Android VS iOS ระบบปฏิบัติการไหนปลอดภัยกว่ากัน?

Android VS iOS ระบบปฏิบัติการไหนปลอดภัยกว่ากัน? ถือเป็นหัวข้อที่ได้รับการถกเถียงมาอย่างยาวนาน ในอดีตคำตอบค่อนข้างจะเป็นเอกฉันท์ว่า iOS ปลอดภัยกว่า แต่ปัจจุบันที่ Android พัฒนาจนมาถึงเวอร์ชัน 10 แล้ว ระบบความปลอดภัยหลายๆ อย่างถูกปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง ในยุคนี้ระบบปฏิบัติการไหนปลอดภัยกว่ากัน? งานนี้ทีมแอดมิน Bacidea เลยลองค้นหาคำตอบจากเหล่าบริษัทที่ทำซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยมาให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ

Open source

ระบบปฏิบัติการ Android เป็นระบบปฏิบัติการแบบ Open source หมายความว่าใครๆ ก็สามารถเข้าถึง Source code ของ Android ได้ รวมถึงเหล่าแฮกเกอร์เองก็สามารถเอาโค้ดไปศึกษาเพื่อหาช่องโหว่ได้แบบง่ายๆ เช่นกัน แตกต่างจากฝั่ง Apple iOS ที่ปกปิดตัวโค้ดเอาไว้อย่างดี อย่างไรก็ตาม Android เองก็แก้ปัญหาตรงส่วนนี้ด้วยการตั้งรางวัลมูลค่าสูงให้ใครก็ตามที่สามารถหาช่องโหว่บน Android ได้ ทำให้มีผู้ช่วยค้นหาช่องโหว่ของ Android จำนวนมาก ไม่ทิ้งช่องโหว่ให้เหล่าผู้ประสงค์ร้ายนำไปใช้ต่อได้ง่ายๆ

App Store VS Play Store

ร้านค้าแอปเป็นอีกจุดที่จะสร้างช่องโหว่ให้เครื่อง ทางด้าน Play Store ของ Google มีจุดเด่นด้านปริมาณแอปที่มหาศาลกว่าฝั่ง Apple โดยใช้ระบบอัตโนมัติในการอนุมัติแอปให้นำมาลงในร้านค้าของตน ต่างจากของ Apple ที่มีระบบอนุมัติที่รัดกุมกว่า ทำให้ Google Play มีแอปอันตรายหลุดเข้ามาอยู่ในร้านค้าบ่อยๆ ซึ่งระยะหลังทาง Google ได้เร่งปราบปรามอย่างจริงจัง โดยมีข่าวการนำแอปต้องสงสัยออกจาก Play Store คราวละมากๆ ออกมาเป็นระยะๆ

การอัปเดต

เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เราควรอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำ ซึ่งทั้งฝั่ง Apple และ Google มีการออกอัปเดตให้ระบบอย่างสม่ำเสมอ แม้ทางฝั่ง Android จะมีการอัปเดตแพทช์ความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือน แต่กว่าจะมาถึงมือเรา ต้องรอให้ฝั่งผู้ผลิตปล่อยอัปเดตก่อน ซึ่งผู้ผลิตแต่ละรายปล่อยอัปเดตไม่พร้อมกัน ต่างจากฝั่ง iOS ที่มีผู้ผลิตเพียงรายเดียว จึงสามารถปล่อยอัปเดตได้พร้อมกันทั้งหมด

ความนิยม

IDC คาดการณ์ว่าในปี 2019 นี้ ระบบปฏิบัติการ Android มีส่วนแบ่งตลาดถึง 87% ส่วน iOS มีเพียง 13% เท่านั้น ทำให้ Android เป็นเป้าหมายหลักแฮกเกอร์ เพราะมีเหยื่อในการโจมตีจำนวนมากกว่า ต่อให้ระบบ Android เจาะยากกว่า iOS แฮกเกอร์ก็มีแนวโน้มที่จะเลือกเจาะ Android มากกว่าอยู่ดี

ช่องโหว่จากผู้ใช้

มีหนึ่งสิ่งที่ไม่ว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการไหนก็สามารถโดนแฮกได้ คือช่องโหว่ที่เกิดจากผู้ใช้งานเอง ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแอปจากแหล่งอันตราย (โดยเฉพาะพวกแอปแฮกให้ใช้แอปเสียเงินได้แบบฟรีๆ ทั้งหลาย) หรือการกรอกรหัสผ่านและบัญชีผู้ใช้ลงในเว็บไซต์ปลอมโดยไม่รู้ตัว รวมทั้งการหลอกให้กดลิงก์ที่น่าสงสัย ดังนั้นผู้ใช้เองก็ต้องหมั่นระมัดระวังตัวเองและรู้เท่าทันภัยอันตรายทางไซเบอร์ด้วย

แหล่งข้อมูล Kaspersky, nordVPN, Norton