รีวิว ASUS ROG Phone II | พี่เกิดมาเพื่อเกม
ASUS ROG Phone II เรียกว่าเป็นที่สุดของ Gaming phone ก็ว่าได้ ด้วยฟีเจอร์ที่อัดแน่นจัดเต็มเพื่อคอเกมแบบสมชื่อ Republic of Gamers และยังได้แก้ไขจุดอ่อนของรุ่นแรกทำให้เป็นสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบกว่าเดิม
แกะกล่องทรงปริซึม 6 เหลี่ยมไม่เหมือนใคร
ถ้าคุณซื้อ ASUS Rog Phone II เครื่องไทย คุณจะได้กล่องบรรจุเป็นทรงปริซึม 6 เหลี่ยมหน้าตาแปลกตาไม่เหมือนใคร ตัวกล่องโดยรอบจะมีอักขระสลักไว้สไตล์ ROG
วิธีเปิดกล่องทำโดยดึงออกมาตรงๆ
ตัวกล่องจะแบ่งเป็น 3 ด้าน ด้านแรกบรรจุเจ้า ROG Phone II เอาไว้
อีกด้านจะเป็นพัดลมระบายอากาศ AeroActive Cooler II สำหรับติดกับมือถือพื่อช่วยระบายความร้อนให้ดียิ่งขึ้น
ด้านสุดท้ายบรรจุอุปกรณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเคส เข็มจิ้มซิม หัวชาร์จเร็ว สายชาร์จ และคู่มือต่างๆ
ดีไซน์สไตล์เกมเมอร์
ASUS ROG Phone II มาในดีไซน์สไตล์คล้ายๆ เดิม สหรับเครื่องไทยจะเป็นรุ่นฝาหลังกระจกสีเทา/ดำ มีเส้นสายลวดลายสะท้อนสีรุ้งเล่นกับแสงไฟ มีโลโก้ ROG ตรงกลางเครื่องที่มีไฟ RGB ปรับเปลี่ยนสีได้ ด้านข้างเป็นที่อยู่ของระบบ ROG Aerodynamic system ระบบระบายความร้อนพิเศษของเครื่องที่ช่วยนำพาความร้อนจากในเครื่องออกมาข้างนอกได้รวดเร็วมาก
มีจุดสังเกตว่าเครื่องนี้เหมือนจะมีไฟ LED Flash 2 ดวง แต่เวลาใช้งานจริงจะติดแค่ดวงเดียยว เพราะอีกดวงเป็นไฟสำหรับใช้กับเคสพิเศษที่จะมีแสงออกมา
สำหรับเคสแถมของ ROG Phone II ออกแบบมาพิเศษที่ช่วยปกป้องตัวเครื่องจากการตก แต่ไม่บดบังความสวยงามของเครื่อง
ดีไซน์เคสแบบนี้นอกจากให้ความสวยงามแล้ว ยังมีข้อดีอีกอย่างคือเวลาเล่นเกมแล้วตัวเครื่องสามารถระบายความร้อนได้ง่าย เพราะไม่โดนตัวเคสอมความร้อนไว้
ด้านในเคสมีการซ่อนลวดลายที่ออกแบบอย่างสวยงามไว้ด้วย เรียกว่าสวยงามทั้งภายนอกและภายใน
หน้าจอ 129 Hz ลื่นปรื๊ดๆๆๆ
มาถึงด้านหน้าเครื่องกันบ้าง ด้านหน้าเป็นที่อยู่ของหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.59 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 แบบไร้ติ่ง ริ้งการเจาะรูใดๆ บนหน้าจอ เรียกว่าออกแบบมาถูกใจคอเกมแบบสุดๆ แน่นอน ตัวหน้าจอเองก็มาพร้อมสเปกระดับท็อป ไม่ว่าจะเป็นความสว่าง 600nits มี Delta E < 1 มั่นใจเรื่องความแม่นยำของสี สามารถแสดงขอบเขตสี 111.8% DCI-P3, 107.4% NTSC, 151.7% sRGB สีสันสดใสแน่นอน และยังมี contrast ratio สูงถึง 500,000:1 รองรับ Multi-touch 10 จุด กดทุกนิ้วพร้อมกันก็ไม่มีปัญหา และที่สำคัญคือมี Refresh rate สูงถึง 120 Hz
สำหรับใครที่ไม่รู้จัก Refresh rate การแสดงผลบนหน้าจอให้ออกมาเป็นภาพอนิเมชั่นจะเกิดจากการเปลี่ยนภาพบนหน้าจอเร็วๆ ซึ่งจอมือถือทั่วๆ ไปจะมีอัตราการเปลี่ยนภาพตอ 1 วินาทีอยู่ที่ 60 ภาพ แต่ ASUS ROG Phone II สามารถทำได้มากกว่าอีกเท่าตัวคือ 120 ภาพ/วินาที (หรือที่เรียกว่า 120 Hz) ทำให้สามารถแสดงภาพแอนิเมชั่นต่างๆ ได้ลื่นไหลกว่า ส่วนคอเกมจะได้ประโยชน์จากการได้เห็นการเคลื่อนไหวของศัตรูที่ละเอียดกว่า และตอบสนองต่อการสั่งงานได้ฉับไวกว่า แลกมากับการใช้พลังงานที่มากขึ้น
ความโดดเด่นของหน้าจอนอกจาก Refresh rate แล้วยังมี Touch latency ที่น้อยเพียง 42 ms เท่านั้น เรียกว่าทัชปุ๊บขยับปั๊บ ไม่มีหน่วง
ลำโพงคู่หน้าและไมค์ 4 ตัว
ด้านหน้าเครื่องจะมีแถบสีทองๆ ด้านบนและล่างเครื่องเป็นที่อยู่ของลำโพงคู่หน้า ให้ประสบการณ์เสียงแบบสเตอริโอ ศัตรูมาจากทางไหนรู้แน่นอน ตัวลำโพงเสียงไม่ดีดีมากแต่ความดังทำได้ดีทีเดียว
ASUS ROG Phone II มาพร้อมไมโครโฟนถึง 4 ตัว ช่วยจับเสียงของเราและตัดเสียงรบกวน ซึ่งหลายคนที่เล่นเกมด้วยต่างบอกว่าเสียงไมค์ดีมาก ฟังง่าย ฟังชัด เสียงชัดเจน
อัดแน่นด้วยฟีเจอร์เพื่อการเล่นเกม
เอกลักษณ์ของ ASUS ROG Phone II ก็คือโหมด X เพื่อการเล่นเกม โดยรอบนี้ได้มารวมร่างกับโหมดเกม ให้เราตั้ง Scenario หรือก็คือการตั้งค่าเครื่องให้พร้อมเล่นเกมนั้นๆ มาดูกันว่าตั้งอะไรได้บ้างครับ
Touch
ปรับการตอบสนองต่อการสัมผัส
Display
ปรับตั้งค่าหน้าจอ
- Anti-alissing ลดขอบหยักของภาพ
- Refresh rate จุดเด่นของรุ่นนี้เลย สามารถปรับ Refresh rate ได้ถึง 3 ค่า
Performance
ปรับประสิทธิภาพในการใช้งาน
- X Mode ตัวนี้ไว้จูนประสิทธิภาพเครื่อง มีทั้งจูนแบบง่ายๆ 3 ระดับ หรือจะเป็นสาย Hardcore ที่สามารถจูนค่าต่างๆ ได้เองแบบละเอียดก็ได้ (ละเอียดระดับที่ผมยังไม่กล้าปรับ)
- CPU ปรับความเร็ว CPU ได้ตามใจ
- Temperature control ตัวควบคุมอุณหภูมิว่าจะให้เครื่องลดรอบ CPU ตอนอุณหภูมิเท่าไหน
- Memory Cleaner ล้างแรมก่อนเข้าเกม
Audio
- Call Exclusive mode ป้องกันไม่ให้เวลาเรารับโทรศัพท์ระหว่างเล่นเกมแล้วเสียงคุยเราเข้าไปในเกม
Network
- Prevent switching networks ป้องกันไม่ให้มีการสลับเครือข่ายระหว่างเล่นเกม
- Restrict background sync หยุดการส่งข้อมูลเบื้องหลัง ป้องกันการโดนแย่งเน็ตโดยแอปอื่น
AirTriggers
ASUS ROG Phone II จะมีปุ่ม Trigger ที่ขอบเครื่อง สามารถตั้งค่าได้เองทุกเกม ตัว Trigger ใช้เทคโนโลยี Ultrasonic ในการรับการกด สามารถปรับระดับการกดได้ว่าต้องกดแรงแค่ไหน จึงสามารถวางนิ้วไว้บนขอบเครื่องตลอดเวลาได้เลยเหมือนปุ่มจริงๆ
ฟีเจอร์นี้ถูกใจคอเกม FPS แน่นอน ทำให้การเล่นเกมแนวนี้ง่ายขึ้นมาก
Key Mapping
ASUS ROG Phone II รองรับการต่อจอย รวมถึงชุด เมาส์และคีย์บอร์ด สำหรับเล่นเกม โดยเครื่องมีฟีเจอร์ในการแมพปุ่มมาให้พร้อมเลย
Macro
ฟีเจอร์ Macro สำหรับคอเกมน่าจะคุ้นเคยดี มันคือการเซ็ตชุดการกดปุ่มไว้ล่วงหน้าเป็นคีย์ลัด ทำให้การกดคอมโบต่างๆ ง่ายขึ้น
เวลาอยู่ในเกม เมื่อปัดขอบข้างของเครื่องออกมาจะมีเจ้า Game Genie เอาไว้ปรับค่าต่างๆ เวลาเล่นเกม โดยมีฟีเจอร์เด่นๆ ดังนี้
- No alerts ปิดการแจ้งเตือนของทุกแอป พวก Chat head ก็ไม่ขึ้น
- No calls ตัดสายเรียกเข้าทั้งหมด
- Lock brightness ล็อกความสว่างของจอไม่ให้ปรับอัตโนมัติ
อีกจุดเด่นหนึ่งคือความสามารถในการแสดงข้อมูลสำคัญไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน CPU, การใช้งาน GPU, ปริมาณแบตเตอรี่, อุณหภูมิเครื่อง, และ เฟรมเรท ที่ต้องบอกเลยว่าหาแอปมาทดแทนไม่ใช่เรื่องง่าย อันนี้ครบเครื่องสุดๆ แล้ว
เสริมการระบายความร้อนด้วย AeroActive Cooler II
ASUS ROG Phone II จะมีอุปกรณ์เสริม พัดลมระบายความร้อนภายนอก วิธีติดตั้งทำได้ง่ายๆ เพียงเสียบเข้ากับพอร์ตชาร์จด้านข้างตัวเครื่อง ตัวพัดลมจะทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าเกม จากการใช้งานสามารถลดอุณหภูมิได้ 5-10 องศาเลยทีเดียว บางครั้งเวลาเล่นในห้องแอร์ถึงกับต้องถอดออกเพราะเย็นมือเลยทีเดียว
ตัวพัดลมสามารถเสียบสายชาร์จและหูฟังได้ เวลาเล่นมือถือแนวนอนไม่เกะกะนิ้วแน่นอน
สำหรับเวอร์ชัน 2 นี้ ด้านหน้ามีไฟด้วยนะ และถ้านำแถบยางที่แถมมาในกล่องติดเข้าไป จะสามารถจับมือถือตั้งได้ด้วย
แต่ถ้าเราเล่นเกมที่ต้องเปิดไมค์ แล้วเราใช้งานไมค์ในตัวเครื่อง พัดลมจะหยุดการทำงานอัตโนมัติไม่ให้เสียงพัดลมเข้าไปกวนไมค์
ประสิทธิภาพและแบตเตอรี่
เรื่องประสิทธิภาพกับ ASUS ROG Phone II ไม่ต้องพูดเยอะ เพราะพี่เค้าจัดมาเต็มเม็ดเต็มหน่วยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น Qualcomm Snapdragon 855+ ตัวท็อปสุดในโลก Android จัดแรมไปเต็มๆ 12 GB หน่วยความจำ UFS3.0 ขนาด 512 GB ลงเกมเยอะแค่ไหนก็ไม่กลัว แถมระบบระบายความร้อนสุดเทพ บวกกับพัดลมภายนอกและความสามารถในการ Overclock เปิดกราฟิกสุดได้ทุกเกมแบบไม่ต้องกังวลใดๆ (นอกจากปริมาณแบตเตอรี่)
จากการใช้งานจริงต้องบอกว่ายังไม่เจอเกมไหนที่เล่นด้วยเครื่องนี้แล้วไม่ลื่นเลย เล่นได้อย่างลื่นไหลทุกเกม ทำเอาคนที่ไม่ค่อยเล่นเกมอย่างผมติดเกมได้ การระบายความร้อนออกจากผิวตัวเครื่องทำได้ดีกว่ารุ่นแรกมากๆ สามารถเล่นเกมนานๆ ได้โดยไม่ร้อนมือ แต่ด้วยน้ำหนักและขนาดของตัวเครื่อง ถือเล่นนานๆ มีเมื่อยมือเมื่อยนิ้วเหมือนกัน
ด้วยสเปกหฤโหดขนาดนี้ บอกเลยว่าซดแบตหฤโหดพอกัน โดยเฉพาะจอ 120 Hz ดังนั้น ASUS จึงจัดแบตมาให้ถึง 6,000 mAh ใช้กันแบบชิลๆ แต่ถ้าคุณปรับสุดแบบเวอร์วัง แบตก็ลดฮวบๆ เหมือนกันนะ ผมทดสอบเล่น PUBG แบบรีดประสิทธิภาพสุดทุกเม็ด (ซึ่งเกินความจำเป็นมาก) และติดพัดลมด้วย เล่น 1 แมทช์แบตหายไป 10% เลยทีเดียว ดังนั้นผมแนะนำว่าปรับแบบพอเพียงให้เหมาะสมกับการใช้งานดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องเปิดสุดทุกอย่าง
สำหรับการชาร์จไฟทำได้ 3 วิธี
- เสียบชาร์จที่ตูดเครื่องตามปกติ วิธีนี้เวลาถือเล่นเกมแนวนอนจะไม่ค่อยถนัด
- เสียบชาร์จผ่านช่องชาร์จของพัดลม AeroActive Cooler II ถือเล่นเกมได้ ไม่เกะกะนิ้ว
- เสียบที่ด้านข้างเครื่อง โดยเสียบเข้าช่องทางด้านซ้ายมือ ไม่เกะกะเช่นกัน
เนื่องจากแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ถึง 6,000 mAh การชาร์จแบตให้เต็มไม่ใช่เรื่องง่าย ทาง ASUS เลยให้หัวชาร์จเร็ว 30W มาให้ในกล่อง แต่ถ้าใครอยากจะซื้อหัวชาร์จเพิ่ม ให้หาหัวชาร์จที่รองรับเทคโนโลยี QC4.0 หรือ USB-PD เพราะบอกเลยว่ารุ่นนี้ชาร์จด้วยหัวชาร์จธรรมดาช้ามาก
กล้องหลังคู่มี Night mode
รุ่นนี้ ASUS บอกว่า “เกมเมอร์ก็ต้องถ่ายรูปเหมือนกัน” ดังนั้นเลยใส่กล้องหลังมาให้ 2 ตัว คือ กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.79 ใช้เซ็นเซอร์ของ Sony และ กล้องมุมกว้าง 13 ล้านพิกเซล
กล้องหลัก กล้องมุมกว้าง
มี Night mode สำหรับถ่ายภาพในที่มืด ซึ่งบอกเลยว่าภาพที่ได้ถือว่าโอเคเลยทีเดียว
โหมด Auto Night mode
สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล f/2.0 พร้อมความสามารถในการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ
ต้องบอกว่ากล้องของ ASUS ROG Phone II อาจไม่โดดเด่นเหมือนสมาร์ทโฟนเรือธงทั่วๆ ไป แต่คุณภาพก็อยูในเกณฑ์ดี ให้เราได้ใช้งานได้ในทุกสถานการณ์
การใช้งานทั่วไป
หลังจากดูด้านเกมไปแล้ว มาดูด้านการใช้งานทั่วไปกันบ้าง ASUS ROG Phone II มาพร้อมระบบปฏิบัตการ Android 9 Pie ที่ตกแ่งด้วยธีมของตัวเอง และเพิ่มเติมฟีเจอร์เด็ดๆ ให้การใช้งานของเราสะดวกสบายขึ้น ที่ต้องบอกเลยว่า ใส่มาดุพอๆ กับด้านเกมเลย
หน้าหลัก Google Now หน้ารวมแอป กาารตั้งค่าด่วน
Mobile Manager จัดการมือถือภายในหน้าเดียว ไม่ว่าจะจัดการเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ต ลบไฟล์ขยะ สแกนไว้รัส
Twin Apps โคลนแอปให้ใช้งานพรอ้มกัน 2 แอคเคาท์ได้ โคลนเกมได้ด้วยนะ
OptiFlex เทคโนโลยี AI ของ ASUS ที่ทำให้การใช้งานแอปลื่นไหล และรวดเร็วขึ้น
Gesture สั่งงานเครื่องด้วยท่าทาง
บีบเครื่องเพื่อสั่งงาน โดยใช้ AirTrigger เข้ามารับแรงกด สามารถรับได้ 2 คำสั่งคือบีบสั้นและบีบยาว สามารถตั้งได้ตามใจชอบว่าบีบเครื่องแล้วจะให้ทำอะไร
AudioWizard ปรับ Equalizer เสียงได้แบบตามใจ พร้อมโหมด Outdoor ที่จะช่วยบูสต์ความดังเสียงเวลาใช้งานนอกบ้าน
จุดที่แตกต่างจากเครื่องนอก
บางคนเห็น ASUS ROG Phone II เครื่องนอกทำไมขายถูกกว่าเครื่องไทยเยอะจัง? ต้องบอกว่าสเปกของเครื่องไทยและเครื่องนอกราคาถูกเหล่านั้นมีสเปกที่ต่างกันเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายที่รองรับ, ความจุ, แรม รวมถึงอุปกรณ์ที่แถมมาในกล่องด้วย
บทสรุปของ ASUS ROG Phone II
ASUS ROG Phone II ยังคงความสุดยอดในด้านเล่นเกมเอาไว้ได้แบบไม่เสื่อมคลาย สมกับชื่อ Republic Of Gamer เล่นเกมได้ทุกระดับกับสเปกที่แรงแบบเหลือๆ พร้อมฟีเจอร์ที่พ่วงมามากมายระดับทำให้คนอย่างผมที่ไม่ค่อยเล่นเกมยังติดเกมได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งการใช้งานทั่วไป พร้อมอัปเกรดกล้องให้มีโหมดกลางคืนตามสมัยนิยม อาจจะไม่ดีมากเหมือนเรือธงอื่นๆ แต่ก็ใช้งานได้