หากพูดถึงจุดเด่นของ OPPO เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงกล้องหน้า แต่ถ้าย้อนอดีตดูกันอย่างจริงจังแล้ว OPPO มีอีกจุดเด่นคือระบบชาร์จเร็วในชื่อ VOOC ที่ปรากฎตัวครั้งแรกเมื่อปี 2014 กับ OPPO Find 7 ซึ่งระบบนี้ก็อยู่บน OPPO F9 ด้วย
ทดสอบความเร็วของ VOOC Flash Charge
ผ่านไปราว 10 นาที OPPO F9 ชาร์จได้ 21% ส่วน Galaxy Note 9 ชาร์จได้ 14% ต่างกัน 7%
ผ่านไปราว 20 นาที ตอนนี้ OPPO F9 ชาร์จได้ 42% ส่วน Galaxy Note 9 ชาร์จได้ 27% ต่างกัน 15%
ผ่านไปราว 30 นาที OPPO F9 ชาร์จได้ 62% ส่วน Galaxy Note 9 ชาร์จได้ 39% ต่างกัน 23%
ผ่านไปราว 40 นาที OPPO F9 ชาร์จได้ 79% ส่วน Galaxy Note 9 ชาร์จได้ 51% ต่างกัน 28%
ผ่านไปราว 50 นาที OPPO F9 ชาร์จได้ 89% ส่วน Galaxy Note 9 ชาร์จได้ 62% ต่างกัน 27%
ครบ 1 ชั่วโมงตอนนี้ OPPO F9 ทำได้ที่ 94% ส่วน Galaxy Note 9 อยู่ที่ 72% ต่างกัน 22%
70 นาทีผ่านไป OPPO F9 ชาร์จได้ 97% ส่วน Galaxy Note 9 ชาร์จได้ 82% ต่างกัน 15%
เข้าสู่นาทีที่ 80 ทาง OPPO F9 ก็เกือบถึงเส้ยชัยที่ 99% ส่วน Galaxy Note 9 ตามมาที่ 88% ต่างกัน 11%
ถึงเวลา 1:30 ชั่วโมงฝั่ง OPPO F9 ก็ครบ 100% ส่วน Galaxy Note 9 ทำได้ที่ 92% ต่างกัน 8%
วิเคราะห์ผลการทดสอบ VOOC Flash Charge
ทีนี้เราลองเอาผลลัพธ์มาวิเคราะห์กันต่อ จะเห็นได้ว่า VOOC ของ OPPO F9 ทำได้เร็วกว่าอย่างชัดเจนในช่วง 70 นาทีแรก โดยทำได้ 97% หรือพูดง่ายๆ ก็คือชาร์จได้เกือบเต็มแล้ว ส่วน Adaptive Fast Charge ของ Galaxy Note 9 ทำได้ที่ 82% เท่านั้น
ในช่วง 70 นาทีแรก OPPO F9 ก็ทำได้ดีกว่า Galaxy Note 9 ไม่ว่าจะคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์หรือคิดแบบความจุ mAh
ถ้าคำนวณเป็นปริมาณ mAh ก็จะพบว่า OPPO F9 ทำได้เยอะกว่าในช่วง 70 นาทีแรก โดยได้ไปถึง 3395 mAh ส่วน Galaxy Note 9 ทำได้ 3280 mAh ซึ่งทั้งคู่เหมือนกันตรงที่จะชาร์จเร็วในช่วงแรก และค่อยๆ ลดความเร็วลงเรื่อยๆ
ระบบชาร์จเร็วบนสมาร์ทโฟนที่มีในท้องตลาดตอนนี้ เหมือนกันตรงที่จะชาร์จเร็วในช่วงต้น และจะเริ่มลดความเร็วในช่วงประมาณ 80% เพื่อเป็นการควบคุมด้านความร้อนสะสมในตัวเครื่องและความปลอดภัย
ทำความรู้จัก VOOC Flash Charge ให้มากขึ้น
VOOC เป็นคำที่มาจาก “Voltage Open Loop Multi-step Constant-Current” ที่ถูกคิดค้นโดยพนักงาน OPPO ชื่อว่า Jeff Zhang โดยใช้เวลาวิจัยและพัฒนาหลายปี ก่อนประสบผลสำเร็จและออกสู่สายตาชาวโลกครั้งแรกเมื่อปี 2014 บน OPPO Find 7 และคว้าตำแหน่งชาร์จเร็วที่สุดในโลกไปครอง
นอกจากเรื่องความเร็วในการชาร์จแล้ว VOOC Flash Charge ยังคำนึงถึงความปลอดภัย โดยมีการป้องกัน 5 ชั้นตั้งแต่ตัวอแดปเตอร์ไปจนถึงชิ้นส่วนภายใน และ VOOC ได้นำ MCU มาใช้แทนที่วงจรลดความดันกระแสไฟฟ้า จึงสามารถป้องกันไม่ให้เครื่องร้อนจนเกินไปขณะชาร์จ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ VOOC เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของทาง OPPO โดยมีสิทธิบัตรทั่วโลกกว่า 500 ฉบับ และรุ่นที่พัฒนาและวางขายล่าสุดคือ Super VOOC Flash Charge ที่อยู่บน OPPO R17 Pro
