รีวิว ASUS Zenfone Max Pro (M2) มือถือที่ครบครันในทุกด้าน พร้อมดีไซน์สุดพรีเมียมในราคาต่ำหมื่น
สมาร์ทโฟน ASUS ซีรีส์ ZenFone Max Pro เป็นซีรีส์ที่ได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมากในแง่สเปกที่คุ้มค่ากับราคา สำหรับรุ่นใหม่นี้ ASUS Zenfone Max Pro (M2) ยังมาพร้อมสเปกที่คุ้มค่า และดีไซน์ที่พรีเมียมเกินราคา โดยมีทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่
- RAM 6GB/STORAGE 64GB ราคา 8,990 บาท เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2562 ที่ตัวแทนจำหน่าย คลิก
- RAM 4GB/STORAGE 64GB ราคา 6,990 บาท Pre-order ได้ที่ Shopee 18-31 ธันวาคมนี้ คลิก
สำหรับรุ่นที่ผมนำมารีวิวในครั้งนี้คือรุ่นท็อป 64+6 GB ครับผม
จุดเด่น
- ดีไซน์พรีเมี่ยม
- จอ 6.3 นิ้ว แสดงผลสีแบบ Wide Color Gamut
- ลำโพงใช้ชิปเสียงจาก NXP
- สเปกดี แรม LPDDR4X, SNAP660
- กล้องโหมด Portrait และ Beauty ทั้งหน้าและหลัง
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh
จุดสังเกต
- ช่องชาร์จเป็น micro USB ไม่มีชาร์จไว
- ไม่รองรับ Wi-Fi 5 GHz
- ใช้หน่วยความจำชนิด emmc
ดีไซน์ระดับพรีเมียม
ASUS Zenfone Max Pro (M2) มาพร้อมกับดีไซน์ที่หรูหรา พรีเมียม ทั้งหน้าจอกระจกแบบ 2.5D และฝาหลังโพลีคาร์บอเนตที่ทำเลียนแบบกระจก ที่ให้ความสวยงามและจับถือกระชับมือ ให้ความรู้สึกแบบมือถือราคาหลายหมื่น โดยเฉพาะฝาหลังที่มีการเคลื่อบสีหลายชั้นเพื่อให้แสงสะท้อนออกมาเป็นเส้นสวยงาม
จอใหญ่เต็มตา แสดงผลสีแบบ Wide Color Gamut
หน้าจอ ASUS Zenfone Max Pro (M2) มีขนาด 6.3 นิ้ว ใหญ่สะดุดตา แต่ตัวเครื่องไม่รู้สึกเทอะทะอะไรเพราะดีไซน์ฝาหลังโค้งเข้ากับอุ้งมือ ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 6 ที่มั่นใจได้เรื่องความแข็งแรง นอกจากนั้นยังแสดงผลสีแบบ Wide Color Gamut ให้สีที่สดใสสวยงาม ซึ่งหาได้ยากในมือถือระดับราคานี้
ASUS Zenfone Max Pro (M2) มาพร้อมกับ Widevine DRM Level L1 สามารถดูภาพยนตร์ในแอป Netflix ได้ความละเอียดระดับ HD ชัดใส สวยงาม
ความสว่างจอค่อนข้างดี สามารถใช้งานกลางแจ้งได้แบบสบายๆ
ลำโพงเสียงดี ฟังเพลงเพราะด้วยชิปเสียงจาก NXP
สิ่งที่ ASUS ใส่ใจมาโดยตลอดคือเสียงจากลำโพง ASUS Zenfone Max Pro (M2) มาพร้อมลำโพงหนึ่งตัวที่ท้ายเครื่อง ใช้ชิปเสียงของ NXP ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Smart Amplifier ที่จะวิเคราะห์เสียงและเร่งความดังให้อย่างเหมาะสม เสียงลำโพงจะไม่มีการแตกเวลาใช้งาน
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลง ASUS Zenfone Max Pro (M2) ยังมีช่องหูฟัง 3.5 มม. ให้คุณเสียบหูฟังมีสายตัวโปรดของคุณได้ และมีวิทยุ FM Radio ด้วย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบแบบไร้สาย ASUS Zenfone Max Pro (M2) รองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth Codec สูงสุดคือ AptX HD ที่ให้เสียงระดับเดียวกับฟังจากแผ่น CD เลย (แต่ต้องเป็นไฟล์เสียงที่มีคุณภาพสูงพอ และหูฟังต้องรองรับด้วยนะ) ส่วนที่ชอบมากๆ คือสามารถกดสลับ Bluetooth Codec จาก AptX HD เป็น AptX ธรรมดาที่เสียงอาจจะดีไม่เท่า แต่มีความสเถียรของสัญญาณสูงกว่าได้จากแถบแจ้งเตือนเลย สะดวกมากๆ เวลาใช้หูฟังไร้สายในสถานที่ที่สัญญาณรบกวนเยอะ เช่น ตามห้างสรรพสินค้า ใจกลางตัวเมือง เป็นต้น
Android เรียบๆ สไตล์ Stock Android ใช้งานลื่นๆ เสริมแต่งด้วยฟีเจอร์สไตล์ ASUS
ด้านการใช้งานจริง ASUS Zenfone Max Pro (M2) มาพร้อม Android ที่ไร้การปรับแต่งสไตล์ Stock Android การใช้งานลื่นไหลไม่มีสะดุด แอนิเมชันต่างๆ ลื่นไหลมาก
ถึงแม้จะเป็นสไตล์ Stock Android แต่ทาง ASUS ก็มีการเพิ่มเสริมเติมแต่งฟีเจอร์บางอย่างเข้ามาให้เราใช้งาน ซึ่งล้วนแต่เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ทั้งนั้น อย่างเช่นการเปิดหน้าจอแบบอัจฉริยะ ซึ่งจะไม่ล็อกหน้าจออัตโนมัติเมื่อพบว่าเรากำลังจ้องหน้าจออยู่
โหมดแสงตอนกลางคืนที่ให้เราตั้งเวลาเปิดปิดโหมดถนอมสายตาได้
หน้าจอ Ambient ที่จเปิดอัตโนมัติเมื่อมีการแจ้งเตือนเข้า ไม่จำเป็นต้องคอนเปิดหน้าจอมาดูเอง
ZenMotion ที่ให้เราเปิดและปิดหน้าจอง่ายๆ ด้วยการแตะที่หน้าจอ 2 ที
ปลดล็อกได้ทั้งใบหน้าและสแกนลายนิ้วมือ
ด้านระบบความปลอดภัยหายห่วง สามารถใช้งานได้ทั้งง่ายละสะดวกสบายด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง และสแกนใบหน้าด้วยกล้องหน้าด้านหน้าเครื่อง สแกนใบหน้าทำงานเร็วมาก
เล่นเกมลื่นๆ ด้วย SNAP660
ASUS Zenfone Max Pro (M2) ขับเคลื่อนด้วย Qualcomm Snapdragon 660 ชิปเซ็ตยอดฮิตสำหรับมือถือ Android ราคาประมาณนี้ ด้วยประสิทธิภาพดีรวมกับการใช้พลังงานที่เหมาะสม สามารถเล่นเกมดังๆ ในปัจจุบันได้หมด เกม RoV สามารถเปิดภาพเฟรมเรทสูงได้ จับคู่กับแรมแบบ LPDDR4X ให้คุณใช้งานได้ลื่นๆ
พื้นที่เก็บข้อมูลแบบเหลือเฟือ
ASUS Zenfone Max Pro (M2) ให้พืนที่เก็บข้อมูลภายในแบบ emmc มา 64 GB ซึ่งถือเป็นความจุพื้นฐานในปัจจุบัน แต่หากกลัวว่าพื้นที่จะไม่พอยังสามารถใส่ microSD ได้สูงสุดถึง 2 TB (แต่ปัจจุบันมีขายสูงสุดเพียง 512 GB) แถมช่องใส่ microSD เป็นแบบแยกกับช่องซิม สามารถใส่พร้อม 2 ซิมได้ด้วย
นอกจากนั้น ASUS ยังแถมพื้นที่ใน Google Drive มาให้ใช้งานฟรีๆ อีก 100 GB เป็นเวลา 1 ปีด้วย
ฮาร์ดแวร์มาครบ ไม่มีกั๊ก
ส่วนสำคัญที่อยากจะพูดถึงของเจ้า ASUS Zenfone Max Pro (M2) คือการให้ฮาร์ดแวร์ต่างๆ มาอย่างครบครัน ไม่มีกั๊ก มีเซ็นเซอร์ Gyroscope สำหรับการใช้งาน AR/VR ดูวิดีโอ 360 องศามาด้วย พร้อมกับ NFC ให้คุณใช้จ่ายเงินแบบ Cashless payment หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Bluetooth ชิ้นโปรดของคุณได้แบบง่ายๆ
กล้องมาพร้อมโหมดหน้าชัดหลังเบลอและแต่งหน้า Beauty ทั้งหน้าและหลัง
ASUS Zenfone Max Pro (M2) มาพร้อมกล้องหลังคู่ 12MP+5MP รูรับแสง F/1.8 พร้อม AI ที่จะมาปรับค่ากล้องอัตโนมัติตามสิ่งที่เราถ่าย
นอกจากโหมด Auto แล้วจะมีโหมด HDR ที่ถ่ายภาพในแสงต่างกันมากๆ ให้เก็บรายละเอียดมาครบ และโหมดถ่ายภาพกลางคืนที่จะเปิดชัตเตอร์นานกว่าปกติเพื่อให้เก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน
สำหรับโหมดยอดฮิตอย่างหน้าชัดหลังเบลอสามารถใช้งานได้อย่างดี พร้อมโมดแต่งหน้าปรับได้ 3 ระดับ
กล้องหน้า 13MP รูรับแสง F/2.0 มาพร้อมโหมดแต่งหน้าและหน้าชัดหลังเบลอเหมือนกล้องหลัง
แบตเตอรี่บิ๊กเบิ้ม
แบตเตอรี่ 5,000 mAh ของ ASUS Zenfone Max Pro (M2) ทำให้ใช้ข้ามวันได้แบบสบายๆ จุใจทั้งคนใช้งานทั่วไปและเกมเมอร์ แต่การชาร์จก็จะนานสักหน่อยตามขนาดของแบตเตอรี่ จากการทดสอบชาร์จเต็มก้อนใช้เวลาประมาณ 4 ชม.
รองรับสองซิม 4G+3G
ASUS ZenFone Max Pro (M2) รองรับการใช้งาน 2 ซิมพร้อมกัน โดยทั้ง 2 ช่องรองรับ
4G แต่สามารถเปิดใช้งาน 4G ได้ทีละซิมเท่านั้น และอีกซิมจะถูกตัดเป็น 3G
อัตโนมัติ
สรุป
ASUS Zenfone Max Pro (M2) เป็นมือถือที่มีความครบครันทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและใช้ในการเล่นเกมสำหรับเหล่าเกมเมอร์ มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม วัสดุระดับพรีเมียม จนไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นมือถือราคาต่ำหมื่น