หลังจากใช้งาน HUAWEI Watch GT 2 มาระยะหนึ่ง ผมก็ได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัว Smartwatch รุ่นนี้ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งที่นั่นเค้าโปรยหัวงานไว้ชัดเลยว่า Tech Meets Fashion โดยในงานก็จะเน้นแสงสีและการแสดง Dance แต่ละรูปแบบที่ดูแล้วเพลินตามาก แต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ปรกติแล้วผมไม่ค่อยได้ใช้ฟีเจอร์ด้านการตรวจจับการเต้นของหัวใจ เพราะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย พอมาทริปนี้เราได้มีโอกาสไปที่ Universal Studios Singapore กับเครื่องเล่นต่างๆ ที่เหมือนได้ใช้ฟีเจอร์ในสถานการณ์จริง
ก่อนที่จะไปสนุกสนานกับเพื่อนๆ ก็เริ่มด้วยบทโหดที่ไม่ต่างจากการกลับไปเรียนมหาวิทยาลัยในหัวข้อ HUAWEI Developer Day 2019 ที่เน้นข้อมูลเรื่องของ HMS ในเชิงนักพัฒนาและนักการตลาด ซึ่งหัวข้อนี้เครียดเอาเรื่อง
ด้วยความจริงจังของเนื้อหานี่เองที่ทำให้ HUAWEI Watch GT 2 บอกค่าความเครียดว่าก่อนเข้ารับฟังเนื้อหา ผมยังมีความเครียดในระดับผ่อนคลาย แต่พอเริ่มนั่งฟังเท่านั้นล่ะกราฟเริ่มพุ่งขึ้นทันที
บางครั้งคนเราก็เครียดแบบไม่รู้ตัว ส่งผลให้หงุดหงิดง่ายหรือบางคนก็ป่วยไปเลยก็มี การมีมาตรวัดความเครียดติดตัวแบบนี้ ก็ช่วยให้เรารักษาระดับความเครียดได้ดียิ่งขึ้น
จบวันเครียดจริงจังกันแล้ว ตอนนี้ก็มาต่อกับวันที่น่าจะสนุกสุดแสนเหมือนย้อนวัยกลับไปเที่ยวแดนเนรมิตร กับการเที่ยว Universal Studios Singapore ที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นและตัวละครจากหนังและอนิเมชั่นที่คุ้นเคย
ประเด็นก็คือที่นี่มีเครื่องเล่นแนว Extreme เยอะมาก และผองเพื่อนก็แลดูจะชื่นชอบกันด้วย ผมเองที่ไม่ใช่แนวผาดโผนเลยเล่นไปแค่ไม่กี่อย่าง แต่นั้นก็ทำให้หัวใจผมเต้นแรงเอาเรื่อง
BPM คือ Beat Per Minute หมายถึงอัตราการเต้นของหัวใจต่อนาที ตามข้อมูลของโรงพยาบาลกรุงเทพระบุไว้ว่า โดยทั่วไปแล้วหัวใจคนเราจะมีอัตราการเต้นระหว่าง 60-100 BPM
เริ่มต้นด้วยการนั่งเรือสบายๆ ลอดถ้ำฟังเรื่องราวของ Madagascar ต่อด้วยดูหนัง 4D จากเรื่อง Shrek แล้วนั่งรถไฟเหาะไปรอบ จากกราฟจะเห็นได้ว่าพอเข้าช่วงสายของวันซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มกิจกรรมใน Universal Studios Singapore หัวใจผมก็เริ่มเต้นเร็วขึ้นกว่าเดิมทันที จนถึงจุดสูงสุดที่ 152 BMP ซึ่งเป็นการเตือนตัวเองที่ดีมากว่าตอนนี้ร่างกายเราเริ่มไม่ไหวแล้ว ควรหยุดเล่นกิจกรรม Extreme ได้แล้ว
และข้อมูลนี้ยังเป็นข้อดีในกรณีถ้ามีเพื่อนที่ชอบคะยั้นคะยอให้เล่นต่อ จะได้เอา HUAWEI Watch GT 2 ให้ดูว่าเราเล่นต่อไม่ได้แล้วจริงๆ หัวใจเราเริ่มเต้นแรงเกินไปแล้ว
อันที่จริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องมาดูเองตลอดเวลา เพราะมีระบบแจ้งเตือนในกรณีที่อัตราการเต้นของหัวใจสูงหรือต่ำกว่าที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ยังมีบอกข้อมูลการนอนที่ให้รายละเอียดได้ว่าหลับไปกี่ชั่วโมง แบ่งเป็นหลับลึกมากน้อยแค่ไหน เพราะบางคนก็มีปัญหาที่นอนเยอะแต่รู้สึกเพลีย ซึ่งอาจเป็นเพราะมีช่วงเวลาหลับลึกที่ค่อนข้างน้อย
สำหรับทริปนี้ HUAWEI Watch GT 2 ก็ทำให้ผมรู้จักร่างกายตัวเองมากขึ้น ว่าทำไมบางครั้งถึงรู้สึกเหนื่อยเพลีย นั่นก็อาจเป็นเพราะนอนหลับลึกน้อยมาก หรืออย่างการวัดความเครียดที่ทำให้รู้ว่าผมควรลุกออกจากห้องไปพักสมองสักแปบ รวมถึงการบอกอัตราการเต้นของหัวใจที่เตือนให้รู้ว่าอย่าฝืนเล่นต่อ ไม่ได้เฟี้ยวแบบตอนเด็กๆ แล้วนะเออ
