รีวิว OPPO A9 2020 | ที่สุดแห่งความคุ้มค่า แบตอึดสะใจ ในราคา 8,990.-
ปีนี้เป็นปีที่สมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่าหมื่นร้อนแรงเป็นพิเศษ เนื่องจากประสิทธิภาพและสเปกโดยรวมที่จัดอยู่เกณฑ์ดี สามารถใช้งานได้ในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง รวมถึงการใช้งานในชีวิตประจำวัน คนเราไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นเรือธงเสมอไปอีกต่อไปแล้ว OPPO A9 2020 น้องใหม่ไฟแรงในราคาต่ำกว่าหมื่น แต่ประสิทธิภาพและความสามารถด้านต่างๆ เรียกว่าจัดเต็ม พร้อมดีไซน์ที่สวยเด็ด ดูพรีเมี่ยมเกินราคามากๆ ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ เช่นกัน มาดูกันครับ
ดีไซน์หรูหราเกินราคา
OPPO A9 2020 มีกลิ่นอายในการดีไซน์มาจากซีรีส์ Reno ด้วยฝาหลังโค้ง โมดูลกล้องและส่วนประกอบอื่นๆ ที่ถูกจัดเรียงอยู่ตรงกลางเครื่องเป็นแถวเดียวกัน และมาพร้อมสีสันที่สวยงามมาก โดยเครื่องที่ผมได้มารีวิวในครั้งนี้เป็นสีสันที่ไล่ระดับสีม่วงมาเป็นน้ำเงิน และยังเล่นกับการสะท้อนของแสงอย่างสวยงาม ด้านหลังประกอบด้วย โมดูลกล้อง 4 ตัวและแฟลช, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, ตัวหนังสือเขียนว่า “Design for A-Series”, และโลโก้ OPPO
สำหรับขอบเครื่องทำเป็นสีน้ำเงินสีเดียวกับตัวเครื่อง มีการเล่นเส้นสายที่ขอบข้างเครื่องสร้างความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ อีกด้วย โดยข้างขวาของเครื่องเป็นที่อยู่ของปุ่ม Power ส่วนด้านซ้ายเป็นปุ่มเพิ่มและลดเสียงแยกกันคนละปุ่ม ซึ่งอาจต้องใช้การปรับตัวสักนิดเพื่อให้คุ้นเคย
ถัดขึ้นไปจากปุ่มปรับเสียงจะเป็นช่องใส่ซิม โดยสามารถใส่ได้ 2 ซิมและใส่ micro-SD Card แยกจากช่องซิมสอง
พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ จะอยู่ด้านล่างของเครื่องทั้งหมด โดยรุ่นนี้ใช้การชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB-C และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ให้ใช้งาน
หน้าจอหยดน้ำไร้ขอบเต็มตา
เมื่อหันด้านหน้าของ OPPO A9 2020 เราก็จะได้สัมผัสกับหน้าจอ LCD ขนาด 6.5 นิ้วไร้ขอบทรงหยดน้ำ ความละเอียด HD+
หน้าจอสามารถปรับอุณหภูมิสีได้ เพื่อเพิ่มความเที่ยงตรงของสี โดยส่วนตัวผมจะปรับไปทางโทนอุ่นเล็กน้อยเพราะค่าเริ่มต้นสีจะออกมาทางโทนเย็น
การควบคุมเครื่องสามารถเลือกใช้การควบคุมด้วยท่าทาง ทำให้สามารถปิดแถบควบคุมด้านล่าง เพิ่มความเต็มตาในการใช้งานกว่าเดิม
ที่สำคัญคือรุ่นนี้มาพร้อมกับ Widevine DRM ระดับ L1 สามารถชมภาพยนตร์ใน Netflix ระดับ HD ได้ด้วย
เซ็นเซอร์และการเชื่อมต่อ
จุดหนึ่งที่เด่นมากๆ สำหรับมือถือที่มีราคาเพียงแค่นี้คือเซ็นเซอร์และการเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ตชาร์จไฟและส่งข้อมูลที่เป็นพอร์ต USB-C เซ็นเซอร์ภายในตัวเครื่องก็ให้มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Light sensor สำหรับการปรับแสงสว่างของหน้าจอ, Accelerometer และ Gyrometer สำหรับแสดงทิศทาง บอกตำแหน่ง และใช้งาน AR, VR
Wi-Fi เป็นแบบ Dual Band เชื่อมต่อได้ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz ด้าน Bluetooth มาพร้อม Bluetooth 5.0 รองรับ Codec เสียงความละเอียดสูงอย่าง aptX HD และ LDAC ด้วย
ระบบเสียงสเตอริโอพร้อม Dolby Atmos
ระบบเสียงมักเป็นสิ่งที่เราจะต้องแลกกับราคามือถือเสมอ แต่ไม่ใช่กับ OPPO A9 2020 ที่มาพร้อมลำโพงคู่ ส่งเสียงแบบสเตอริโอแยกซ้ายขวา เล่นเกมสามารถแยกได้ว่าศัตรูมาจากทางไหน ดูหนังก็เยี่ยม ฟังเพลงก็แจ่ม และมี Dolby Atmos จำลองเสียงรอบทิศทางได้อีกด้วย โดยถ้าเลือกเป็นโหมดสมาร์ท ระบบจะทำการปรับเสียงตามคอนเทนต์ที่เล่นโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นหนัง เพลง หรือเกม
ประสิทธิภาพ
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพ OPPO A9 2020 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 665 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 11 nm ให้ทั้งประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน พร้อมแรม 8 GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 128 GB ชนิด UFS2.X อีกด้วย เรียกว่าสเปกเพียงพอต่อการใช้งานทุกประเภท
ระบบปฏิบัติการใช้ Color OS 6 ที่มีพื้นฐานบน Android 9 Pie ซึ่งอัดแน่นมาด้วยฟีเจอร์มากมาย โดยเราเคยเขียนรีวิวแบบเจาะลึกมาแล้ว สำหรับผู้สนใจสามารถไปอ่านได้ที่นี่
สำหรับรอบนี้ผมจะมาโฟกัสที่เกม โดย OPPO ได้มีฟีเจอร์ที่มาเสริมให้การเล่นเกมเป็นไปได้อย่างไหลลื่น 3 อย่างด้วยกัน
- Game Boost 2.0 เทคโนโลยีที่จะทำให้ประสบการณ์ในการเล่นเกมของเราให้ดีขึ้น เล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด
- Frame Boost เทคโนโลยีที่จะช่วยให้เฟรมเรทของเกมมีความคงที่มากที่สุด
- Touch Boost เทคโนโลยีที่ทำให้การทัชลื่นไหลไม่มีสะดุด กดติดทุกสกิล
สำหรับศูนย์กลางในการเล่นเกมของ OPPO A9 2020 คือแอป Game Space เมื่อเราเพิ่มเกมเข้ามาใน Game Space เราสามารถจัดการตัวเครื่องให้เหมาะสมกับการเล่นเกมได้ โดยตัวแอปจะแจ้งเวลาการใช้งานที่เหลือโดยประมาณ และความแรงของสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เราเชื่อมต่ออยู่
มุมซ้ายล่างจะเป็นการจัดการประสิทธิภาพเครื่อง โดยสามารถปรับได้ 3 โหมด
- โหมดแข่งขัน โหมดนี้จะปรับประสิทธิภาพแบบสูงสุด สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลแน่นอน แลกมาด้วยการใช้พลังงานที่มากขึ้น
- โหมดสมดุล โหมดกลางๆ ที่ให้ความสมดุลด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน
- โหมดใช้พลังงานต่ำ โหมดที่จะเน้นการประหยัดพลังงานมากกว่าความไหลลื่นและกราฟิก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเล่นเกมได้นานๆ หรือเปิดปล่อยบอท
สำหรับอีกฝั่งจะเป็นการจัดการการแจ้งเตือนไม่ให้มารบกวนเวลาเล่นเกม นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีก เช่น ล็อกแสงสว่างของหน้าจอไม่ให้ปรับเอง เป็นต้น
แบตเตอรี่อึดสะใจ ใช้จนเหนื่อยก็ไม่หมด
ด้านแบตเตอรี่่ของ OPPO A9 2020 ก็จัดเต็มเพื่อคอเกมเช่นกัน ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh แถม OPPO ยังมีระบบอัจฉริยะต่างๆ ที่มาช่วยในการประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย งานนี้ OPPO การันตีว่ารองรับการใช้งานพื้นฐานได้ยาวนานถึง 19 ชม. ดูวิดีโอ HD Youtube ได้นานถึง 11.8 ชั่วโมง และรองรับการเล่นเกม PubG ได้ 7.7 ชั่วโมง เลยทีเดียว
จากการทดสอบใช้งานจริง ผมเริ่มด้วยการเล่นเกม PUBG หนึ่งตา โดยปรับความละเอียดเป็นสมดุล และเฟรมเรม สูง สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด โดยใช้เวลาเล่นไปประมาณ 20 นาที ใช้แบตเตอรี่ไปเพียง 4% เท่านั้น
ลองเล่น RoV ซึ่งบอกเลยว่าเครื่องนี้เกมาะกับการเล่น RoV มากๆ สามารถปรับเฟรมเรทได้ทั้ง 30 fps และ 60 fps เล่นได้แบบเฟรมเรทตกน้อยมาก เวลาเข้าเกมก็ดาวน์โหลดสำเร็จเป็นคนแรกๆ ตลอด จบเกมแบตเตอรี่ลดไปเพียง 4% เท่านั้นเช่นกัน
RoV 30 fps RoV 60 fps
ดูหนัง Netflix ความละเอียดระดับ HD สัก 1 เรื่อง ความยาวเกือบๆ 2 ชม. แบตลดไป 13%
พอได้ลองใช้งานจริงเป็นเวลา 1 วัน ทั้งใช้งานโซเชียล เสิร์ชข้อมูล เล่นเกม และดูซีรีส์ด้วย พอถึงเวลานอนยังเหลือแบตเตอรี่ให้ใช้อีกถึง 57% ให้ใช้วันรุ่งขึ้นได้อีกสบายๆ
ยังไม่พอแค่นั้น นอกจากแบตจะเหลือเยอะแล้วยังสามารถแบ่งปันให้เครื่องอื่นได้อีกด้วย โดยการเสียบสาย OTG (อย่าลืมเปิดฟีเจอร์ OTG และเปิดจอด้วย) ก็จะสามารถใช้ OPPO A9 2020 แทนแบตเตอรี่สำรอง ชาร์จไฟให้กับเครื่องอื่นได้สบายๆ
กล้องหลัง 4 ตัว
นอกจากประสิทธิภาพและแบตเตอรี่แบบจัดเต็มแล้ว กล้องหลังก็ไม่ธรรมดา โดยให้กล้องมาถึง 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียดยอดฮิต 48 ล้านพิกเซล เสริมด้วยกล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ให้ภาพมุมกง้างถึง 119 องศา เป็นสิ่งที่ผมชอบมาก เอาไปถ่ายตึกหรือถ่ายวิวเราจะได้ภาพท้องฟ้ากว้างๆ แล้วภาพจะดูน่าสนใจขึ้นมาทันทีเลย ส่วนกล้องอีก 2 ตัวที่เหลือคือกล้องขาวดำ และกล้องวัดความลึก สำหรับถ่าย Portrait และทำภาพหน้าชัดหลังเบลอ ตัวกล้องมาพร้อม AI ที่ช่วยปรับแต่งรูปให้สวยทุกสถานการณ์ และ HDR ที่เปิดปิดอัตโนมัติตามสภาพแสง ทำให้ถ่ายภาพแล้วหน้าไม่มืด
เนื่องจากกล้องหลักที่มาพร้อมความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล ทำให้สามารถซูมภาพได้สูงสุดถึง 10 เท่าโดยไม่ต้องใช้เลนส์เสริม แต่แนะนำว่าใช้ประมาณ 5 เท่ากำลังดี
สำหรับการถ่ายรูปบางประเภทที่สีสันเยอะๆ แนะนำให้ลองเปิดโหมดสีสันตื่นตา ที่จะเพิ่มความสดใสให้สีสันไปอีกขั้น
แอปกล้องยังมีฟีเจอร์ให้ปรับสีสันภาพถ่ายมาด้วยอีกมากมาย แถมทำสีออกมาสวยมากๆ อีกด้วย
และส่วนนี้เป็นส่วนที่ทำให้ผมอึ้งมากๆ เพราะมือถือราคาเพียง 8,990 บาท มีโหมดถ่ายภาพกลางคืนมาด้วย แถมให้ภาพถ่ายออกมาคุณภาพดีระดับใช้งานได้เลย Noise น้อยลงอย่างชัดเจน สีสันต่างๆ สดใสขึ้นมา เรียกว่าใช้งานได้จริงแถมผลงานยังน่าประทับใจอีกด้วย
อีกโหมดที่เด่นมากของรุ่นนี้คือโหมดถ่ายภาพบุคคล ที่จัดแสงอย่างสวยงามและทำหน้าชัดหลังเบลออย่างแม่นยำ เพราะมีกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซลไว้สำหรับวัดความลึกและกล้องขาวดำเพื่อเก็บแสงโดยเฉพาะมาด้วย
โหมดวิดีโอรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 1080P และมีกันสั่นด้วยซอฟต์แวร์มาเสริม ทำให้ถ่ายวิดีโอได้ง่ายและสวยงามขึ้น
กล้องหน้า
กล้องหน้าของรุ่นนี้ใช้กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม AI และโหมดฟิลเตอร์สีมาให้ครบครัน พร้อมปรับแต่งโครงหน้าด้วย AI อัจฉริยะ
สรุป
OPPO A9 2020 เป็นมือถือที่มีความครบครันในตัว ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพที่เพียงพอต่อการใช้งานในทุกรูปแบบ เล่น RoV ได้ลื่นๆ มาพร้อมพอร์ตชาร์จไฟแบบ USB-C รองรับการเชื่อมต่อครบครัน กล้องหลังถ่ายสวย มีโหมดกลางคืน และจุดเด่นที่สุดของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่สุดอึด 5,000 mAh ที่ชาร์จไฟให้เครื่องอื่นได้ด้วย สามารถพกแทนเครื่องสำรองและเป็นพาวเวอร์แบงค์ในตัวได้เลย
โปรโมชั่นพรีออเดอร์และของแถม
OPPO A9 2020 เปิดให้พรีออเดอร์แล้วตั้งแต่วันนี้จนถึง 27 กันยายนนี้ในราคา 8,990 บาท พร้อมรับ Smart Bag มูลค่า 1,590 บาท นอกจากนั้นหากจองกับเครื่อข่าย AIS, DTAC และ TRUE แบบติดโปร ราคาเริ่มต้นถูกสุดเพียง 3,990 บาทเท่านั้น โดยจะวางจำหน่ายวันแรกที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศในนวันที่ 28 กันยายนเป็นต้นไป