Xerox DocuPrint CM315 z เมื่อปริ้นเตอร์ตัวใหญ่ มาอยู่ในบ้าน

แม้ว่าเราจะเข้าสู่ยุค Paperless แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำธุรกิจยังจำเป็นต้องใช้สิ่งพิมพ์ นั่นเป็นเหตุให้ผมได้ลองใช้ Xerox DocuPrint CM315 z ซึ่งเป็นปริ้นเตอร์ที่ออกแบบการใช้งานมาสำหรับกลุ่มธุรกิจระดับ SME และมันก็สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับคนที่ไม่เคยใช้ของแบบนี้มาก่อนอย่างผมนี่ล่ะ

ย้อนไปเมื่อสมัยที่ยังต้องทำงานกับเอกสาร ผมก็มีปริ้นเตอร์ราคา 1,000-3,000 บาทใช้ตามประสานักศึกษา ที่เอาแค่พิมพ์ได้ก็เพียงพอแล้ว ต่อมาพอทำงานเปิดบริษัทก็ต้องการอะไรที่มากกว่านั้นเลยหาแนว All in One มาใช้แทนตามยุคสมัย ซึ่งตอนหลังก็แทบไม่ได้แตะของพวกนี้อีกเลย เพราะทุกสิ่งถูกทดแทนด้วยการทำงานแบบ Paperless …ไม่จำเป็นต้องสแกนอะไรอีกเพราะมือถือถ่ายรูปได้ ไม่จำเป็นต้องพิมพ์เพราะใช้ iPad Pro กับ Pencil เซ็นอนุมัติแล้วส่งกลับได้ทันที จนเกิดคำถามทันทีว่าผมจะมี Xerox DocuPrint CM315 z ไว้ในบ้านทำไม? …รู้ว่ามีแล้วดี แต่จะมีทำไม

พยายามครุ่นคิดอยู่พักนึงก็นึกได้ว่า Material ในเชิงการทำ Branding ยังจำเป็นต้องใช้สิ่งพิมพ์อยู่ ไม่ว่าจะเป็นป้ายบอกข้อมูล ฉลากสินค้า และอีกหลายสิ่ง …เมื่อได้เหตุผลมาเป็นข้ออ้างในการสู่ขอแล้ว ผมก็ไม่หาข้อมูลมากนักเพราะมีความเชื่อว่าปริ้นเตอร์ราคาหลายหมื่นมันก็คงดีกว่าอันละ 3,000 บาทที่เคยใช้แหละนะ สิ่งเดียวที่ผมกังวลและเป็นประสบการณ์อันเลวร้ายของหลายคนก็คือ “หมึกตัน” นั่นคือคำถามหลักที่ผมอยากรู้และคำตอบก็คือมันไม่ได้ตันง่ายขนาดนั้น

จากที่ได้เข้าไปฟังการใช้งาน Xerox DocuPrint CM315 z ก็ทำให้รู้ว่าแบรนด์นี้เค้าเน้นเรื่องการ Maintenance มาแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นมันต้องดูแลรักษาซ่อมแซมได้ง่าย แต่สิ่งที่นับว่าเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือระบบ Cloud และการจัดสิทธิ์ User

สิ่งแรกที่ทำให้คนอย่างผมที่ห่างไกลสินค้าประเภทนี้รู้สึกตื่นเต้นก็คือ การอ่านกระดาษ 2 ด้านภายในขั้นตอนเดียว ซึ่งผมเคยเห็นแต่การถ่ายเอกสารหรือสแกนที่ต้องพลิกกระดาษทีละด้าน แต่รุ่นนี้ดูดกระดาษครั้งเดียวก็อ่านข้อมูลได้ทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง

การเชื่อมต่อก็สามารถทำผ่าน WiFi สายแลนหรือจะเสียบ USB แบบดั้งเดิมก็ได้ แถมยังเสียบสายโทรศัพท์เพื่อส่ง Fax ก็ได้อีก นอกจากนี้ยังสามารถเสียบ Flash Drive เพื่อนำไฟล์มาพิมพ์หรือจะเก็บไฟล์ที่สแกนก็ได้ด้วย

ข้อดีอีกอย่างก็คือหน้าจอเป็นแบบสัมผัสและรองรับภาษาไทย ทำให้แสดงชื่อไฟล์ได้อย่างถูกต้อง และการที่มันรองรับ WiFi ทำให้สามารถสั่งพิมพ์งานจากมือถือได้ด้วย ส่วนขั้นตอนการเชื่อมต่อบนมือถือจะใช้วิธีติดตั้งแอพ หรือจะแตะ NFC ก็ได้เช่นกัน

การสแกนเลือกได้ว่าจะส่งเข้า Flash Drive, Network, USB หรือแม้แต่อีเมลและ Cloud Service อย่างเช่น Dropbox, Google Drive, OneDrive ส่วนการบริหารจัดการ User สามารถทำผ่านหน้าเว็บได้ และถาดใส่กระดาษก็จัดการขนาดกระดาษรวมถึงแก้ปัญหา Paper Jam ได้ง่ายอีกด้วย

การใช้งานจัดว่าทำได้ค่อนข้างง่าย สามารถเลือกโหมดสี-ขาวดำ ความละเอียดได้จากหน้าจอสัมผัส แต่ข้อเสียเล็กๆ ก็คือการตอบสนองของจอไม่ได้ไวเท่า Smartphone สมัยนี้ ยังมีหน่วงอยู่นิดๆ แต่เรื่องการสแกนและพิมพ์ถือว่าทำได้เร็วมาก และคุณภาพงานที่ได้ก็ดีมากเช่นกัน พิมพ์ออกมาได้คมมากๆ ในการสแกนก็ละเอียดขนาดที่ว่าต้นฉบับมีริ้วรอยยังไงก็ได้แบบนั้น ข้อดีอีกอย่างก็คือการใส่ Memory มาให้ 1 GB ทำให้การ Buffer ต่อคิวเอกสารทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย

บทสรุป

ปริ้นเตอร์เริ่มมีบทบาทน้อยลงสำหรับคนยุคนี้ในระดับ End User แต่ถ้ามองถึงธุรกิจขนาดเล็กขึ้นไปก็ยังจำเป็นต้องใช้งานอยู่ Xerox DocuPrint CM315 z เลยออกมาตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ ที่ต้องการงานแบบมีคุณภาพ ใช้งานได้สะดวกและทำงานได้รวดเร็ว การมีปริ้นเตอร์ดีๆ ไว้ใช้งานในธุรกิจก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้งานลื่นไหลมากขึ้น

หากรู้จักวิธีประยุกต์ใช้งานก็จะพบว่ามันเป็นเครื่องมือที่ทำให้กระบวนการทำงานง่ายขึ้น เช่น พนักงานกดสแกนเอกสารและเลือกปลายทางให้เป็นอีเมลของคนอนุมัติ หลังจากเซ็นเรียบร้อยก็กดสั่งพิมพ์จากปลายทางได้ทันที หรือแม้แต่การรับ-ส่งเอกสารต่างๆ ก็ทำให้การสื่อสารภายในทีมคล่องตัวมากขึ้นด้วย