สรุปงาน Google I/O 2019 | เปิดตัว Pixel 3a รุ่นกลาง อัปเกรดฟีเจอร์ให้ Search และ Assistant

Google จัดงาน Google I/O เป็นงานประจำปีของ Google ที่จะมีการอัปเดตสิ่งที่ Google จะทำในอนาคต และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

Google Search

สำหรับ Google Search ทาง Google จะเพิ่มฟีเจอร์ Full Coverage จาก Google News ที่จะรวมข้อมูลและ Time-line ของข่าวนั้นไว้ในที่เดียวกันมาอยู่ใน Google Search ด้วย

ผลการค้นหาจะเพิ่มการค้นหา Podcast เข้ามาด้วย

อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่คือสามารถดูโมเดล 3 มิติสำหรับผลการค้นหาบางอย่างได้โดยตรงในแอปเลย และสามารถนำมาวางบนสิ่งแวดล้อมจริงด้วย AR ได้ด้วย ในเบื้องต้นที่ Google นำมาโชว์ในงานมีการโชว์กล้ามเนื้อมนุษญ์ ฉลามขาว และรองเท้า New Balance

Google Lens

เพิ่มฟีเจอร์ช่วยเลือกเมนูอาหาร โดยเมื่อเราใช้ Google Lens ส่องที่เมนูอาหาร ทาง Google Lens จะแนะนำเมนูอาหารยอดนิยมของร้านนั้นให้ และสามารถคลิกแต่ละเมนูเพื่อดูรูปภาพ และรีวิวของเมนูนั้นๆ ได้ด้วย

เมื่อใช้ Google Lens ส่องที่ใบเสร็จ ตัวแอปจะช่วยคำนวณทิป และมีตัวช่วยสำหรับหารค่าอาหารในกรณีมีคนจ่ายค่าอาหารหลายคน

Google ร่วมกับนิตยสาร Bon Appétit สามารถใช้ Google Lens ส่องที่นิตยสารเพื่อแสดงวิธีทำอาหารเป็นวิดีโอได้ โดยในอนาคตจะร่วมมือกับนิตยสารหัวอื่นๆ เพิ่มเติม

Google Go

Google Go คือแอป Google เวอร์ชันย่อส่วนสำหรับมือถือที่สเปกต่ำ พื้นที่น้อย เช่น เหล่า Android Go ทั้งหลาย สำหรับฟีเจอร์ใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาคือความสามารถทางด้านกล้อง เมื่อจ่อกล้องไปที่ตัวหนังสือสามารถแปลภาษาข้อความในภาพได้ และสามารถอ่านออกเสียงข้อความในภาพ โดยจะมีไฮไลต์บนข้อความที่กำลังอ่านอยู่ ช่วยเหลือคนที่อ่านหนังสือไม่ออกได้เข้าใจสิ่งต่างๆ ง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้จะปล่อยให้ใช้ภายในเดือนนี้

Duplex

บริการที่เปิดตัวในงาน Google I/O เมื่อปีที่แล้ว โดยใช้ AI ช่วยในการรับโทรศัพท์และคุยแทนเราได้ ต่อยอดเป็นบริการ Call screen และ Call center สำหรับ SME ในสหรัฐอเมริกา สำหรับฟีเจอร์ใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาในปีนี้ชื่อว่า Duplex On Web ทำให้การจองสิ่งต่างๆ ออนไลน์ง่ายกว่าเดิม โดยระบบจะกรอกข้อมูลต่างๆ ใก้เราอัตโนมัติโดยดึงข้อมูลจาก Gmail, Maps และ Calendar ในงาน ทาง Google ได้โชว์ตัวอยางการจองรถเช่าโดยใช้ข้อมูลจากอีเมล์และนัดหมายในปฏิทินของเรา

Google Assistant

Google ประสบความสำเร็จในการลดข้อมูล Voice recognition จาก 100 GB เหลือเพียง 500 MB เท่านั้น ทำให้สามารถทำงานออฟไลน์ได้และแปลงเสียงเป็นตัวหนังสือได้รวดเร็วกว่าเดิม

ใน Google Pixel รุ่นถัดไปที่จะเปิดตัวปลายปี จะมาพร้อม Google Assistant ที่ทำงานเร็วกว่าเดิม เร็วในระดับที่ Google บอกว่าเร็วกว่าการกดปุ่มในหน้าจอ โดยในงานมีการโชว์สั่งงานให้ Google Assistant ควบคุมโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นสั่งเปิดแอป เปิดกล้อง แชท พิมพ์ด้วยเสียง ตัว Google Assistant ถูกลด UI ให้เหลือเพียงแถบเล็กๆ บน Navigation bar เท่านั้น และสามารถแยกแยะคำสั่งระหว่างการพิมพ์ด้วยเสียงได้ด้วย

ฟีเจอร์ใหม่ Picks for you โดยให้ Google Assistant เลือกสิ่งต่างๆ ให้เรา เช่น เมนูอาหาร และ Podcast โดยจะอิงตามการใช้งานของเรา

ฟีเจอร์ใหม่ Personalized help ทำให้ Google Assistant เข้าใจเรามากขึ้น เช่น หากพูดถึง Mom’s house นอกจากจะหมายถึงบ้านแม่แล้ว ยังหมายถึงสถานที่อีกเป็นพันๆ สถานที่ Google Assistant จะสามารถแยกได้จาก Context ว่าเรากำลังพูดถึงสถานที่ไหนอยู่

Car

โหมดขับรถสำหรับมือถือ สามารถเปิดได้ด้วยการเรียก Google Assistant แล้วบอก Let’s drive ระบบจะใช้ UI ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ โดยจะแนะนำเมนูที่คิดว่าเราจะใช้ให้อัตโนมัติ ทุกอย่างสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้หมด

ในหน้านำทางด้วย Google Maps ก็จะสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ และสามารถรับสายหรือส่งข้อความโดยสั่งงานผ่านเสียงล้วนๆ และไม่จำเป็นต้องออกจากหน้านำทางเวลาใช้งานแต่อย่างใด ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้งานช่วงซัมเมอร์ปีนี้

Google Maps

Google ปล่อยฟีเจอร์นำทางด้วย AR ให้ผู้ใช้ Google Pixel ได้ทดลองใช้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

TCAV

หนึ่งในปัญหาของ AI คือเรามักไม่ทราบกระบวนการทำงานเพื่อให้ได้คำตอบของมัน โปรเจ็กต์ TCAV จะทำให้เราเข้าใจถึงสิ่งที่ AI เลือกมาเป็นตัวตัดสินผลลัพธ์ต่างๆ โดย Google ได้ยกตัวอย่างให้ AI เรียนรู้รูปม้าลาย ด้วย TCAV ทำให้เราทราบว่า AI ใช้อะไรแยกแยะภาพม้าลาย เช่น มีลักษณะเป็นม้า มีลาย และอยู่ในทุ่งหญ้าซาวันนา ด้วยเทคโนโลยีนี้สามารถนำไปต่อยอดใช้ในการแพทช์ได้ในอนาคต

นาฬิกาปลุก

สามารถใช้คำสั่งเสียง Stop ในกรปิดเสียงนาฬิกาปลุกบน Smart display และ Smart speaker ได้

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ปีนี้จะเป็นปีที่ Google จริงจังเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมากกว่าเดิม ข้อมูลส่วนตัวหลายๆ อย่างจะไม่ถูกนำออกจากมือถือ การเข้าเมนูความปลอดภัยของบริการต่างๆ จะทำได้ง่ายขึ้นเพียงกดที่รูปโปรไฟล์

ประวัติการใช้งานต่างๆ จะสามารถตั้งเวลาเพื่อสั่งลบอัตโนมัติได้ โดยระยะเวลาสั้นที่สุดคือ 3 เดือน

เพิ่มโหมดไม่ระบุตัวตน หรือ Incognito mode สำหรับ Google Maps และ Youtube

ใช้มือถือ Android เป็นกุญแจสำหรับระบบล็อกอิน 2 ชั้นได้ รองรับ Android 7 เป็นต้นไป

Live Transcribe และ Live Caption

2 ฟีเจอร์สำหรับผู้พิการด้านการได้ยิน โดยฟีเจอร์ Live Transcribe จะแปลงเสียงพูดที่ได้ยินเป็นข้อความอัตโนมัติ และ Live Caption จะเป็นการใส่คำบรรยายให้คอนเทนต์ที่ดูบนหน้าจออัตโนมัติ

เมื่อทำงานร่วมกับฟีเจอร์ Smart Compose และ Smart Reply ทำให้ผู้พิการทางการได้ยินและไม่ต้องการพูดสามารถรับสายและคุยโทรศัพท์ได้ด้วยตัวเองโดยใช้เสียงของ Google Assistant แทน

Project Euphoria

เป็นโปรเจ็กต์ที่จะช่วยให้ผู้มีปัญหาในการพูดสามารถสื่อสารได้งายขึ้น ทั้งการใช้ Machine Learning ช่วยในการพูดของคนคนนั้น รวมถึงการจับท่าทางสำหรับผู้เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS)

Android Q

ในงานนี้เป็นครั้งแรกที่ Google พูดถึง Android Q อย่างเป็นทางการ โดยมีจุดเด่นดังนี้

• รองรับมือถือจอพับได้
• รองรับ 5G
• ฟีเจอร์ Live Caption แบบ Offline
• Dark theme
• ความปลอดภัย
• Digital Wellbeing

เนื่องในโอกาสนี้ Google ได้ปล่อย Android Q Beta 3 สำหรับ Google Pixel และสมาร์ทโฟน Android ยี่ห้ออื่นๆ ได้แก่

• ASUS Zenfone 5Z
• Essential Phone
• Nokia 8.1
• HUAWEI Mate 20 Pro
• LG G8 ThinQ
• OnePlus 6T
• OPPO Reno
• Realme 3 Pro
• Sony Xperia XZ3
• Tecno Spark 3 Pro
• Vivo Nex A
• Vivo Nex S
• Vivo X27
• Xiaomi Mi9
• Xiaomi Mi Mix 3 5G

Nest Hub Max

Google เปลี่ยนชื่อ Google Home Hub เป็น Nest Hub แทน และเปิดตัว Nest Hub Max หน้าจออัจฉริยะขนาด 10 นิ้ว มีสวิทช์เปิดปิดกล้องและไมโครโฟนเพื่อความเป็นส่วนตัว และสามารถสั่งปิดเสียงได้ด้วยท่าทาง ราคา 229 เหรียญ หรือประมาณ 7,300 บาท และปรับราคา Nest Hub เหลือ 129 เหรียญ หรือประมาณ 4,100 บาท

Pixel 3a

สมาร์ทโฟนระดับกลางจาก Google ที่ได้กล้องหลังระดับเดียวกับรุ่นพี่ Google Pixel 3

• หน้าจอ 5.6 นิ้ว (3a) และ 6.0 นิ้ว (3a XL)
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 670
• แรม 4 GB LPDDR4X
• พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB
• ลำโพงสเตอริโอ
• กล้องหน้า 8 MP f/2.0 Fixed focus, Portrait mode
• กล้องหลัง 12.2 MP f/1.8, Night soght, Portrait mode, Hi-res zoom
• แบตเตอรี่ 3,000 mAh (3a) และ 3,700 mAh (3a XL) ชาร์จเร็ว 18W
• Active Edge

ราคา

• Google Pixel 3a ราคา 399 เหรียญ หรือประมาณ 12,700 บาท
• Google Pixel 3a XL ราคา 479 เหรียญ หรือประมาณ 15,300 บาท