รีวิว Ambi Climate 2 เปลี่ยนแอร์ธรรมดาให้กลายเป็นแอร์อัจฉริยะด้วย AI
แม้ว่าหลายคนจะมีความสุขท่ามกลางความเย็นของแอร์บ้าน แอร์ออฟฟิศ หรือแอร์ในห้าง แต่เชื่อเถอะครับว่า Ambi Climate 2 จะทำให้ภาพจำของแอร์ที่คุณรู้จักเปลี่ยนไป เพราะมันไม่ใช่รีโมทควบคุมแอร์ผ่านมือถือแบบที่เคยเห็น แต่มันจะทำให้เราประหยัดค่าไฟและหมดปัญหาร้อนเกินไปหรือหนาวเกินไปอีกด้วย
Ambi Climate 2 มีราคาอยู่ที่ 129 USD หรือราวๆ 4,000 บาท ซึ่งจะหาซื้อจากร้านในไทยหรือสั่งจากเมืองนอกก็แล้วแต่ความสะดวก แม้ว่าจะราคาสูงกว่าพวก Device ที่ทำหน้าที่เป็น Smart Remote แต่สิ่งที่ได้รับก็มากกว่าเช่นกัน
แกะกล่องและเชื่อมต่อ
หน้ากล่องจั่วหัวถึงความหวือหวาชาญฉลาดด้าน AI แต่ภายในกล่องกลับถูกจัดวางอย่างเรียบง่าย มีเพียงตัว Ambi Climate 2 และสายชาร์จแบบ micro USB กับปลั๊ก อีกนัยหนึ่งก็คือติดตั้งและจัดวางได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีช่อง USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์อื่นอีกด้วย
และเนื่องด้วย Ambi Climate 2 ใช้การสั่งงานเฉกเช่นรีโมท ดังนั้นต้องวางในระยะห่างจากแอร์ไม่เกิน 2-4 เมตร ขึ้นอยู่กับภาครับสัญญาณของแอร์ด้วย
ในการใช้งานครั้งแรกจะต้องตั้งค่าเพื่อเชื่อมต่อ Ambi Climate 2 เข้ากับไอดีของเรา ซึ่งทำได้ไม่ยากเพียงแค่เชื่อมต่อกับแอพชื่อ Ambi Climate ที่มีทั้งบน iOS และ Android และทำตามขั้นตอน
โดยขั้นตอนคร่าวๆ ก็คือการสมัครไอดี และทำการเชื่อมต่อ Ambi Climate 2 แล้วตั้งชื่อว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้อยู่ที่บ้านหลังไหน ห้องอะไร เพื่อให้จดจำได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งขั้นตอนนี้ยังช่วยให้เราตั้งค่าระบบอัตโนมัติสำหรับการเข้าหรือออกจากพิกัดบ้านของเรา โดยตั้งได้ว่าจะให้เปิด/ปิดแอร์อัตโนมัติหรือไม่ และยังลงรายละเอียดได้ว่าจะเปิดแอร์ด้วยอุณหภูมิกี่องศา
เริ่มต้นสัมผัสแอร์เครื่องเดิมที่เพิ่มเติม AI
เมนูการใช้งานมีอยู่หลายส่วนแต่ส่วนที่น่าสนใจก็คือโหมด โดยแบ่งออกเป็น
- Comfort : ไม่ต้องรู้ว่าตอนนี้เปิดแอร์กี่องศา ให้เลือกแค่ว่าตอนนี้เย็นหรือร้อนเกินไป
- Temperature : ให้เราเลือกอุณหภูมิห้องที่ต้องการ แล้วห้องจะมีอุณหภูมินั้นจริงๆ
- Away : เลือกอุณหภูมิห้องที่ต้องการ และ AI จะช่วยประหยัดไฟ เปิดเฉพาะยามจำเป็น
- Manual : ตั้งค่าส่วนต่างๆ เองโดยไม่ใช้ AI เข้ามาช่วย
- Off : ปิดแอร์
ก่อนเปิดแอร์ด้วย Ambi Climate 2 ตัวแอพจะบอกอุณหภูมิและความชื้นของห้อง พร้อมกับการคำนวณค่าต่างๆ ว่าตอนนี้ห้องมีสภาวะร้อนหรือเย็นอย่างไร ซึ่งในกรณีนี้ห้องผมมีอุณหภูมิ 30.3 องศา ความชื้น 67.9% และจัดว่าร้อน
โหมดที่ผมใช้บ่อยที่สุดคือ Comfort ซึ่งผมมีหน้าที่กดเลือกว่าตอนนี้ร้อนหรือหนาวมากน้อยแค่ไหน จากนั้น AI ก็จะเรียนรู้และทำการตั้งค่าแอร์ให้เหมาะสม
กระบวนการทำงานของโหมด Comfort คร่าวๆ ก็คือ
- ช่วงแรกที่ห้องมีอากาศร้อนมากกับอุณหภูมิ 30.7 องศา โหมด Comfort ก็สั่งเปิดแอร์ที่ 16 องศา สถานะตอนนี้เป็น Too Warm ร้อนเกินไป
- พอห้องเริ่มเย็นอุณหภูมิลดลงมาเป็น 24 องศา ตัวระบบของ Ambi Climate 2 ก็สั่งปรับแอร์เป็น 23 องศา และสถานะเปลี่ยนเป็น Comfy ที่หมายถึงรู้สึกสบาย
- พออุณหภูมิห้องเริ่มเย็นสบายและนิ่งแถวๆ 23.8 องศา แอร์ก็ถูกเปลี่ยนเป็น 27 องศา
และจากการใช้งานจริงเกือบเดือนพบว่าโหมด Comfort ทำออกมาได้ดีมาก ผมไม่เคยรู้สึกร้อนเกินไปหรือหนาวเกินไปอีกเลย เพราะ Ambi Climate 2 จะทำการปรับแอร์ตลอดเวลา เดี๋ยวก็เพิ่มเดี๋ยวก็ลดเพื่อรักษาสภาวะให้ห้องเย็นสบาย
บางคนอาจสงสัยว่าแล้วมันต่างกันยังไงกับการกดแอร์ตั้งอุณภูมิเอง ซึ่งตรงนี้ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ว่าหลายครั้งที่เราตั้งแอร์ไว้ที่ 25 องศา แต่ความรู้สึกร้อนเย็นกลับต่างกัน นั่นเพราะตัวแปรอื่นต่างกัน หรืออย่างการเปิดแอร์ทิ้งไว้ทั้งคืน ช่วงแรกอาจจะร้อนหน่อยๆ พอตอนเช้าๆ ก็จะหนาวไปนิดทั้งที่เราตั้งแอร์ไว้เท่าเดิมที่ 25 องศา ซึ่งเราสามารถดูประวัติการทำงานได้ว่า Ambi Climate 2 มีการสั่งตั้งค่าแอร์อย่างไรบ้าง
พูดง่ายๆ ก็คือ Ambi Climate 2 อิงความรู้สึกจริง ไม่ได้อิงตัวเลขบนหน้าจอของแอร์ ซึ่งโหมด Temperature ก็คล้ายกับ Comfort ที่จะมีการปรับเพิ่มลดแอร์ตลอดเวลา แต่ Temperature จะเป็นการระบุไปเลยว่าเราต้องการให้ห้องมีอุณหภูมิเท่าไร
ส่วนโหมด Away เหมาะกับการรักษาอุณหภูมิห้องให้คงที่ตอนที่เราไม่อยู่ เช่น บางทีเรามีอุปกรณ์เครื่องใช้บางอย่างที่ห้ามเก็บในที่ร้อนเกินไป เราก็อาจจะตั้งค่าเป็นโหมด Away ที่ 26 องศา สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ Ambi Climate 2 จะทำการเปิดแอร์เมื่อห้องร้อนกว่าค่าที่ตั้งไว้ และจะทำการปิดเมื่ออยู่ในเกณฑ์ที่ต้องการ ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้ประหยัดไฟกว่าการเปิดแอร์ทิ้งไว้ทั้งวัน
สำหรับโหมด Manual จะให้เราตั้งค่าต่างๆ ได้เองคล้ายกับการใช้รีโมทแอร์เดิมๆ ซึ่งหน้าจอนี้ก็สามารถใช้สอน AI ได้สำหรับโหมดอื่นๆ ว่าเราชอบแบบไหนควรตั้งแบบไหน เพื่อให้ AI เรียนรู้และทำได้ดั่งใจเรา โดยตั้งได้แม้แต่ความแรงลมและการตั้งค่าใบพัด และที่ขาดไม่ได้ก็คือระบบ Timer ซึ่งหมายถึงเราสามารถตั้งเวลาเปิด/ปิดแอร์ได้
เก็บสถิติสภาพแวดล้อมและความชอบของเรา
Ambi Climate 2 มีการเก็บสถิติและเรียนรู้ตลอดเวลา ซึ่งเราสามารถกดดูข้อมูลต่างๆ ได้ทั้งหมด เช่น เปิดแอร์ทั้งหมดกี่ชั่วโมง อุณหภูมิในห้องเทียบกับนอกห้อง หรือแม้แต่การที่เราสอนมันว่าห้องร้อนเกินไปหรือเย็นเกินไป
แชร์ให้คนอื่นได้ รองรับการเชื่อมต่อแฟลตฟอร์มอื่น
ความดีงามอีกอย่างก็คือเราสามารถแชร์ Ambi Climate 2 ให้กับเพื่อนหรือคนในครอบครัวได้ ทำให้คนอื่นสามารถสั่งเปิด/ปิดแอร์ผ่านแอพได้เช่นกัน และยังรองรับการเชื่อมต่อ IFTTT อีกด้วย ซึ่ง IFTTT จัดว่าเป็นของดีทีเด็ดที่มหัศจรรย์มาก สั่งงานได้สารพัดอย่างแบบที่เยอะมากต้องลองเล่นเอง
และสำหรับใครที่ชอบการสั่งงานด้วยเสียง ก็รองรับทั้ง Alexa และ Google Assistant อีกด้วย
บทสรุปของ Ambi Climate 2
หลังจากใช้งานมาระยะหนึ่งก็มีเรื่องน่าประหลาดใจเล็กน้อย เพราะปรกติแล้วผมจะตั้งแอร์ไว้ที่ 26 องศาและใช้พัดลมช่วยเป่าเพื่อให้ประหยัดค่าไฟ การที่เห็น Ambi Climate 2 กดแอร์ไปที่ 16 องศาในบางเวลาก็ทำเอาผมแอบกังวลเรื่องค่าไฟ
แต่ผลปรากฎว่าค่าไฟก็ไม่ได้หนีจากเดือนก่อนๆ เลย ต่างกันตรงที่ตอนนี้ห้องผมเย็นสบายกว่าเดิมตลอดเวลา ส่วนหนึ่งก็เพราะ AI สลับค่าตลอดเวลาบางครั้งแอร์ก็ถูกตั้งที่ 29 องศา ทำให้ประหยัดไฟกว่าเดิมโดยที่ไม่รู้สึกร้อนแม้แต่น้อยเรียกได้ว่า AI ช่วยได้เยอะมาก มันดีจนทำให้ผมอยากได้ Ambi Climate 2 มาเพิ่มสำหรับแอร์บ้านและแอร์ออฟฟิศของผมเลย