เดิมที OnePlus สร้างชื่อด้วยการเป็นนักฆ่าเรือธง แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป OnePlus 7 Pro จึงถือกำเนิด พร้อมกับเปลี่ยนตัวตนจาก Flagship Killer กลายเป็น Super Flagship เรือธงที่เหนือกว่าเรือธง ในราคาที่ถูกกว่า
ดีไซน์ลงตัว หน้าจอสวยที่สุดคว้าคะแนน A+ จาก DisplayMate
ก่อนงานเปิดตัว OnePlus 7 Pro ทาง DisplayMate ได้ออกมาบอกว่าผลทดสอบของหน้าจอรุ่นนี้ถือว่าดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้ โดยรองรับ HDR 10+ และ Refresh Rate 90 Hz บนความละเอียด QHD+ กับหน้าจอขนาด 6.67 นิ้วแบบ Fluid AMOLED ที่ไร้ซึ่งรอยบากหรือติ่งบนหน้าจอ
การออกแบบกล้องหน้าแบบ Pop up ที่ซ่อนอยู่ในตัวเครื่องก็ทำให้แสดงผลได้เต็มตาไม่มีติ่งกวนใจ ตัวเครื่องมีการออกแบบให้สมมาตรทั้งปุ่มและการจัดเรียงกล้อง เช่นกันกับการเลือกใช้หน้าจอแบบขอบโค้งเพื่อให้สอดรับกับฝาหลังที่โค้งมนเพื่อให้ถือได้กระชับยิ่งขึ้น
ข้อดีของจอโค้งคือการให้ความรู้สึกหรูดูแพงและแสดงผลเต็มตากว่า ในการใช้งานจริงทำเอาผมและทีมงานประทับใจกับความสวยงามของหน้าจอ OnePlus 7 Pro เพราะคมชัดสีสันสวยและสมูทกว่าหน้าจอมือถือเกือบทั้งหมดในท้องตลาด ซึ่งทำให้เราสามารถดื่มด่ำกับความบันเทิงได้เต็มอิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการดู YouTube หรือ Netflix รวมถึงการเล่นเกม เพราะนอกจากจอจะสวยมากแล้ว OnePlus 7 Pro ยังมีลำโพงคู่ที่จัดว่าเสียงดีพอตัว และยังมาพร้อมกับระบบเสียง Dolby Atmos
ปลดล็อกตัวเครื่องได้เร็วจนน่าทึ่ง
แม้ว่าความเร็วของการปลดล็อกตัวเครื่องในยุคนี้จะวัดกันที่เสี้ยววินาทีจนแยกแทบไม่ออกว่าใครเร็วกว่า แต่ก็ต้องบอกว่า OnePlus 7 Pro ปลดล็อกได้เร็วมากทั้งการสแกนใบหน้าและการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ โดยทาง OnePlus ได้ให้ข้อมูลไว้ว่าใช้เวลาสแกนนิ้วเพียงแค่ 0.21 วินาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดในโลก
ที่สุดของอรรถรสในการเล่นเกม
การเล่นเกมเป็นอีกประเด็นที่ทำให้ผมและทีมงานประทับใจมาก ด้วยสเปคที่ทรงประสิทธิภาพแห่งยุคกับ Qualcomm Snapdragon 855 และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.0 ที่ถือว่าล้ำที่สุดในเวลานี้ บวกกับระบบระบายความร้อน 10-Layer Liquid Cooling System และหน้าจออันสวยงาม ก็ทำให้เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมยิ่งขึ้น
ส่วนสเปคที่วางขายในไทยมีอยู่ 3 รุ่นได้แก่
- แรม 6 GB หน่วยความจำภายใน 128 GB ราคา 24,990 บาท
- แรม 8 GB หน่วยความจำภายใน 256 GB ราคา 26,990 บาท
- แรม 12 GB หน่วยความจำภายใน 256 GB ราคา 29,990 บาท
แต่ความเป็นที่สุดด้านการเล่นเกมยังไม่หมดแค่นั้น เพราะ OnePlus 7 Pro มีระบบรีดประสิทธิภาพระหว่างเล่นเกมอย่าง Game Mode ที่จัดการป้องกันการแจ้งเตือนที่จะรบกวนระหว่างเล่นเกม รวมถึงปิดระบบปรับแสงหน้าจออัตโนมัติ และสิ่งสำคัญที่สุดคือระบบ Haptic Vibration Feedback ที่ถือว่าเป็นตัวชูโรง เพราะจะทำให้ตัวเครื่องสั่นตามสถานการณ์ในเกม และมีความแรงในการสั่นที่ต่างกันออกไป เช่นการเดินบนพื้นหญ้าก็จะสั่นไม่เท่ากับการเดินบนพื้นไม้ หรือการยิงปืนแต่ละชนิดก็จะสั่นต่างกัน
แต่ก็ต้องบอกว่าระบบ Haptic Vibration Feedback จะทำงานกับเกมที่รองรับเท่านั้น จากที่ได้ทดสอบพบว่าระบบนี้ใช้กับ PUBG mobile และ Asphalt 9 ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมี Fnatic Mode ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาร่วมกับฝั่ง esports โดยโหมดนี้จะช่วยปิดทุกการแจ้งเตือน และทุ่มขุมพลังทั้งหมดมายังตัวเกม รวมถึงรีดประสิทธิภาพการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต (โหมดนี้จะปิดการทำงานของซิมที่ 2 ด้วย เพื่อให้สัญญาณเสถียรยิ่งขึ้น)
จากการทดสอบเล่นเกมต่างๆ รวมถึง RoV และ Survival Heroes เรียกได้ว่า OnePlus 7 Pro ลื่นไหลและแสดงผลได้สวยมาก แม้กระทั่งการปรับค่ากราฟิกให้สุดทุกอย่างในเกม Survival Heroes ก็ให้เฟรมเรทที่สูงและนิ่งกว่าหลายๆ รุ่น
ชาร์จเร็วแม้กระทั่งระหว่างเล่นเกม
OnePlus 7 Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh และระบบชาร์จเร็ว Warp Charge 30 Fast Charging (5V/6A) โดยจุดเด่นอยู่ที่ชาร์จได้เร็วแม้ระหว่างเล่นเกมอยู่ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพราะระบบระบายความร้อน 10-Layer Liquid Cooling System ที่ช่วยลดความร้อนสะสมที่เกิดจากการเล่นเกมและชาร์จในเวลาเดียวกัน
ความเร็วในการชาร์จที่ไม่ลดลงระหว่างการเล่นเกม ก็น่าจะทำให้ Gamer ทั้งหลายเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องไม่ขัดใจ
ผู้ช่วยจดจำพิกัดตำแหน่งที่จอดรถ
เรื่องการจอดรถนับว่าเป็นอีกปัญหาของหลายคน โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วนที่เรามักหลงลืมว่าจอดรถไว้ที่ชั้นไหน โซนอะไร แต่เรื่องนี้จะง่ายขึ้นเมื่อมี OnePlus 7 Pro แค่เพียงปัดหน้าจอมาด้านซ้ายสุดก็จะพบ Parking Location และกด Mark Locaion จากนั้นทำการถ่ายรูป เมื่อเราจะกลับมาที่รถก็แค่เลือกให้ OnePlus 7 Pro นำทางเราง่ายๆ แค่นั้นเลย
กล้องโดดเด่นระดับเรือธง
แม้ว่าคะแนน DxOMark จะไม่ได้บ่งบอกทุกอย่าง แต่ก็เป็นผลทดสอบที่มีการอ้างอิงมากที่สุดซึ่ง OnePlus 7 Pro ได้คะแนนรวมกล้องหลังไป 111 คะแนน เรียกได้ว่าเป็นหัวแถวของมือถือยุคนี้กันเลย ในแง่สเปคแล้ว OnePlus 7 Pro มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวแบบ Triple Camera
- กล้องหลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล กันสั่นแบบ OIS และ EIS รูรับแสง f/1.6
- กล้องซูม ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กันสั่นแบบ OIS รูรับแสง f/2.4
- กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
ตัวกล้องหลักเลือกใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ที่มีจุดเด่นคือการทำ Pixel Binning ที่ทำการรวมพิกเซลเข้าด้วยกันจาก 48 ล้านพิกเซล กลายเป็น 12 ล้านพิกเซลที่มีขนาดพิกเซลใหญ่ขึ้นจาก 0.8 µm เป็น 1.6 µm ทำให้ภาพมีความคมชัดและสวยงามยิ่งขึ้น
ในช่วงแรกกล้อง OnePlus 7 Pro เพี้ยนติดสีแดง แต่หลังจากอัพเดทเป็นเวอร์ชั่น OxygenOS 9.5.4.GM21AA กล้องก็ให้สีสันที่สวยงามและสีตรงมากกว่าเดิม
ข้อดีที่ผมชอบมากๆ ก็คือเราสามารถเพิ่มหรือลดเมนูกล้องได้ ซึ่งมือถือบางรุ่นสามารถปรับแต่งได้ในเมนูพิเศษ แต่สำหรับ OnePlus 7 Pro ปรับแต่งได้แม้กระทั่งเมนูหลัก โดยของเดิมที่มีมาให้ได้แก่ Video, Photo, Portrait, Nightscape
โดยรวมแล้ว OnePlus 7 Pro ถ่ายได้ง่ายและทำงานรวดเร็ว มีการประมวลผลด้าน AI เพื่อคัดเลือก Scene ที่เหมาะสมและ Auto HDR ที่สวยงาม และสำหรับใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปอาหารก็ต้องบอกว่า OnePlus 7 Pro ไม่ทำให้ผิดหวังครับ
ภายใต้แสงไฟในร้านอาหารที่ติดไปทางสีส้มๆ เหลืองๆ แต่ภาพที่ออกมาจาก OnePlus 7 Pro ให้รายละเอียดสีสันที่สวยงามสมจริงและน่ากินมากๆ
การถ่ายภาพบรรยากาศยามค่ำคืนก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ OnePlus 7 Pro ส่วนโหมด Nightscape 2.0 อาจจะไม่ช่วยให้ภาพสว่างเวอร์แบบบางรุ่น แต่มีข้อดีคือกดแช๊ะเดียวจบแล้วรอการประมวลผล ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็จะสว่างและคมชัดกว่าโหมดปรกติ
การถ่ายภาพบุคคลในโหมด Portrait จะเป็นการใช้กล้องซูมเข้ามาช่วย ทำให้ระยะของภาพมีการซูมเข้าไป ซึ่งตรงนี้ก็แล้วแต่ความชอบ เพราะบางคนก็บอกว่าการใช้ระยะซูมแบบนี้จะทำให้มุมมองและการละลายหลังคล้ายกับกล้อง DSLR ยิ่งขึ้น
แม้ว่าการถ่าย Portrait จะเป็นการใช้กล้องระยะซูมเข้ามาช่วยที่อาจฟังดูเหมือนจะถ่ายยาก แต่เอาเข้าจริงก็ประมวลผลได้ไวพอตัว โดยผมทดสอบหยิบมาถ่ายเร็วๆ ในร้านอาหาร แบบไม่ต้องเซ็ตอะไรเยอะ แค่บอกให้นางแบบมองกล้องแล้วก็ถ่ายเลย ผลลัพธ์ที่ได้ก็อยู่ในเกณฑ์ดี (หยิบยิงแบบไม่คิดในระดับที่ว่าทิชชู่ยังติดที่แก้วอยู่เลย)
ด้านการ Selfie กับกล้องป๊อปอัพก็ให้ภาพที่จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีตามมาตรฐานเรือธง และสามารถทำหน้าชัดหลังเบลอได้ โดยปรับบิวตี้ได้ 3 ระดับ ตอบโจทย์ทุกความชอบไม่ว่าจะเป็นแบบที่เห็นริ้วรอยทุกอณูหรือแบบหน้าเนียนสวยใส
นอกจากเรื่องของการถ่ายรูปแล้ว ตัวกล้องของ OnePlus 7 Pro ได้ควบรวมเอาความสามารถของ Google Lens เข้ามาด้วย ทำให้สามารถสแกน QR Code ได้ในตัว และยังสามารถสแกนนามบัตรและทำการบันทึกเข้ารายชื่อ Contact ได้อีกด้วย
ปรับแต่งได้หลากหลายถูกใจสายโม
อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างชื่อให้กับ OnePlus คือ Software หรือที่เรียกติดปากว่า ROM นั่นเอง เดิมที OnePlus เลือกใช้ Cyanogen OS ซึ่งถือว่าเป็น ROM ที่มีชื่อเสียงมากในกลุ่มนักพัฒนา ก่อนที่จะต่อยอดจนกลายเป็น OxygenOS ของ OnePlus เอง
นั่นจึงทำให้ OnePlus 7 Pro มีชั้นเชิงการปรับแต่งและตั้งค่าที่ละเอียดกว่าในแทบทุกด้าน โดยมีการออกแบบ UX ให้ใกล้เคียงกับ Pure Android เช่น การตั้งค่าประหยัดเน็ต 4G ด้วย Data Saver โดยเลือกได้ว่าต้องการใช้แอพหรือเกมไหนบ้างที่เชื่อมต่อเน็ต 4G ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย
การตั้งค่าหน้าจอเพื่อถนอมสายตาก็มี 2 แบบคือ Reading Mode ที่เปลี่ยนหน้าจอเป็นโทนอุ่นติดเหลืองหน่อยๆ กับแบบ Night Mode ที่ให้โทนเหลืองยิ่งกว่าเดิม และยังปรับระดับโทนสีให้เหลืองยิ่งกว่าเดิม หรือให้จอมืดกว่าเดิมก็ได้ ซึ่งการแยกโหมดชัดเจนแบบนี้ทำให้การใช้งานจริงสบายตายิ่งขึ้น
และยังสามารถตั้งค่าความละเอียดหน้าจอเป็นแบบ FHD+ เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ หรือ QHD+ เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดที่สุด หรือจะเลือกแบบ Auto ก็ได้เช่นกัน รวมถึงการเลือก Refresh Rate ได้ทั้ง 60Hz และ 90Hz ซึ่งแบบ 90Hz จะให้ความสมูทที่มากกว่ามือถือทั่วไป แต่ก็บริโภคพลังงานมากกว่าเช่นกัน
การควบคุม Back, Home, Recents app ก็เลือกได้ทั้งแบบปุ่มปรกติ หรือเลือกแบบ Gesture ก็ได้อีก 2 รูปแบบ หรืออย่างการจับภาพหน้าจอก็ทำได้ด้วยการลาก 3 นิ้วลงบนหน้าจอ และก็มี Double tap to wake ที่หลายคนชื่นชอบ
ที่เด็ดสุดและยังนึกไม่ออกว่า Android ค่ายไหนที่มีแบบนี้ก็คือ ปุ่มปรับเสียงที่เป็นแบบ Hardware โดยเลื่อนได้ 3 ระดับคือ Silent, Vibrate, Ring นับว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างของ OnePlus และแน่นอนว่ารุ่นนี้รองรับการเล่นแอพ 2 ไอดี จำพวก Facebook, Messenger, Line, Instagram หรือแม้แต่ Whatsapp ก็ทำได้เช่นกัน
ด้านการรีดประสิทธิภาพการใช้งานทั่วไปก็มี RAM Boost ที่เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของเรา แล้วปรับแต่งแอพแต่ละตัวเพื่อให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ถ้าชอบปรับแต่งแบบ Hardcore ก็เลือกวิธีการเคลียแรมได้ว่าจะเป็นแบบ Normal ที่เราคุ้นชิน กับการทำ Deep Clear ที่จะทำการปิด Background Process ด้วย
ช่องทางการสั่งซื้อ OnePlus 7 Pro
OnePlus 7 Pro มีขายที่ AIS Shop ทั้งหมด 13 สาขา และยังสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่
- AIS : https://bit.ly/2K1C3Hj
- JD Central : http://bit.ly/2YIwu4K
- Lazada : http://bit.ly/OnePlus7Lazada
บทสรุปของ OnePlus 7 Pro
แม้ว่าแฟนๆ ของ OnePlus จะบ่นเรื่องของราคาที่ขยับขึ้นจากรุ่นก่อนๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อเทียบกับเรือธงในปี 2019 แล้ว ถือว่า OnePlus 7 Pro ไม่ได้แพงแต่อย่างใด เพราะจัดเต็มให้ทุกด้านโดยเฉพาะชิปเซ็ต Snapdragon 855 และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.0 ที่นับว่าจัดจ้านด้านความเร็วและความล้ำมาก
การใช้งานโดยรวมนับว่าน่าประทับใจมาก ทั้งความลื่นไหล ความสวยงามของหน้าจอ ลำโพงคู่ที่เสียงชัดเจนและกังวาล กล้องที่คุณภาพดี นั่นทำให้ OnePlus 7 Pro กระตุกหัวใจทีมงานของเราได้ไม่ยากเลย