้วย ทำให้มีพื้นที่ในการใช้งานเยอะเสมอมีแท็บเล็ตเลย ที่สำคัญคือหน้าที่ทั้งด้านนอกและด้านในมีคุณภาพดีมาก มีการเคลือบป้องกันแสงสะท้อนได้ดี และเป็นมือถือจอพับที่รอยพับน้อยมาก อาจบอกได้ว่ารอยพับน้อยที่สุดก็ว่าได้ ด้านระบบเสียงก็ให้ลำโพงแบบคู่ พร้อมไมค์ 4 ตัว ที่ช่วยจัดการประมวลผลเพื่อความคมชัดของเสียง

ColorOS 15 ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานมือถือจอพับ โดยสามารถเติมเต็มประสบการณ์ใช้งานจอพับได้อย่างครบถ้วน โดยมีเมนูการตั้งค่าเฉพาะสำหรับฟีเจอร์จอพับ อย่างเช่นการใช้งานเมื่อกางหน้าจอ ตัว Dock ด้านล่างสามารถเลือกการแสดงผลได้ทั้งแบบ Dock ที่ซ่อนเมื่อไม่ใช้งาน หรือจะเลือกแบบ Taskbar ที่อยู่ด้านล่างตลอดเวลาเพื่อให้สลับแอปได้ง่ายก็ได้ และเวลาพับหน้าจอ ก็ยังเลือกได้ว่าจะให้ปิดหน้าจอไปเลย หรือใช้งานต่อ หรือให้ปัดขึ้นเพื่อใช้งานต่อ ซึ่งนี่เป็นฟีเจอร์ที่สำคัญมากสำหรับคนใช้มือถือจอพับ เพราะบางรุ่นไม่มีให้เลือกแบบนี้ เวลาที่พับจอปรากฎว่าจอนอกยังทำงานอยู่ บางทีก็เผลอไปโดนปุ่มต่างๆ รวมไปถึงการใช้งานกล้องที่สามารถ Preview ที่จอนอกได้ ซึ่งบางรุ่นจะต้องเปิดทีละจอเท่านั้น

นี่เป็น 5 แกนหลักที่ผมคิดว่าสำคัญมาก ในการเป็นมือถือจอพับที่ให้ประสบการใช้งานที่ดี ซึ่ง OPPO Find N5 ทำได้น่าประทับใจ ทั้งเรื่องดีไซน์ที่บางเบา ประสิทธิภาพที่แรงสุด การแสดงผลดีกว่า ระบบเสียงครบถ้วน และ Software ที่ทำการขับเคลื่อนอย่าง ColorOS 15

จุดที่แปลกตาแต่เหมาะกับการใช้งานจริง คือเคสที่แถมให้ในกล่องจะมีเฉพาะฝาหลังเท่านั้น ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงหลายคนที่ใช้มือถือจอพับก็ใส่เคสเฉพาะฝาหลัง

กล้องที่รีดประสิทธิภาพภายใต้ความบาง

ด้วยความที่ออปโป้ตั้งเป้าจะสร้างมือถือจอพับที่ให้ประสบการณ์ใช้งานดีที่สุด เลยตั้งโจทย์ว่าจะรีดประสิทธิภาพกล้องอย่างไรได้บ้างภายใต้ตัวเครื่องที่บางเบา และในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นกล้องทั้งหมด 5 ตัว คือ

• กล้องหลัง
  • กล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล, f/2.2, เทียบเท่าระยะ 15 มม.
  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล, Sony LYT-700, เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56 นิ้ว, f/1.89, OIS, เทียบเท่าระยะ 21 มม.
  • กล้องเทเล 50 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.75 นิ้ว, f/2.7, OIS, เทียบเท่าระยะ 70 มม.
• กล้องหน้าและกล้องด้านในมีสเปคเดียวกันคือ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, f/2.4, เทียบเท่าระยะ 21 มม.

ถ้าดูในแง่ UI ของแอปกล้อง จะเห็นว่ามีระยะการซูมที่ 0.6x, 1x, 3x, 6x โดยระยะ Optical lens ที่เป็นการประมวลผลจากชิ้นเลนส์แท้ๆ จะทำได้ถึงระยะ 3x และประมวลผลแบบ lossless zoom ได้ที่ 6x แต่ถ้าต้องการซูมไกลกว่านั้นจะเป็นการใช้ AI ช่วยประมวลผล ซึ่งทำได้ไกลสุดที่ 120x

กล้องมีระบบ Tele Macro ที่ช่วยให้เรากดซูมและได้ผลลัพธ์เหมือนกับการถ่ายมาโคร แต่การถ่ายลักษณะนี้จะดีกว่าตรงไม่มีเงาติดมาด้วย เหมาะกับการถ่ายดอกไม้, เหรียญเงิน, พระเครื่อง, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสิ่งเล็กๆ ทั้งหลาย

แน่นอนว่าสเปคคงไม่หวือหวาเมื่อเทียบกับมือถือที่เป็นสายกล้อง แต่ถ้าเทียบกับมือถือจอพับด้วยกันก็ถือว่าไม่น้อยหน้าเลยครับ ผมลองเอามาใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งผมชอบถ่ายที่ระยะ 2x และ 3x เป็นพิเศษ อย่างการถ่ายสัตว์เลี้ยง ถ้าเข้าใกล้เกินไปเค้าอาจตกใจได้ ผมเลยใช้ระยะ 2x และ 3x เป็นหลัก ซึ่งผลลัพธ์ถือว่าทำได้ดีเลย อย่างรูปนี้นกกำลังหลับอยู่ ผมใช้ระยะ 2x กดเข้าไป นอกจากจะไม่รบกวนนกแล้วยังได้โบเก้ที่สวยอีกด้วย

การใช้งานกล้องหน้าและกล้องด้านใน คุณภาพอยู่ในเกณฑ์ทั่วไปซึ่งทำได้ดีถ้าแสงเยอะ แต่ถ้าเป็นแสงในห้องที่ไม่ได้สว่างมากนักก็จะได้คุณภาพลดหลั่นลงมา แต่ถ้าว่ากันตามตรงแล้วคนซื้อมือถือจอพับส่วนมากก็ใช้กล้องหลังในการเซลฟี่กันทั้งนั้น ดังนั้นในการใช้งานจริงการที่กล้องหน้าและกล้องด้านในมีประสิทธิภาพระดับนี้ผมคิดว่าเหมาะสมแล้วครับ เพราะมันเหมาะกับการสื่อสารและการ VDO Call แต่ถ้าต้องการคุณภาพจริงๆ เราสามารถใช้กล้องหลังในการเซลฟี่ได้ ซึ่งการใช้กล้องหลังในการเซลฟี่มันให้คุณภาพที่ดีกว่ากล้องหน้ามือถือส่วนใหญ่แน่นอน ดังนั้นหากต้องการ Vlog หรือถ่ายคลิปคุณภาพสูง แนะนำว่าใช้กล้องหลังถ่ายจะดีกว่าครับ

ที่จริงแล้วฟิลเตอร์และลูกเล่นต่างๆ ในกล้องกล้องมีเยอะเลยครับ แต่ส่วนที่ผมสนใจเป็นพิเศษคือในโหมดถ่ายรูปปรกติ มีโหมดย่อยคือ เวที, ซิลูเอท, ดอกไม้ไฟ ซึ่งปรกติแล้วการถ่ายรูปพวกนี้ทำได้ยาก เนื่องจากมือถือมักประมวลผลให้ภาพออกมาสว่าง ดังนั้นการเลือกโหมดพวกนี้จึงทำให้ภาพออกมาสวยตามซีนที่เราอยากได้ รวมถึงโหมดย่อยในภาพถ่ายบุคคลได้แก่ หมอก, เรืองแสง, ชวนฝัน ที่แม้จะมีตัวเลือกมาไม่เยอะ แต่คัดมาเน้นๆ น่าสนใจจริงๆ ครับ ซึ่งโหมดถ่ายภาพบุคคลพวกนี้เหมาะมากกับการที่ผู้ชายจะถ่ายให้สาวๆ …แต่ถ้าถ่ายตัวเองก็จะแปลกๆ หน่อย

ประสบการณ์ใช้งานร่วมกับ macOS ที่ iPhone ก็ให้ไม่ได้

แม้ว่ามือถือจะทำออกมาได้ดีแค่ไหนก็ตาม แต่หลายคนยังคุ้นเคยและจำเป็นต้องใช้ PC อยู่ ซึ่งการใช้มือถือ Android ร่วมกับ Windows มันมีระบบรองรับนานแล้ว แต่การใช้ Android ร่วมกับ Apple Ecosystem คือสิ่งที่ยังทำได้ไม่สะดวกนัก และนี่คือเหตุผลที่คนใช้ macOS จะสนใจ OPPO Find N5 มากขึ้น

ด้านการส่งไฟล์ข้าม Platform เมื่อติดตั้งแอป O+ Connect บน iPhone, iPad, macOS จะทำให้เราสามารถส่งไฟล์ไปมาได้ง่ายขึ้น แต่จุดไฮไลท์จริงๆ คือ Remote Mac Control ครับ เราสามารถใช้ OPPO Find N5 รีโมทเข้าไปควบคุมหน้าจอของเครื่อง MacBook Pro, Mac mini, Mac Studio และอื่นๆ ได้ เสมือนเรานั่งอยู่หน้าจอเครื่องแมคเลย ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ไทย พิมพ์อังกฤษ การคลิก การเลือก การซูม การใช้ Hotkey และยังสามารถสลับไปใช้แป้นพิมพ์ของเครื่องแมคได้ด้วย

ยังไม่หมดแค่นั้นครับ ผมเชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอปัญหาที่ว่าไฟล์อยู่บนเครื่องแมคที่บ้านแต่ตัวเราอยู่นอกบ้าน เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการรีโมทเข้าไปดูไฟล์ คล้ายๆ กับการ FTP ซึ่งเราจะเห็นไฟล์ทุกอย่างที่อยู่บนเครื่องแมคของเรา และสามารถโหลดลง OPPO Find N5 ได้ เพื่อนำไปส่งต่อให้ลูกค้าหรือใช้งานได้ทันที

ในทางกลับกัน เราก็สามารถเข้าถึงไฟล์ OPPO Find N5 จากเครื่องแมคของเราได้เช่นกัน โดย UI จะเป็นลักษณะคล้ายแอปแนว Phone Manager ซึ่งเราสามารถลบไฟล์หรือโยนไฟล์ข้ามไปมาก็ได้

นี่คือ Killing Feature ที่ผมประทับใจมาก แม้ว่าการใช้งานบนหน้าจอ OPPO Find N5 ที่มีขนาด 8 .12 นิ้วอาจไม่เต็มตานัก แต่เราก็สามารถใช้ 2 นิ้วถ่างซูมขยายหน้าจอ macOS ได้ เหมาะกับการใช้งานยามฉุกเฉิน อย่างเช่นผมรันสคริปไว้และบางครั้งผมก็ต้องการรีโมทเข้าไปเช็คว่ามันยังรันปรกติดีอยู่ไหม แต่ก่อนผมก็ต้องรอเข้าบ้านถึงจะไปเช็คได้ ระหว่างนั้นก็ว้าวุ่นใจกันไป แต่พอมี OPPO Find N5 ผมสามารถรีโมทเข้าไปเช็คการทำงานได้ตลอดเวลา แม้แต่ตอนก่อนนอน

อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าฟีเจอร์นี้มันจะคุ้มค่าเป็นพิเศษถ้าเราใช้แมคตั้งโต๊ะและใช้ OPPO Find N5 เป็นเครื่องนอกสถานที่ ซึ่งเราสามารถต่อ mouse + keyboard เพิ่มก็ได้หากจำเป็น

AI ที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

สิ่งที่ผมให้ความสำคัญในปี 2025 คือ AI ที่ใช้งานได้จริง ซึ่ง OPPO Find N5 ก็มีสิ่งเหล่านี้อย่างครบถ้วน อย่างแรกคือ AI ที่ช่วยในการเขียน ซึ่งมันช่วยปรับปรุงการเขียนของเราได้ดีขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปแบบให้ทางการมากขึ้น, การเขียนให้ยาวขึ้น โดยสิ่งที่ผมชอบทำคือการเขียนเป็น headline หรือ bullet point ไว้ จากนั้น AI Writer จะทำการหาข้อมูลมาเติมเต็มแต่ละหัวข้อ

ถัดมาคือ AI ในการถอดเสียงและทำสรุป โดยจะใช้สรุปการโทรหรือการอัดเสียงทั่วไปก็ได้ เนื่องจากรุ่นนี้รองรับการบันทึกเสียงการโทรอัตโนมัติด้วย เหมาะมากกับคนทำงานที่จะได้มาย้อนฟังเสียงได้ และการสรุปจากไฟล์เสียงก็ช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งฟังเสียงจนจบ

และ AI ที่พลาดไมไ่ด้เลยคือ AI ด้านการแต่งรูป โดยมีจุดเด่นคือ AI Upscale ที่เหมาะกับการซูมภาพและต้องการความละเอียดที่สูงขึ้น, AI Eraser ลบส่วนเกิน, AI Unblur แก้ภาพที่เบลอสั่นให้ชัดขึ้น, AI Reflection Remove ใช้ลบแสงสะท้อนจากกระจกหรือแม่น้ำ ซึ่งโหมดสุดท้ายผมใช้บ่อยเพราะเวลาถ่ายปลาที่เลี้ยง มักจะติดแสงไฟที่สะท้อนตู้ปลา ซึ่งโหมดนี้สามารถลดแสงสะท้อนได้ระดับหนึ่งเลย และปลาเป็นสัตว์ที่เคลื่อนไหวเร็ว เราใช้ AI Unblur ช่วยลดความเบลอของภาพได้เช่นกัน ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่หลอกตา

ออปโป้ได้พัฒนาแอป AI แปลภาษาของตัวเองขึ้นมาด้วย โดยออกแบบเพื่อใช้กับมือถือจอพับโดยเฉพาะ เพื่อให้คู่สนทนานั่งคนละฝั่งและมองจากจอคนละด้านได้ และตัว AI นี้ยังสามารถทำ Hover Translate ได้ด้วย โดยจะลอยอยู่เหนือแอปอื่นๆ และสั่งให้แปลทุกสิ่งบนหน้าจอได้

อย่างไรก็ตามยังมี AI อีกตัวที่ติดมาด้วยคือ Gemini AI ซึ่งเป็นของ Google และสามารถเรียกใช้ได้จากการกดปุ่มด้านข้าง รวมถึง การกดที่ Navigation bar เพื่อค้นหาข้อมูล, แปลภาษา, ค้นหาเพลง หรือแม้แต่ Circle to Search ก็ได้

ราคาและโปรโมชั่น

OPPO Find N5 เปิดตัวในไทยด้วยราคา 69,999 บาท และมาพร้อมกับโปรโมชั่นต่างๆ เช่นเคย โดยโปรโมชั่นพรีออเดอร์จะได้รับของแถมรวมมูลค่า 49,199 บาท

ความเห็นเพิ่มเติม

เดิมทีผมชอบมือถือจอพับอยู่แล้ว เพราะมันเหมือนเรามีแท็บเล็ตที่พกใส่กระเป๋าได้ แต่ OPPO Find 5 ยกระดับประสบการณ์ใช้งานขึ้นไปอีกขั้น แม้จะบางเบาแต่กลับหยิบจับเปิดกางจอได้ง่าย และได้หน้าจอใหญ่ที่สุดในบรรดามือถือจอพับ ซึ่งหน้าจอ 8.12 นิ้วมันทำให้เราสามารถอ่านหรือเปิดแอปหลายหน้าต่างได้เต็มตากว่า บวกกับการที่ใช้งานร่วมกับเครื่อง MacBook Pro ของผมได้อย่างง่ายดาย ผมสามารถรีโมทเข้ามาจัดการสิ่งต่างๆ บนเครื่องแมคได้ง่าย โดยไม่ต้องแบก MacBook Pro ตลอดเวลา และแบตเตอรี่ก็อึดมากด้วย ทำให้ผมติด OPPO Find N5 มาก จริงอยู่ว่าเราสามารถติดตั้งแอปอื่นทดแทนการส่งไฟล์หรือการรีโมทได้ แต่มันก็ไม่สะดวกเท่ากับการที่ฟีเจอร์เหล่านี้ฝังอยู่ในตัวระบบเลยแบบที่ OPPO Find N5 ทำมาให้

เรื่องกล้องที่หลายคนกังวล เอาเข้าจริงผมคิดว่ามันไม่แย่เลยนะครับ มันดีพอจะเอาไปทำ Vlog หรือคลิปสั้นทั้งหลาย ซึ่งถ้าเทียบกับคนส่วนใหญ่แล้วคุณภาพกล้องของ OPPO Find N5 ดีกว่าเยอะครับ จุดสำคัญคือการที่เป็นมือถือจอพับมันเลยเหมือนมีขาตั้งติดตัวตลอดเวลา นี่คือจุดได้เปรียบครับ

ผมคิดว่า OPPO Find N5 เหมาะกับคนหลายกลุ่มเลย โดยเฉพาะนักธุรกิจที่ต้องการใช้งานแบบมือถือเพื่อสื่อสาร และใช้งานแบบแท็บเล็ตเพื่อโชว์ผลงาน รวมถึงครีเอเตอร์ที่สามารถใช้ CapCut ตัดต่อได้สะดวกขึ้นบนหน้าจอที่ใหญ่กว่า หรือแม้แต่สาย IT Support ที่ต้องทำการรีโมทเข้าไปแก้ไขเครื่องที่บริษัท

OPPO Find N5 ดูผิวเผินเหมือนไม่มีอะไรต่าง แต่ถ้าได้ลองใช้จริงจะพบว่านี่คือมือถือจอพับที่ประสบการณ์ใช้งานดีที่สุด