สรุปบทสัมภาษณ์ CEO หมุนเวียนของ Huawei กับสื่อเยอรมันด้านความปลอดภัยและความสัมพันธ์กับเยอรมันและอเมริกา

สรุปบทสัมภาษณ์ CEO หมุนเวียนของ Huawei กับสื่อเยอรมันด้านความปลอดภัยและความสัมพันธ์กับเยอรมันและอเมริกา 3

เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีข่าวออกมาว่าเยอรมันอาจจะแบน Huawei จากกิจการโทรคมนาคม 5G เนื่องจากเหตุผลทางด้านความปลอดภัย คุณ อีริค ซวี รองประธานคณะกรรมการผู้บริหารและ CEO หมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ยจึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเยอรมัน โดยมีใจความสำคัญดังนี้

ตำแหน่ง CEO ของ Huawei จะมีความแตกต่างจากบริษัทอื่นคือไม่ใช่ตำแหน่งประจำ แต่จะใช้การหมุนเวียนเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงมาผลัดกันดำรงตำแหน่งนี้

เมื่อพูดถึงด้านผลการดำเนินงาน การดำเนินธุรกิจทุกด้านของ Huawei ยังเป็นไปตามปกติ โดยมีรายได้ตลอดปี 2561 อยู่ที่ 1.085 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยคาดว่าในปี 2562 จะมีอัตราการเติบโตมากกว่าร้อยละ 10 ขึ้นไป ให้มีรายได้ประจำปีอยู่ที่ 1.25 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบัน หัวเว่ยมีพนักงานมากกว่า 2,500 คนในเยอรมนี โดยมีพนักงานด้าน R&D รวมกว่า 500 คนด้วย นอกจากนี้ยังมีศูนย์วิจัยและพัฒนาในมิวนิค นูเร็มเบิร์ก เบอร์ลิน และดาร์มชตัดท์ และยังมีศูนย์นวัตกรรมที่สร้างร่วมกับ Leica อีกด้วย โดยใช้เงินลงทุนด้าน R&D ในเยอรมนีมากกว่า 100 ล้านเหรียญยูโรต่อปี และ Huawei เองกำลังทำงานร่วมกับบริษัทเยอรมันมากมายหลายแห่ง เช่น Siemens, DHL เป็นต้น

เมื่อพูดถึงประเด็นความปลอดภัยด้านไซเบอร์และความสัมพันธ์กับโอเปอเรเตอร์ในเยอรมนี Huawei กล่าวว่า ความปลอดภัยด้านไซเบอร์ควรเป็นประเด็นด้านเทคนิค ไม่ใช่ประเด็นการเมือง หากความปลอดภัยด้านไซเบอร์ได้กลายเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับการเมืองหรืออุดมการณ์บางอย่าง ก็เป็นไปได้ยากที่จะหาทางแก้ไข แต่หากเรามองว่าเป็นประเด็นด้านเทคนิค ซึ่งมันเป็นอย่างนั้น เราก็จะสามารถหาวิธีการแก้ไขอย่างตรงจุดได้

เครือข่ายโทรคมนาคมในเยอรมนีถูกสร้างขึ้นหลัก ๆ โดยผู้ให้บริการ 3 ราย ได้แก่ Deutsche Telekom, Vodafone Germany และ Telefónica Germany

อุปกรณ์และชิ้นส่วนด้านโทรคมนาคมที่โอเปอเรเตอร์ในเยอรมันเลือกใช้มาจากบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย Huawei เพียงแค่ส่งมอบบางชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์ให้เท่านั้น ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือดูแลจัดการเครือข่ายเหล่านั้นเลย เพียงแต่ให้การสนับสนุนด้านเทคนิค และการสนับสนุนเหล่านั้นจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของโอเปอเรเตอร์เสมอ โอเปอเรเตอร์มีหน้าที่รับผิดชอบหลักในด้านความปลอดภัยของเครือข่ายโทรคมนาคม

คุณ อีริค ซวี กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาค่อนข้างชอบกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมืองในเขตสหภาพยุโรป (General Data Protection Regulation: GDPR) ทาง Huawei สร้างห้องปฏิบัติการทดลองนวัตกรรมความปลอดภัยด้านไซเบอร์ขึ้นที่เมืองบอนน์ เพื่อทำงานร่วมกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านต่างๆ อาทิ BSI ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อหามาตรฐานที่ได้รับการยอมรับร่วมกันคล้ายคลึงกับกฎหมาย GDPR ที่มีความโปร่งใส่ เปิดกว้าง ยุติธรรม และบังคับใช้ได้กับทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเขาเชื่อว่าเมื่อเราตกลงยอมรับมาตรฐานร่วมกัน ก็จะกลายเป็นตัวอย่างที่ดีให้ทั่วทั้งอุตสาหกรรมได้ต่อไป

เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน Huawei เน้นย้ำในจุดยืนของเราอยู่เสมอว่า เราไม่ต้องการที่จะกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือภายใต้ประเด็นการเจรจาต่อรองระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา
เพราะ Huawei นั้นเล็กเกินกว่าจะนำไปเปรียบเทียบกับจีนและสหรัฐอเมริกาได้ ผลประโยชน์ระดับชาติของทั้งสองมหาอำนาจไม่ควรได้รับผลกระทบเพียงแค่เพราะบริษัทเพียงบริษัทเดียว

คุณ อีริค ซวี ยังกล่าวด้วยตั้งตารอที่จะได้ยินผลลัพธ์ที่น่ายินดีจากการเจรจาด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา เขาเชื่อว่าทั้งสองประเทศก็ได้เห็นว่าต่างฝ่ายต่างต้องพึ่งพากันและกัน ไม่มีฝ่ายไหนอยู่โดยไม่มีอีกฝ่ายได้