รีวิว ASUS ROG Phone พาร์ทการใช้งานทั่วไป เล่นเกมก็เด่น ใช้งานทั่วไปก็เวิร์ค ฟีเจอร์มาแบบจัดเต็ม
เราได้ทำการ UNBOX และทดสอบการใช้งานด้านการเล่นเกมตามจุดประสงค์หลักของ ROG PHONE กันไปแล้ว มาดูว่าการใช้งานทั่วไปของ ROG PHONE เป็นอย่างไรบ้าง บอกได้เลยว่านี่เป็นมือถือที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว
ดีไซน์แบบเกมเมอร์แต่จับถนัดมือ
หน้าตาของ ROG PHONE จะดูโฉบเฉี่ยวล้ำสมัยสไตล์เกมเมอร์ ส่วนการจับถือถนัดมือมาก แม้จะหนักไปนิดที่ 200 กรัมแต่ถือว่าไม่แย่อะไร รวมกับหน้าจอไร้ติ่งที่หลายคนน่าจะชอบกัน
จัดเต็มด้านความบันเทิง ทั้งดูหนังและฟังเพลงได้แบบเต็มอิ่ม
ด้วยความที่เป็น Gaming Phone ทำให้มันถูกออกแบบมาเพื่อการเสพความบันเทิงแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ AMOLED ขนาด 6 นิ้วไร้ติ่ง รองรับการแสดงผลแบบ HDR พร้อมชิปอัปเกรดการแสดงผลแยก สามารถแสดงสีได้ครอบคลุม 108.6% DCIP3 ให้คุณจุใจกับการดูหนังและชมวิดีโอได้อย่างครบทุกอรรถรส
นอกจากนั้นทาง ASUS ยังใส่ซอฟต์แวร์ Splendid ให้คุณสามารถปรับสีหน้าจอได้ตามใจ เพื่อให้ได้สีที่เที่ยงตรงที่สุด
ด้านเสียงก็ดีไม่แพ้กัน ROG PHONE มาพร้อมลำโพงคู่ด้านหน้าที่นอกจากจะเสียงดี เสียงดังแล้ว มิติเสียงยังดีอีกด้วย แถมมีช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้คุณต่อหูฟังตัวโปรดได้ทันที ไม่ต้องใช้อแดปเตอร์แปลง รองรับ DTS:X Ultra 1.0 สำหรับหูฟังไร้สายก็ไม่ต้องกังวลเพราะรองรับ Bluetooth Codec อย่างครบถ้วนจนถึง LDAC เลยทีเดียว
นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่มือถือเรือธงส่วนใหญ่ตัดทิ้งไปแล้ว นั่นก็คือวิทยุ FM นั่นเอง
กล้องคู่มาพร้อมเลนส์มุมกว้าง
ปกติมือถือสำหรับการเล่นเกมมักจะมีกล้องคุณภาพแย่จนไม่อยากพูดถึง แต่สำหรับ ROG PHONE กล้องถือว่าใช้ได้ทีเดียว โดยกล้องหลังใช้กล้องคู่ กล้องมุมปกติ 16 ล้านพิกเซลคู่กับกล้องเลนส์ Wide 120 องศา ที่ช่วยให้คุณเก็บภาพได้กว้างขึ้น ถ่ายภาพสนุกขึ้น มีโหมด AI ช่วยตั้งค่ากล้องให้เหมาะสมกับสิ่งที่จะถ่ายอัตโนมัติ
ฟีเจอร์ Super Resolution ที่จะทำการถ่ายหลายๆ ภาพด้วยความรวดเร็ว และนำภาพมารวมกันเป็นภาพความละเอียด 48 ล้านพิกเซล สามารถเอาไปซูมครอปได้ตามใจชอบโดยไม่ต้องง้อเลนส์ซูม
สำหรับฟีเจอร์หน้าชัดหลังเบลอของ ROG PHONE ได้ออกแบบมาสำหรับใช้กับคนเท่านั้น ถ้านำไปใช้กับอย่างอื่นมันจะเพี้ยนๆ หน่อย
ที่ประทับใจสุดคือโหมด Pro ที่นอกจากจะถ่าย RAW ได้แล้ว ยังสามารถลากความเร็วชัตเตอร์กันได้แบบสุดๆ ที่ 32 วินาทีไปเลย ถูกใจสายถ่ายดาวแน่นอน
สำหรับกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล F2.0 ไม่หวือหวา แต่ก็ไม่แย่ มีโหมดบิวตี้ด้วยนะ
กล้องหน้า โหมดแต่งหน้า 3 ระดับ |
Zenimoji
มาตามเทรนด์ Animoji ที่ให้เราใช้ตัวการ์ตูน 3 ที่สามารถเคลื่อนไหวเอียงหัว กระพริบตา อ้าปากตามเราได้ ความเจ๋งของมันคือ ใช้กับแอปแชทต่างๆ ก็ได้ด้วย ไม่จำเป็นต้องใช้กับแอปของตัวเองเพียงอย่างเดียว โดยผมทดสอบ Video call ด้วย Facebook Messenger ก็สามารถใช้ได้หายห่วง หรือใครจะบันทึกเป็นไฟล์ GIF ไว้ส่งให้เพื่อนก็ได้นะ
สั่งงานเครื่องด้วยทางลัดและ Gesture แสนสะดวก
ต้องบอกเลยว่านี่คือมือถือที่มี Gesture เยอะมาก เริ่มจาก AirTriggers ที่เอาไว้ใช้สั่งงานเครื่องด้วยการบีบเครื่อง ที่สามารถแยกได้ทั้งบีบสั้น บีบยาว และยังแยกอีกว่าระหว่างปิดจอและเปิดจออีกด้วย รวมเป็น 4 คำสั่งเลย
ถัดมาคือ Fingerprint sensor ที่สไลด์นิ้วมือที่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อเลื่อนแถบ Notification ลงมาได้
สามารถแตะ 2 ครั้งที่หน้าจอเพื่อเปิดและปิดจอได้ด้วย
เวลาที่ปิดหน้าจอสามารถใช้นิ้วลากเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อเรียกแอปจากหน้าปิดหน้าจอได้
ฟีเจอร์เสริมสำหรับ Chrome
ใครที่ใช้ Chrome ในการเข้าเว็บต่างๆ ROG PHONE จะมีฟีเจอร์เสริมเล็กๆ น้อยๆ มาให้ใช้งานด้วย คือมี Bookmark ส่วนตัวที่แยกมาจากในแอปอีกที และอีกฟีเจอร์ที่ผมชอบมากคือ Reader mode ที่จะทำการจัดเรียงตัวอักษรและเปลี่ยนบ็คกราวด์ ตัดส่วนที่ไม่สำคัญออกจากหน้าเว็บ ทำให้เราอ่านเนื้อหายาวๆได้ง่ายขึ้น
Twinapps โคลนแอปได้ไม่จำกัด
สำหรับคนที่ใช้แอปต่างๆ มากกว่าหนึ่งแอคเคาต์ ฟีเจอร์โคลนแอปเป็นฟีเจอร์ที่จำเป็นมาก สำหรับ ROG PHONE การโคลนแอปไปไกลกว่าการโคลนพวกแอป Social Media ทั้งหลาย เพราะเขาสามารถโคลนเกมต่างๆ ได้ด้วย
ระบบ AI ที่ช่วยให้เครื่องลื่นตลอดเวลา
นอกจากฮาร์ดแวร์สุดแรงแล้ว ROG PHONE ยังมาพร้อมกับ AI ที่ช่วยทำให้เครื่องดีขึ้นในด้านต่างๆ และช่วยให้การใช้งานเครื่องลื่นไหลตลอดเวลา เปิดแอปได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีหน่วง
มาพร้อมโหมดประหยัดแบตที่หลากหลาย และ AI ที่ช่วยถนอมแบตเวลาชาร์จ
ROG PHONE มาพร้อมแบตเตอรี่ 4,000 mAh ที่ให้การใช้งานได้หมดวันโดยไม่ต้องชาร์จ แต่หากต้องการใช้งานนานกว่านั้น ROG PHONE ยังมาพร้อมโหมดประหยัดพลังงานถึง 2 โหมด และยังสามารถจัดการแอปที่จะเปิดตัวเองอัตโนมัติได้อย่าง
สำหรับการชาร์จ ROG PHONE มาพร้อมหัวชาร์จชาร์จเร็ว 30W ชาร์จได้เร็วทันใจ แต่ไม่ต้องกลัวแบตเตอรี่เสื่อมเร็วเพราะ ROG PHONE ได้นำ AI เข้ามาช่วยจัดการกระแสไฟให้เหมาะสมกับการใช้งานและความร้อนของเครื่องขณะชาร์จ
ต่อขึ้นจอผ่านสาย HDMI ดู Netflix ได้ด้วย
ปกติโหมดต่อจอขึ้นทีวีผ่านสายมักจะมีปัญฆากับคอนเทนต์ที่มีลิขสิทธิ์ แต่สำหรับ ROG PHONE ไม่มีปัญหานั้น ทั้งภาพ เสียง และซํบไตเติลมาครบ ดูได้ไม่มีกระตุก ไม่มีดีเลย์
สรุป
ROG PHONE เป็นมือถือที่นอกจากจะเหมาะสำหรับการเล่นเกมแล้ว การใช้งานทั่วไปก็ไม่มีปัญหา มาพร้อม Gesture ต่างๆ ให้การสั่งงานเครื่องง่ายขึ้น นำ AI มาช่วยจัดการเครื่องในหลายๆ ด้าน และกล้องก็จัดว่าดีซึ่งต่างจากมือถือเกมมิ่งทั่วไปที่มักไม่เน้นกล้อง