แม้ว่าโน้ตบุ๊คในกลุ่มบางเบาภาพลักษณ์ดีมีตัวเลือกให้มากขึ้น แต่ไม่ง่ายที่จะครบเครื่องลงตัวแบบ ASUS ZenBook UX433F จนสร้างความโดดเด่นตราตรึงใจมากๆ โดยเฉพาะขนาดที่จัดว่าเล็กกว่าโน้ตบุ๊ค 14 นิ้วทั่วไป
ด้านสเป็กก็จัดว่าจัดเต็มตามยุคสมัย มีตัวเลือกให้ทั้งแบบ Intel Core i5 และ i7 โดยเครื่องที่นำมารีวิวในครั้งนี้เป็นรุ่น Core i5-8265U, SSD 512 GB, RAM 8 GB, Nvidia GeForce MX150 กับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว บนตัวเครื่องที่เรียกได้ว่าพอๆ กับโน้ตบุ๊ค 13 นิ้วเลยก็ว่าได้ เนื่องจากมีขอบจอแบบ Frameless NanoEdge ที่เล็กมากๆ แต่บนความเล็กนั้นก็ยังสามารถใส่กล้องไว้ตามที่ด้านบน ซึ่งเป็นต่ำแหน่งมุมองศาที่เหมาะสมกับการใช้งานที่สุด
และที่สำคัญก็คือรุ่นนี้มีกล้องแบบ 3D IR Camera สำหรับใช้ร่วมกับ Windows Hello เพื่อปลดล็อกและใช้งาน Windows 10 โดยไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่าน ซึ่งการใช้กล้องแบบ 3D IR Camera ช่วยให้การสแกนแม่นยำแม้อยู่ในที่แสงน้อย
เป็นที่รู้กันดีกว่า Intel Generation 8th มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดมาก นั่นทำให้ Core i5 ตัวนี้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่ารุ่นก่อนเยอะมาก แต่ถึงกระนั้นมัน ASUS ZenBook 14 เครื่องนี้ก็ไม่เหมาะจะเอามาเล่นเกมหรือทำอะไรที่ดุเดือดมากนัก เพราะการออกแบบตัวเครื่องที่เน้นการพกพาจึงไม่ได้มีระบบระบายความร้อนที่ใหญ่โตอลังการ แต่ก็เรียกได้ว่าเหลือเฟือสำหรับการเอามาทำงาน
โดยเฉพาะ SSD ที่จัดจ้านด้านความเร็ว ทำให้เราสามารถเปิดไฟล์หรือทำการบันทึกข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งความเร็วในส่วนนี้จะเห็นผลมากๆ เวลาที่ต้องเจอไฟล์จำนวนมากในโฟลเดอร์เดียวกัน
แม้ว่าตัวเครื่องจะมีขนาดเล็ก แต่ยังคงให้พอร์ตการเชื่อมต่อมาครบถ้วนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นช่อง USB ขนาดปรกติที่ให้มาด้านละอัน พร้อมกับช่องเสียบ microSD, หูฟัง, HDMI และ USB-C รวมถึงส่วนสำคัญอย่าง TouchPad ก็มีขนาดที่กว้างและใช้งานได้ง่าย
ทรวดทรงที่ดูกระทัดรัดแต่แข็งแรงทนทานทุกรอยต่อ ด้วยมาตรฐานการผลิตแบบ Military Grade นั่นทำให้การเปิดฝาเครื่องทำได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องพยายามง้างเหมือนบางรุ่น
โน้ตบุ๊คหลายรุ่นเลือกที่จะลดลำโพงเพื่อให้เครื่องมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา แต่สำหรับ ASUS ZenBook 14 จัดว่าเสียงดังมากและคุณภาพดีมาก แบบที่ไม่คิดว่าตัวแค่นี้จะมีพลังมากมายขนาดนี้ เรียกได้ว่าเป็นอีกรุ่นที่มีระบบเสียงที่เก่งและน่าประทับใจ
ความเด็ดดวงอีกอย่างที่มีเฉพาะรุ่น Core i7 ก็คือ TouchPad ที่สามารถแปลงร่างสลับโหมดเป็น NumPad ได้ เพียงแค่กดปุ่มที่มุม TouchPad จากนั้นเราก็สามารถจิ้มตัวเลขได้ไม่ต่างจากการใช้ NumPad แบบดั้งเดิม ซึ่ง NumPad เป็นอะไรที่สำคัญมากๆ สำหรับคนที่ต้องป้อนข้อมูลตัวเลขบ่อยๆ
แม้ว่า NumPad ในรูปแบบนี้จะไม่สะดวกเท่ากับแบบปุ่มแยก แต่ก็เรียกได้ว่าสะดวกกว่าการกดตัวเลขที่แถวบนสุดของแป้นพิมพ์
นอกจากขนาดที่กระทัดรัดแล้ว ในกล่องยังมี Sleeve case สำหรับพกพามาให้อีกด้วย สำหรับราคาต้องบอกว่า ZenBook ปีนี้มีหลายรุ่นย่อยทั้งขนาด 13, 14 และ 15 นิ้ว กับการ Config ที่ต่างกันออกไป โดยเริ่มต้นที่ 26,990 ไปจนถึง 45,990 บาท
บทสรุปของ ASUS ZenBook UX433F
ถ้าใครสักคนให้ผมช่วยเลือกโน้ตบุ๊คโดยมีโจทย์ว่าพกพาง่าย เครื่องเล็ก น้ำหนักเบา ลำโพงดี จอสวย ทำงานลื่นไหล แข็งแรงทนทาน ส่งเสริมภาพลักษณ์ธุรกิจ ใช้งานง่ายมีระบบสแกนใบหน้าที่แม่นยำ พอร์ตการเชื่อมต่อครบถ้วน นาทีนี้ผมเชียร์ ASUS ZenBook ขาดใจ เพราะมันจัดเต็มทุกสิ่ง ครบเครื่องทุกอย่าง
