Spider-Man: Far From Home เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 23 และเป็นภาพยนตร์ปิด Phase ที่ 3 ของ Marvel Cinematic Universe เหตุการณ์ในเรื่องนั้นจะเกิดขึ้นหลังจากตอนจบของเรื่อง Avengers: Endgame ไม่นาน ทำให้ในภาพยนตร์เรื่องนี้เราจะได้เห็นชีวิตของ Peter Parker หรือ Spider-Man หลังจากกลับมาจากความตายและการเปลี่ยนแปลงของโลกหลังจากคนที่หายไปครึ่งนึงเพราะโดน Snap กลับคืนมา
ภาพยนตร์ที่ควรดูก่อนรับชม Spider-Man: Far From Home เพื่อให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น
- Iron Man
- Captain America: Civil War
- Spider-Man Homecoming
- Avengers: Infinity War
- Captain Marvel
- Avengers: Endgame
ภาพยนตร์เปิดมาด้วยการอธิบายคร่าว ๆ เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่ Professor Hulk ใช้ Infinity Stone เรียกคนที่โดน Thanos ดีดนิ้วให้สลายเป็นผงกลับมาใน Avengers: Endgame ก่อนที่จะพาไปเข้าเรื่องราวของ Peter Parker ตัวเอกของเรื่อง
ช่วงครึ่งแรกของเรื่องดำเนินเรื่องไปอย่างช้า ๆ โดยใจความหลักจะเป็นการเล่าเรื่องชีวิต High school ของ Peter ที่ต้องการพักจากการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ชั่วคราวและไปทริปเที่ยวยุโรปกับเพื่อน ๆ ซึ่งการเล่าเรื่องในส่วนนี้ชวนให้นึกถึงชีวิตวัยรุ่นสมัยมัธยมปลายที่เราแอบชอบใครสักคน แต่ขึ้นชื่อว่าเป็น Peter ความดวงซวยนั้นก็เป็นของคู่กัน Peter ต้องเผชิญหน้าความวุ่นวายอยู่เรื่อย ๆ ตลอดทริป ไม่ว่าจะมาจากเพื่อนร่วมทริปเอง Nick Fury และตัวร้ายที่จ้องจะทำลายโลก ทำให้ครึ่งแรกของเรื่องมีทั้งเรื่องราวชีวิต High school ผสมกับการสวมบทเป็นฮีโร่ปน ๆ กันไป
การตัดสลับฉากในช่วงแรกนั้นยังทำได้ไม่ค่อยดีทำไหร่ บวกกับการที่ดำเนินเรื่องช้าทำให้รู้สึกว่าน่าเบื่อ แต่พอเข้าช่วงไคลแม็กซ์ของเรื่องนั้นเรื่องราวถูกดำเนินไปอย่างน่าตื่นเต้นและชวนลุ้นมาก แต่ละฉากทำออกมาได้อลังการงานสร้าง และมีการเท้าความถึงภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ใน MCU ให้หายคิดถึง แต่น่าเสียดายที่ตอนช่วงองค์ที่ 3 จนถึงตอนจบนั้นไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะ Peter เกิดเก่งขึ้นมาแบบ 300% ทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายเรื่องดูแก้ไขง่ายไปหมด แต่ในอีกมุมมองนึงก็ไม่ผิดที่อยู่ดี ๆ Peter จะเก่งขึ้นมากระทันหัน ในส่วนนี้ภาพยนตร์ได้ปูทางไว้เนียน ๆ ตั้งแต่เรื่อง Captain America: Civil War แล้วและถูกนำเสนอให้ชัดเจนขึ้นอีกครั้งในช่วงเริ่มเรื่อง และความสามารถที่เพิ่มเข้ามานั้นก็ถ่ายทอดออกมาจากฉบับ Comics ได้เป็นอย่างดี
Spider-Man: Far From Home เป็นหนังที่ Tribute หนังเรื่องก่อน ๆ ของ MCU เยอะมาก เยอะพอ ๆ กับ Avengers: Endgame และทำออกมาได้น่าทึ่งมาก ทุกครั้งที่หนังมีการ reference ถึงเรื่องก่อน ๆ ทำให้เกิดความรู้สึกคิดถึงช่วงเวลาเก่า ๆ ของภาพยนตร์เรื่องก่อน ๆ ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้และติดตามภาพยนตร์ของ MCU มาทุกเรื่องจะต้องชอบในส่วนนี้ แต่ในอีกมุมนึงก็รู้สึกไม่ค่อยดี เพราะนี่เป็นอีกครั้งที่ Marvel Studios หยิบตัวละครรุ่นบุกเบิกขึ้นมาผูกปมใหม่จนเกิดเป็นเรื่องราววุ่นวายขึ้นมาอีกครั้ง
ตัวร้ายในภาคนี้มาค่อนข้างโหด เจ้าเล่ห์ และทำงานกันเป็นทีม ซึ่งจุดนี้น่าจะถูกอกถูกใจคนที่ชื่นชอบตัวร้ายจาก Thor ภาคแรก และ Captain America: Civil War เสียดายที่ตอนสู้กันช่วงหลังนั้นไม่ได้รู้สึกกดดันเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับภาคก่อนอย่าง Homecoming ที่ยังให้ความรู้สึกกดดันมากกว่า
ในส่วนของประเด็นยิบย่อยอย่างเรื่องความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครในช่วงแรกของเรื่องมีการปูทางมาหลายตัวละครมาก ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในเชิงคนรักหรือความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว แต่ในตอนสุดท้ายหนังกลับเล่นประเด็นตรงนี้ไม่ค่อยสุด ยังดีที่ตรงส่วนนี้ไม่ได้มีความสำคัญต่อเนื้อเรื่องมากเท่าไหร่
ในช่วง Phase 2 เป็นต้นมาจักรวาล MCU จะมีภาพยนตร์บางเรื่องที่เน้นความสนุกสนานและอนุญาตให้ ผู้กำกับ คนเขียนบท และนักแสดงปล่อยมุกกันได้เต็มที่ ซึ่งในเรื่อง Ant-Man, Guardians of the Galaxy ภาค 1 กับภาค 2 และ Thor: Ragnarok ทำออกมาได้ดีมาก ก่อนที่ Marvel Studios จะเริ่มทำภาพยนตร์ที่เน้นความจริงจัง 2 เรื่องติด ๆ อย่าง Black Panther กับ Avengers: Infinity War และก็มาใน Ant-Man and The Wasp ที่บรรดาตัวละครสายฮากลับมาสานต่อความตลกอีกครั้ง ก่อนที่ห่างหายจากความตลกไปในเรื่อง Captain Marvel และ Avengers: Endgame จนกระทั่งการมาของ Spider-Man: Far From Home ที่ตัวละครเริ่มกลับมายิงมุกใส่กันอีกครั้งและมุกตลกบางมุกก็ถูกเล่นจนเฟ้อ หรือมีจังหวะซ้ำไปซ้ำมา ทำให้บางทีรู้สึกรำคาญที่ตัวละครเล่นมุกแบบนี้จนอยากตะโกนดัง ๆ ในโรงหนังว่าพอแล้ว!
ถึงแม้ว่าในส่วนของเนื้อเรื่องหลักจะทำได้ไม่ดีเท่าที่คิดไว้ แต่สำหรับฉาก Post Credit และ After Credit คือดีงามมาก ทำออกมาได้น่าสนใจเป็นลำดับต้น ๆ ของภาพยนตร์ใน MCU คุ้มค่าแก่การรอดูมาก เหมือนกับผู้กำกับรู้สึกผิดที่หลอกให้คนดูนั่งดู After Credit ในภาคที่แล้ว เนื้อหาในส่วนของ Post Credit จะเป็นการทิ้งปมไว้ให้ภาคต่อไปและมีการเซอร์วิสแฟน ๆ Spider-Man แบบเซอร์ไพรส์มาก ส่วน After Credit จะเป็นการปูทางไปยังเรื่องราวใน Phase ต่อไปและบอกใบ้เป็นนัย ๆ ว่า Marvel Studios จะเล่นใหญ่กว่าเดิม
สรุป Spider-Man: Far From Home เป็นภาพยนตร์ฮีโร่จาก Marvel ที่มีพล็อตเรื่องดี แต่การตัดต่อยังไม่ค่อยโอเคเมื่อเทียบกับเรื่องก่อน ๆ อดทนผ่านช่วงแรกของเรื่องไปได้ แล้วช่วงที่เหลือจะสนุกเอง
