Godzilla: King of the Monsters | ยิ่งใหญ่สมไซส์ตัว

Godzilla ถือเป็นหนึ่งในสัตว์ประหลาดยักษ์ที่มีแฟนๆ เป็นอันดับต้นของโลก ถือกำเนิดมาจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่สะท้อนถึงมลพิษจากนิวเคลียร์ จนปัจจุบันภาพยนตร์จากแฟรนไชส์ Godzilla ออกมามากมายเต็มไปหมด สถานะจากสัตว์ประหลาดจึงเริ่มเปลี่ยนไปกลายเป็นเทพผู้พิทักษ์โลกจากไคจูตัวอื่นๆ พร้อมกับมีไคจูอีกมากมายถือกำเนิดขึ้น เป็นวัตถุดิบในการทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ชั้นเยี่ยมที่ฮอลลีวูดไม่มีทางพลาดแน่นอน และผู้ที่ได้รับไปทำคือ Legendary Pictures ค่ายหนังที่เชี่ยวชาญการทำภาพยนตร์ที่ดูแมสแต่กล้าที่จะแตกต่าง

สำหรับภาคแรกที่ฉายไปเมื่อปี 2014 เป็น Godzilla ภาคที่เล่าเรื่อง Godzilla น้อยมาก จะเล่าเรื่องของคนมากกว่า เรียกว่ากว่าเราจะได้เห็น Godzilla ก็ปาเข้าไปครึ่งค่อนเรื่อง สำหรับภาค 2 นี้ ทิศทางการเล่าเรื่องได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไปเล่าเรื่องในพาร์ทของไคจูแทน มันคือเรื่องราวการห้ำหั่นระหว่างเทพเจ้าและราชา Godzilla และ King Ghidora เป็นสิ่งที่อยู่เหนือมนุษย์ไปอีกที มนุษย์จึงเป็นเหมือนตัวประกอบซะมากกว่า โดยภาคนี้ผู้กำกับได้พยายามดึงอารมณ์แบบ Godzilla เวอร์ชันญี่ปุ่นออกมา ทำให้แฟนๆ God ทั้งหลายกรี๊ดกร๊าดไปตามๆ กันเวลาดู แต่สำหรับใครที่ไม่ใช่แฟนก็อาจจะรู้สึกเฉยๆ และอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องทำแบบนู้น มีแบบนี้ ทำไมเอ่ยถึงอันนั้นแล้วไม่เล่าอะไรต่อเลย แบบนี้

Godzilla: King of the Monsters | ยิ่งใหญ่สมไซส์ตัว 3

นอกจากความเป็นตัวประกอบสุดๆ ของมนุษย์แล้ว เหล่ามนุษย์ในเรื่องยังมีความ “เล่นมุกไม่ดูเวลา” กันตลอดทั้งเรื่อง กำลังซีเรียสหน้าสิ่วหน้าขวานอยู่ๆ ก็เล่นมุกนิ่มๆ หรือกัดกันเองเฉยเลย เล่นกันจนตัวผมเองขำในความไม่รู้เวลาของมันไปเลย

Godzilla: King of the Monsters | ยิ่งใหญ่สมไซส์ตัว 5

ส่วนที่ดีที่สุดของเรื่องคือภาพและเสียงที่อลังการจัดเต็มมาก ไคจูฟัดกันนัวเนียตลอดทั้งเรื่องแบบไร้ความน่าเบื่อ โดยเฉพาะเมื่อ Godzilla เจอ King Ghidora ใหญ่กับใหญ่มาเจอกัน มันทุกฉาก เอฟเฟกต์เสียงและแสงอลังการสุดๆ อลังการระดับที่อยากให้ดูในโรง IMAX เท่านั้น

Godzilla: King of the Monsters | ยิ่งใหญ่สมไซส์ตัว 7

สำหรับ Godzilla: King of the Monsters ถ้าใครมีความชื่นชอบใน Godzilla และเหล่าไคจู คุณไปดูเลย ถ้าใครชอบหนังแอคชั่นบันเทิงๆ ชอบดูความอลังการ ต้องไปดูเช่นเดียวกัน แต่ใครอยากจะหาความลุ่มลึกของหนัง เรื่องนี้ให้คุณไม่ได้แน่นอน


ปล. สังเกตชื่อนักแสดงในเครดิตคนท้ายๆ มี Easter Egg ซ่อนอยู่

กร็ดเล็กเกร็ดน้อย ไม่เกี่ยวอะไรกับหนังแต่อยากเล่า : สนามเบสบอล Fenway Park ของทีม Boston Red Sox ที่ใช้ในเรื่อง เจ้าของทีมคนปัจจุบันคือ FSG ซึ่งเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลคนปัจจุบันเช่นเดียวกัน