รีวิว Ninebot by Segway KickScooter ES2 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าพับได้พร้อมไฟรอบคัน

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าพับได้ Ninebot by Segway KickScooter ES2 เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นที่หลายคนสนใจ ด้วยความสะดวกในการใช้งานที่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ทันที และประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายทั้งคนที่ไม่มีพื้นที่ในการเก็บรถ หรือแม้แต่การเดินทางประจำวันในระยะใกล้ๆ

จุดเด่นของ Ninebot by Segway KickScooter ES2

Ninebot by Segway KickScooter ES2 มีน้ำหนักอยู่ที่ 12.5 กก. ซึ่งจัดว่าเป็นน้ำทั่วไปตัวของสกู๊ตเตอร์ลักษะนี้ โดยรุ่นที่มักถูกเอามาเทียบก็คือ Mi Electric Scooter เนื่องด้วยมีสเปกและราคาใกล้เคียงกัน ซึ่งน้ำหนักขนาดนี้ก็สามารถยกในะระยะใกล้ๆ ได้ เช่น ยกขึ้นหอพักที่อยู่คนละชั้น แต่ไม่เหมาะจะยกไกลๆ

ในการพับ Ninebot by Segway KickScooter ES2 ใช้วิธีเหยียบลงไปที่แผ่นปลดล็อก แล้วดันแฮนด์รถไปด้านหน้าเล็กน้อยก่อนจะดึงกลับเพื่อพับ โดยต้องยกขาตั้งขึ้นก่อนเพราะหลังจากพับเก็บแล้วตัวรถจะลงไปชิดกับพื้น

ต่างจากของ Mi Electric Scooter ที่จะเป็นการพับในส่วนของแกนบังคับแฮนด์รถ ทำให้สามารถเลื่อนได้ ซึ่งทั้งสองแบบก็ไม่ได้มีผลต่างในแง่การใช้จริงเท่าไรนัก เพียงแต่แบบ Ninebot by Segway KickScooter ES2 พับแล้วลากได้ค่อนข้างง่ายกว่า

วิธีการกางรถเพื่อใช้งานก็เพียงแค่กดที่บังโคลนหลังแล้วยกแฮนด์ขึ้นก็ให้เข้าล็อกก็พร้อมใช้งาน ส่วนหน้าจอของ Ninebot by Segway KickScooter ES2 เป็นแบบตัวเลขบอกความเร็ว พร้อมกับระดับแบตเตอรี่ที่เหลือ ซึ่งตรงนี้นับว่าสะดวกกว่าฝั่ง Mi ที่เป็นเพียงไฟ LED

ด้านความเร็วสูงสุดของ Ninebot by Segway KickScooter ES2 อยู่ที่ 25 กม./ชม. สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ระยะทางสูงสุด 25 กม. และรับน้ำหนักได้ 100 กก. ซึ่งเราสามารถเลือกระดับความเร็วได้ทั้งหมด 3 ระดับเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานและป้องกันอุบัติเหตุ เช่น การใช้งานในที่มีผู้คนพลุกพล่านก็เลือกล็อกความเร็วไว้ที่ต่ำสุด

สวยและปลอดภัยด้วยแสงไฟรอบคัน

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบางรุ่นอาจตัดเรื่องของแสงไฟออกไปเพราะมองว่าไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่สำหรับ Ninebot by Segway KickScooter ES2 จัดเต็มยิ่งกว่าเต็ม ด้วยไฟหน้าสำหรับส่องสว่าง รวมถึงไฟเบรคที่ด้านหลัง และยังมีแสงไฟใต้ตัวรถที่สามารถเลือกสีได้ตามใจชอบ

และยังเลือกได้ด้วยว่าจะให้แสงไฟมีการ Movement วิ่งวนแบบไหน และยังเลือกได้มากกว่า 1 สีทำให้มีความสวยงามโดดเด่นยิ่งขึ้น

แต่ในการใช้งานจริงผมเลือกที่จะปิดไฟใต้ตัวรถ เพื่อประหยัดพลังงานและก็ไม่รบกวนสายตาผู้คนจนเกินไป เว้นแต่ใช้ขับโชว์เล่นกันสนุกๆ ถึงจะเปิดไฟใต้ตัวรถ

อุปกรณ์เสริมมีน้อยแต่เพิ่มแบตเตอรี่ได้

ความต่างสำคัญของ Ninebot by Segway KickScooter ES2 และ Mi Electric Scooter ก็คืออุปกรณ์เสริมที่ Mi มีหลากหลายแต่ Segway แทบจะไม่มีเลย อย่างเช่นกระเป๋า, ตะกร้าหน้ารถ ฯลฯ แต่นั่นก็ใช่ว่าจะทำให้ Segway ดูด้อยกว่า เพราะ Ninebot by Segway KickScooter ES2 สามารถเพิ่มแบตเตอรี่ได้อีกก้อน โดยประกอบเข้ากับด้ามแฮนด์

หลังจากประกอบแบตเตอรี่เข้าไปแล้วไม่ใช่แค่ใช้งานได้นานขึ้น แต่ยังทำให้รถวิ่งได้เร็วขึ้นอีกด้วย โดยขยับขึ้นไปเป็นความเร็ว 30 กม./ชม. และใช้งานได้ไกลสูงสุด 45 กม.

สาเหตุหนึ่งที่มีความเร็วที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับยานพาหนะอื่นๆ ก็คือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันจะคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยด้วย ยกเว้นกลุ่มที่ออกแบบสำหรับการใช้งานแบบ Extreme ก็อาจมีความเร็วที่สูงเกิน 60 กม./ชม.

แม้ว่าอุปกรณ์เสริมของรุ่นนี้จะหายากมากแต่ก็ยังโชคดีที่สามารถใส่ GoPro เข้ากับแฮนด์ได้ ซึ่งที่จริงแล้วไม่เฉพาะ GoPro แต่เป็นอุปกรณ์ใดๆ ก็ได้ที่สามารถต่อเข้ากับแฮนด์

หมดห่วงเรื่องยางแตกระหว่างใช้งาน

Ninebot by Segway KickScooter ES2 เลือกใช้ยางตันทั้งหน้าและหลังทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องยางแตก โดยเฉพาะการใช้งานในบ้านเราที่ท้องถนนเต็มไปด้วยพื้นผิวที่พร้อมปะทะ แต่ข้อเสียของยางตันก็คือแรงสะเทือนจากการขับขี่จะถูกส่งขึ้นมาหาตัวเราเต้มๆ แต่ยังดีที่ Ninebot by Segway KickScooter ES2 มีระบบลดแรงสั่นสะเทือนแบบสปริง หรือพูดง่ายๆ ก็คล้ายกับโช้คนั่นล่ะครับ

การที่ยางไม่วันแตกประหนึ่งเหมือนกดสูตรโกง ก็ใช่ว่าจะไม่ต้องซ่อมบำรุงเลย เพราะในความเป็นจริงแล้วเมื่อขับขี่ไประยะหนึ่ง หน้ายางก็จะสึกและไม่เกาะถนน นั่นหมายความว่าเราก็ต้องเปลี่ยนยางอยู่ดี เพียงแต่ใช้งานได้อย่างมั่นใจว่ายางจะไม่แตกระหว่างทางอย่างแน่นอน

ตั้งค่าง่ายกว่าด้วยการเชื่อมต่อแอพ

ในกรณีที่ต้องการตั้งค่าหรือดูข้อมูลที่มากขึ้นก็สามารถใช้งานร่วมกับแอพ Segway-Ninebot ได้ ซึ่งการตั้งค่าแสงไฟก็ต้องทำผ่านแอพนี้ รวมถึงโหมดล็อกล้อที่เหมาะจะใช้เมื่ออยู่ห่างจากรถไม่มากนัก โดยจะมีการแจ้งเตือนมายังมือถือเมื่อล้อมีการเคลื่อนไหว บางคนก็ใช้วิธีต่อมือถือ Mount เข้ากับแฮนด์เพื่อการควบคุมหรือดูข้อมูลที่ง่ายขึ้น

แหล่งซื้อและราคาของ Ninebot by Segway KickScooter ES2

ต้องบอกก่อนว่า Segway ในบ้านเรามีหลากหลายราคาและก็มีเงื่อนไขการบริการต่างกันไป ที่เห็นขายกันก็ตั้งแต่ 15,900 บาท ไปจนถึง 27,900 บาท โดยร้านที่ผมเลือกซื้อคือ Xiaomi Lovers ที่มีราคาหน้าร้านที่ 17,900 บาท

ความเห็นจากการใช้งานจริง

สิ่งแรกที่คนอยากรู้เลยข้อกำหนดกฎหมายและการโดยสารรถไฟฟ้า ซึ่งตรงนี้ผมได้สอบถามจากเพิ่มเติมเพื่อนๆ ที่ใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าด้วยกันเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด และข้อมูลส่วนใหญ่บอกว่าสามารถขับขี่บนฟุตบาทได้ไม่ต่างจากจักรยาน เพียงแต่ต้องระวังผู้คนด้วย ส่วนการใช้บนรถไฟฟ้า BTS, MRT หรือ Airport Rail Link ก็สามารถนำเข้าไปได้ แต่มีเงื่อนไขว่าห้ามขึ้นไปทำท่าขี่หรือไถๆ ให้รถเลื่อน จะต้องจูงลากอย่างเดียวเท่านั้น

แม้ว่าจะเอาขึ้นรถไฟฟ้าและรถโดยสารทั่วไปได้ทั้งหมด แต่ก็ต้องคำนึงถึงผู้โดยสารคนอื่นด้วยว่าเราจะไม่ไปเบียดเบียนและรบกวนเค้า

เรื่องของการขับขี่ทำได้สะดวกมากและยังปลอดภัยในการออกตัว เพราะเราไม่สามารถกดคันเร่งได้ในขณะรถหยุดนิ่ง จะต้องมีการไถให้รถไหลก่อนถึงจะกดเร่งได้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดยปุ่มคันเร่งและเบรคถูกออกแบบมาให้ควบคุมด้วยนิ้วโป้ง ซึ่งตรงนี้ก็แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน อย่างไรก็ตามเราสามารถตั้งโหมดเร่งค้างได้ ซึ่งเหมาะสำหรับการขับระยะไกลที่ไม่ต้องการกดคันเร่งตลอดเวลา และเมื่อกดเบรคหรือเร่งอีกครั้งก็จะเป็นการยกเลิกโหมดนี้

ระบบเบรคที่ใช้วิธีกดเหมือนคันเร่งจะเป็นแบบค่อยๆ หยุดอารมณ์คล้ายๆ เบรค ABS ที่ไม่ใช่หยุดแบบหัวทิ่มเหมือนเบรคของจักรยานทั่วไป ซึ่งตรงนี้ก็มีข้อดีตรงที่ตัวเราจะไม่พุ่งออกจากรถแน่ๆ แต่ข้อเสียคือบางหยุดรถได้ไม่ทันใจเท่าไร

ผมใช้งาน Ninebot by Segway KickScooter ES2 แทบทุกวัน โดยยกจากห้องพักชั้น 2 ลงบันไดแล้วก็ออกไปซื้อของที่ตลาด ซึ่งผมแนะนำว่าควรแบกเป้สักใบจะดีกว่าการแขวนถุงไว้ที่ด้ามจับ โดยรวมแล้วผมรู้สึกว่ามันเหมาะมากๆ กับคนที่อยู่หอพักหรือคอนโด ที่ไม่มีพื้นที่สำหรับจอดรถ การมี Ninebot by Segway KickScooter ES2 ที่พับเก็บยกขึ้นห้องได้ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่สะดวกมากๆ

ในราคาไม่ถึงสองหมื่น ช่วยย่นระยะเวลาการเดินตากแดดและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้แบบนี้ ผมมองว่าคุ้มค่ามากครับ