เก็บตกงาน Made by Google ’19 | เปิดตัว Pixel 4, PixelBook Go, Pixel Buds รุ่นใหม่ รีแบรนด์ Nest พร้อมประกาศวันเปิดให้บริการ Stadia

Google จัดงาน Made By Google ’19 เพื่อเปิดตัวฮาร์ดแวร์เซ็ตใหม่ที่จะนำทัพ Google ไปสู่ปี 2020 เราได้สรุปทุกอย่างในงานไว้ที่นี่แล้ว ติดตามกันได้เลย

Stadia

บริการเล่นเกมผ่าน Cloud ของ Google จะเปิดให้บริการในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ โดยคอนโทรลเลอร์ของ Stadia ได้รับแรงบันดาลใจมาจากด้ามจับของมีดทำครัวที่ให้การจับที่เหมาะมือในการทำอาหาร มาสู่ประสบการณ์ชั้นเลิศในการเล่นเกม

Pixel Buds 2

หูฟังไร้สายแบบ True Wireless สามารถแตะเพื่อเรียกใช้งาน Google Assistant จากหูฟังได้เลย มีระยะการเชื่อมต่อ Bluetooth ที่ไกลกว่าเดิม โดยสามารถใช้งานโดยตัวเราและมือถืออยู่คนละฟากของสนามอเมริกันฟุตบอลได้เลย แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 5 ชม. และชาร์จกับเคสได้เพิ่มรวมเป็น 24 ชม. ดีไซน์แบบ Hybrid คือเป็นหูฟังแบบ in-ear แต่มีช่องสำหรับให้เสียงด้านนอกเข้า ไมค์บีมเสียงและรับแรงสั่นสะเทือนจากกระดูกเพื่อเก็บเสียงพูดได้อย่างชัดเจน ราคา 179 ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 5,500 บาท

Nest Mini (2nd Gen)

ลำโพงอัจฉริยะ มาพร้อมสีใหม่ Sky เบสมากขึ้น และให้เสียงที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น มีชิปสำหรับประมวลผล Machine Learning โดยเฉพาะ 1 TeraFlops สำหรับประมวลผลคำสั่ง Google Assistant โดยเฉพาะ สามารถใช้มือถือโทรเข้า Nest Mini ผ่านอินเทอร์เน็ตได้

Nest ทุกชิ้นมีส่วนประกอบของ Recycle plastic เช่น ผ้าที่ใช้ทำ Nest Mini ทำจากขวดพลาสติกรีไซเคิล โดย 1 ขวดทำผ้าสำหรับ Nest Mini ได้ถึง 2 ตัว

และมีหน้าเว็บภาษาไทยแล้วด้วย แต่ยังไม่มีผลิตภัณฑ์วางจำหน่าย

Nest Aware

บริการบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ของอุปกรณ์ Smart Home แบรนด์ Nest ขึ้นสู่ Cloud เพื่อให้เปิดดูจากที่ไหนก็ได้ โดยคิดค่าบริการแบบรายเดือน และยังมีฟีเจอร์ตรวจจับเสียงอัตโนมัติ เช่น หากได้ยินเสียงเครื่องตรวจควันร้องก็จะแจ้งเราให้ทราบทันที และมีบริการโทรหาเบอรฉุกเฉิน ทาง Google ได้มีการปรับราคาใหม่ โดยเพิ่มแพ็คเกจสำหรับใช้ร่วมกับอุปกรณ์หลายตัวเข้ามาด้วย

Nest Wi-Fi

เราเตอร์ Wi-Fi ออกแบบใหม่ให้มีหน้าตาสวยงามกว่าเดิม เพื่อที่จะวางไว้ในส่วนต่างๆ ของบ้านได้อย่างไม่เคอะเขิน โดย Google กล่าวว่าเนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้มีหน้าตาไม่รับแขก ผู้ใช้จึงมักจะวางซ่อนเอาไว้ตามตู้หรือซอกต่างๆ ทำให้การกระจายสัญญาณไม่ดี จึงออกแบบให้ผู้ใช้สามารถวางไว้กลางบ้านโดยไม่รู้สึกขัดหูขัดตา นอกจากนั้นยังสามารถทำตัวเป็น Nest Mini รับคำสั่งด้วยเสียงพร้อมมีลำโพงในตัวอีกด้วย ราคาเริ่มต้น 149 ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 4,500 บาท

Pixelbook Go

โน้ตบุ้คใช้ระบบปฏิบัติการ Chrome OS ออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาลง แต่แบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้น แป้นคีย์บอร์ดออกแบบใหม่ให้เงียบกว่าเดิม

  • รุ่น Core m3 ราคา 649 ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 20,000 บาท
  • รุ่น Core i5 แรม 8 GB ราคา 849 ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 26,000 บาท
  • รุ่น Core i5 แรม 16 GB ราคา 999 ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 30,500 บาท
  • รุ่น Core i7 ราคา 1,399 ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 43,000 บาท

Pixel 4

สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด จุดเด่นแรกคือเซ็นเซอร์ Soli Radar ที่กล้องหน้าสามารถจับความเคลื่อนไหวของวัตถุเล็กๆ ได้อย่างแม่นยำ นำมาช่วยในการปลดล็อกหน้าจอ โดยในจังหวะที่เราเอื้อมมือจะไปจับเครื่อง เซ็นเซอร์ตัวนี้จะตรวจพบมือ และทำการเปิดหน้าจอพร้อมสแกนหน้า ทำให้สามารถปลดล็อกเครื่องสำเร็จก่อนที่เราจะจับเครื่องเสียอีก

https://bacidea.com/2019/10/soli-radar.html

เซ็นเซอร์ตัวนี้ยังทำงานร่วมกับ Gesture ต่างๆ ในชื่อ MotionSense เช่น ปัดมือเพื่อเปลี่ยนเพลง, ปัดมือเพื่อปิดเสียงเวลาสายเข้า และโบกมือทักทายปิกาจูที่หน้า Home ที่สำคัญคือระบบ MotionSense ทั้งหมดประมวลผลในมือถือเท่านั้น ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็วและปลอดภัย

อินเทอร์เฟซของ Google Assistant ปรับปรุงใหม่ สามารถประมวลผลคำสั่งในตัวเครื่องได้โดยไม่ต้องส่งข้อมูลไปประมวลผลบน Cloud ทำให้การทำงานรวดเร็วและปลอดภัยกว่าเดิม ถ้าใครจำได้ ในงาน Google I/O 2019 ด้มีการโชว์การใช้งาน Google Assistant ในการควบคุมเครื่องที่ให้ความรวดเร็วยิ่งกว่าการสั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัสเสียอีก

นี่คือมือถือที่มีระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด

Gartner

แอปบันทึกเสียงใหม่ สามารถบันทึกเสียงและถอดคำแบบ Real-time และสามารถค้นหาไฟล์เสียงแต่ละช่วงได้แบบง่ายๆ โดยสามารถเสิร์ชจากคำพูดหรือเสียงในคลิปก็ได้ ทุกอย่างประมวลผลในเครื่องเช่นกัน

มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ที่ได้เรตติ้งระดับ A+ พร้อมเฟรมเรท 90Hz

กล้องหลังมาพร้อมกล้องคู่ ปรับปรุงให้แสดงผล Live HDR+ ได้แล้ว ภาพที่พรีวิวในหน้าจอก่อนถ่ายและภาพที่ได้หลังถ่ายจะเหมือนกัน

ฟีเจอร์ Dual Exposure สามารถปรับ Brightness และ Shadow ได้ก่อนถ่ายเลย

Google นำระบบวัดแสงจากโหมด Night Sight ที่ใช้การเรียนรู้ด้วยระบบ Machine Learning มาใช้กับระบบการถ่ายภาพทั้งระบบ ทำให้ White balance แม่นยำกว่าเดิม

ปรับปรุงฟีเจอร์หน้าชัดหลังเบลอให้ตัดขอบได้แม่นยำและทำโบเก้สมจริงขึ้น โดยเฉพาะต้นไม้และขนของสัตว์

โหมด Night Sight ปรับปรุงให้สามารถถ่ายดาวได้ โดยใช้ Machine Learning มาช่วยในการรวมภาพและกำจัด Noise ที่เกิดจากการถ่ายภาพต่อเนื่องนานถึง 4 นาที *ต้องใช้ขาตั้งกล้องด้วย

โหมด Night sight ยังสามารถนำไปประยุกต์ถ่ายภาพในรูปแบบอื่นๆ ได้อีกด้วย

รอบนี้ Google ไม่แจก Google Photos แบบเต็มความละเอียดฟรีแล้ว แต่แจก Google One แพ็คเกจ 100 GB ให้ใช้งานฟรี 3 เดือนแทน

Google Pixel 4 มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สี Just Black, Clearly White และ Oh So Orange (Limited) โดยมีราคาดังนี้

  • Pixel 4 64 GB ราคา 799 ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 24,500 บาท
  • Pixel 4 128 GB ราคา 899 ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 27,500 บาท
  • Pixel 4 XL 64 GB ราคา 899 ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 27,500 บาท
  • Pixel 4 XL 128 GB ราคา 999 ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 30,500 บาท