
รีวิว realme 5 | ราคาเบาสเปคเอาเรื่อง กล้อง 4 เลนส์ครบเครื่อง ใช้งานไม่กลัวเปลือง ด้วยแบตตัวเขื่อง 5000 mAh
หลังจากที่รีวิวพี่ใหญ่อย่าง realme 5 Pro กันไปแล้ว ก็มาถึงคิวของน้องรองอย่าง realme 5 กันบ้าง แต่ถึงจะเป็นน้องรองแต่ก็มีหน้าจอขนาดใหญ่กว่ารุ่นพี่นะ นอกจากนั้นที่ดูแล้วเหมือน ๆ กันก็จะเป็นในส่วนของดีไซน์ฝาหลังและกล้องที่มี 4 ตัวเหมือนกัน แต่จะเป็นยังไงบ้างนั้นเดี๋ยวมาดูกันเลย
ดีไซน์ Holographic Diamond สะท้อนแสงเป็นประกายถอดแบบมาจากรุ่นพี่เป๊ะ ๆ
กว่าจะออกมาเป็นแบบนี้นั้นผ่านการเคลือบกว่า 133 ครั้ง พร้อมแกะสลักในระดับไมครอนเป็นรูปแบบ 3D diamond cutting

เวลาพลิกตัวเครื่องไปมานั้นมีแสงสะท้อนแวววาว สวยงามมากเลยทีเดียว

หน้าจอทรงหยดน้ำขนาด 6.52 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+

ในส่วนของหน้าจอนั้นมีสีสันที่ถือว่าโอเค ไม่แพ้ใครในช่วงราคา 4,000-6,000 บาท แต่เมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่าง realme 5 Pro นั้นก็ถูกลดความละเอียดลงมาอยู่ที่ HD+ (1600×720 พิกเซล) และไม่รองรับการชมคอนเทนต์แบบ HDR

ถึงแม้ว่าความละเอียดของหน้าจอจะลดลงมาเหลือ HD+ แต่เวลาใช้งานทั่ว ๆ ไปก็ไม่ได้รู้สึกเป็นปัญหาแต่อย่างใด ภาพอาจจะดูหยาบบ้างเล็กน้อยถ้าเราจ้องใกล้ ๆ จอเวลาเล่นเกมกับดูหนัง แต่จุดนี้ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกเป็นข้อด้อยอะไร เพราะช่วงนี้หลายแบรนด์ที่มีช่วงราคาไม่เกินหมื่นบาทก็เริ่มทยอยกลับมาใช้จอความละเอียด HD+ เช่นเดียวกัน ข้อดีที่ได้กลับมาคือกินแรงเครื่องน้อยลงและประหยัดแบตมากขึ้น

สเปคกำลังดี ไม่หวือหวา แต่ก็ไม่น้อยหน้าใคร
realme 5 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 665, RAM 4 GB และ Storage 128 GB (สำหรับรุ่น RAM 3 GB จะมาพร้อมกับ Storage 64 GB) เรียกว่าให้มาพอดีสมกับราคา ไม่น้อยหน้าคู่แข่ง

ด้วยความที่หน้าจอมีความละเอียดเพียง HD+ เท่านั้นทำให้ไม่กินสเปคอะไรมาก เท่าที่ลองเล่น PUBG Mobile แบบปรับกราฟิกสุดเท่าที่เครื่องอนุญาตให้ปรับสุดได้ก็สามารถเล่นได้สบาย ๆ




กล้องหลัง 4 ตัวตามแบบฉบับรุ่นพี่
realme 5 มาพร้อมกล้องหลัก 4 ตัว


- กล้องหลัก ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
- กล้องวัดความลึก สำหรับถ่ายภาพเอฟเฟกต์โบเก้และหน้าชัดหลังเบลอ
- กล้องมาโคร สำหรับถ่ายวัตถุเล็ก ๆ ในระยะใกล้

ในหน้าหลักของกล้องนั้นจะมีโหมด Chroma Boost ที่ช่วยเร่งสีให้สดใสขึ้น


และโหมดถ่ายภาพแบบมุมกว้างที่สามารถเข้าถึงได้ด้วยการกดไอคอนสี่เหลี่ยมพื้นผ้าที่โค้งเว้าเข้าสู่ด้านใน




มีโหมด Nightscape สำหรับถ่ายในที่มืด เวลาถ่ายจะเปิดหน้ากล้องนานกว่าปกติ


นอกจากนี้ realme 5 ยังสามารถถ่ายภาพมาโครได้ด้วย ซึ่งในระดับราคานี้หาจากความสามารถนี้จากคู่แข่งยากมากเลยทีเดียว


กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มี AI Beauty ปรับแต่งได้ไม่แพ้รุ่นพี่
จุดเด่นของกล้อง realme คือโหมด Beauty ที่ปรับแต่งใบหน้าได้แทบทุกส่วนประดุจทำศัลยกรรมแบบชุดใหญ่



ถึงแม้จะมีโหมด Natural มาให้เลือก แต่เมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่าง realme 5 Pro นั้นก็ยังรู้สึกว่าถึงเปิดโหมด Natural ตัวซอฟต์แวร์ก็ยังคงปรับให้เราหน้าเนียนกว่าความเป็นจริงอยู่

มีโหมด Portrait สำหรับถ่ายหน้าชัดหลังเบลอด้วย (มีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง)


แบตเตอรี่จุเยอะสะใจ ใช้งานได้ยาวนานข้ามวัน
realme 5 Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่จุเยอะถึง 5000 mAh เรียกได้ว่าเยอะมาก ๆ จนเป็น Powerbank ขนาดย่อมก็ว่าได้ ยิ่งความละเอียดจอที่เหลือเพียง HD+ เท่านั้นทำให้ประหยัดแบตเตอรี่เข้าไปได้มากกว่าเดิมอีกระดับนึง

ซึ่งจากการที่ลองใช้งานแบบเรื่อย ๆ เช็คโซเชียลสลับกับถ่ายรูปและเล่นเกม PUBG Mobile ยามว่างพร้อมต่อ Wi-Fi ตลอดเวลา พบว่าสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันแถมยังเหลือแบตกลับบ้านอีกด้วย


และถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ใช้งานอะไรมากมายก็สามารถใช้ได้มากกว่า 2 วันแบบสบาย ๆ ส่วนตัวผมเองชาร์จแบตจนเต็มและสแตนด์บายเอาไว้ 1 วันเต็ม ๆ จากนั้นวันต่อมาก็เอามาใช้งานตามที่เขียนไว้ข้างต้นก็พบว่ายังเหลือแบตอีกตั้ง 59% แถมยังขึ้นบอกในระบบอีกว่าน่าจะใช้ต่อไปได้อีก 1 วัน

แต่ด้วยความที่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้แลกมาพร้อมกับการชาร์จที่ค่อนข้างช้า ซึ่งแนะนำว่าให้ชาร์จเอาไว้ก่อนเข้านอน พอตื่นมาแบตจะได้เต็มพอดี
สรุป สเปคสมราคา ใช้ได้ยาวนานไม่ต้องกลัวแบตหมด
สำหรับสเปคที่ให้มาเรียกว่าสมกับราคามาก ใช้งานทั่ว ๆ ไปโอเค เล่นเกมก็ไหว แถมแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานมากกกก เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการมือถือสเปคอลังการแต่เน้นใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี
