แม้ว่ากล้อง 360 องศาวนเวียนในบ้านเรามานาน แต่ที่ผ่านมากลับไม่มีใครสร้างกระแสได้ดีเท่า Huawei EnVizion 360 ด้วยราคาที่จับต้องได้ง่าย รวมถึงคุณภาพไฟล์ที่ลงตัวกว่ายุคสมัยก่อน และการออกแบบที่พกพาง่าย
Highlight
- กล้อง 360 องศาที่ราคาถูก พกง่าย และคุณภาพดี
- แชร์ไปยังโซเชี่ยลได้ง่าย รวมถึงการแชทที่ประยุกต์ใช้ได้
- รองรับมือถือ Android ทุกรุ่นที่เป็น USB-C
- ราคา 4,490 บาท ที่ Huawei Official Store บน Lazada
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Huawei EnVizion 360 เป็นที่นิยมในเวลานี้ เกิดจากโปรโมชั่นสำหรับคนที่ Pre-Order Huawei P20 Pro ที่ได้รับไปฟรีๆ ทำให้เข้าถึงผู้ใช้ได้มากกว่ารุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Ricoh Theta, Insta 360 และอีกสารพัดรุ่น รวมถึงราคาเพียง 4,490 บาท ซึ่งเข้าถึงได้ง่ายกว่าคู่แข่ง และยังรองรับมือถือ Android ทุกรุ่นที่เป็น USB-C ด้วย
ภายในกล่องมีตัวกล้อง 360 และซองผ้าสำหรับพกพา โดยตัวกล้องมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซลทั้งด้านหน้าและหลัง ส่วนการใช้งานก็เพียงโหลดแอพ Huawei 360 และทำการต่อกล้องเข้ากับมือถือก็พร้อมใช้งานแล้ว
โหมดการใช้งานหลักมีทั้งหมด 3 อย่างได้แก่ ภาพนิ่ง, คลิป และไลฟ์ ซึ่งคุณภาพของภาพนิ่งและคลิปจัดว่าสูสีกับกล้อง 360 องศาราคาแตะหมื่น แต่สำหรับโหมดไลฟ์จะได้ไฟล์ที่คุณภาพต่ำลงมาเนื่องจากถูกบีบอัดด้วยความเร็วเน็ตและ Facebook ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่เจอกันทุกรุ่น
การถ่ายภาพนิ่งแบบ 360 องศาสามารถอัพโหลดไปยังช่องทางต่างๆ ได้เช่น Facebook, Line, Twitter, Google Photos, Instagram ซึ่งจะเป็นไฟล์แบบ 360 องศาที่หมุนดูรอบทิศได้ แต่ก็สามารถเลือก Snap แคปภาพแบบเลือกมุมองศาหรือปรับโหมดได้ 4 แบบคือ Fisheye, Perspective, Cystal ball และ Little planet ที่หลายคนชอบ
จะเห็นว่าเราสามารถประยุกต์ใช้ในแบบที่ถ่ายก่อนแล้วค่อยเลือกมุมทีหลังก็ได้ หรืออย่างบางครั้งที่เราอยู่ในเหตุการณ์สำคัญและไม่รู้ว่าควรจะยกกล้องขึ้นมาถ่ายมุมไหน การเลือกใช้กล้อง 360 องศาก็เป็นวิธีที่ดีเพราะสามารถเก็บภาพได้ทุกมุมแล้วค่อยมาเลือกองศาทีหลัง
ในกรณีที่แชร์แบบ 360 องศาก็จะสามารถหมุนดูได้ตามตัวอย่างด้านล่างนี้ และยังสามารถส่งแชททางไลน์ได้อีก จะเอาไว้แชร์บรรยากาศให้เพื่อนดู หรือเอาไว้ยืนยันตัวตนและสถานที่ให้แฟนดู …อันนี้ก็แล้วแต่การประยุกต์ใช้
คลิปวีดีโอจะถูกจำกัดความยาวสูงสุดที่ 5 นาทีเพื่อไม่ให้กล้องทำงานหนักเกินไป เนื่องจากมีการนำคลิปจากกล้องทั้ง 2 ตัวเข้ามาปะติดเพื่อให้กลายเป็นคลิป 360 องศา ซึ่งใช้การประมวลผลทั้งกล้องและตัวเครื่องอยู่ไม่น้อย และก็สามารถอัพโหลดไปยังช่องทางต่างๆ ได้ไม่ต่างจากภาพนิ่ง ส่วนการไลฟ์ก็รองรับช่องทางหลักทั้ง Facebook และ YouTube
นอกจากคุณสมบัติหลักของความเป็นกล้อง 360 องศาก็มีเรื่องของการตกแต่งใส่ฟิลเตอร์ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้ดูแปลกตาออกไป และก็อยู่ที่ว่าใครจะเอาไปประยุกต์ใช้งานด้านไหน บางคนเอาไปใช้ถ่ายบรรยากาศในคอนโดเพื่อขาย หรือบางคนก็ใส่ความสร้างสรรค์ลงไปให้ได้มิติมุมมองที่แปลกตาก็ได้เช่นกัน