แนะนำการแก้ภาพเบลอ สั่น หลุดโฟกัสด้วย Topaz Sharpen AI

Topaz Sharpen AI เป็นแอพอีกตัวที่ใช้ AI เข้ามาช่วยปรับแต่งให้ภาพดูดีขึ้น โดยค่ายนี้เคยมีแอพที่โด่งดังมาแล้วอย่าง Gigapixel AI ที่ช่วยให้การขยายภาพคมชัดยิ่งขึ้น แต่ครั้งนี้เราจะมาเจาะลึกถึง Sharpen AI กันครับ

โหมดการใช้งานที่ง่ายมาก

Topaz Sharpen AI เป็นแอพที่ใช้งานได้ง่ายแบบที่ใครก็ใช้ได้ เพียงแค่เลือกรูปที่ต้องการ จากนั้น AI จะทำการคำนวณและปรับแต่งให้ แต่ถ้ายังไม่ถูกใจก็สามารถปรับเพิ่มเติมได้เอง

โหมดการใช้งานมีให้เลือก 3 แบบได้แก่

• Sharpen สำหรับเพิ่มความคมชัดทั่วไป
• Stabilize แก้ไขภาพที่เบลอหรือสั่นไหว
• Focus ช่วยปรับแก้การหลุดโฟกัส

แก้ภาพเบลอ แก้ภาพสั่น แก้หลุดโฟกัสได้ง่าย

จากการใช้งานในหลายๆ สถานการณ์ ต้องบอกว่าแอพนี้ทำได้ง่ายและได้ผลลัพธ์ค่อนข้างดี ช่วยกู้สถานการณ์ให้ได้ไฟล์ภาพสวยๆ ในกรณีที่ถ่ายมาไม่ดี

อย่างเช่นการถ่ายภาพประกอบรีวิวการปลูกผม ซึ่งภาพต้นฉบับมีความเบลอ และผมคงไม่สามารถกลับไปถ่ายซ่อมได้ แต่ Topaz Sharpen AI ก็ช่วยให้ผมสามารถเอารูปมาใช้งานได้ เพียงแค่เลือกโหมด Stabilize ภาพที่ได้ก็คมชัดขึ้นทันที

หรืออย่างตอนที่ผมตั้งกล้องถ่ายตัวเองหลังจากปลูกผมเสร็จ ซึ่งตอนนั้นค่อนข้างมึนจากการผ่าตัด ทำให้ไม่ได้เช็คการตั้งค่ากล้อง ผลที่ได้คือภาพเบลอ ผมก็แก้ไขด้วยโหมด Focus ก็ทำให้ได้ภาพที่ชัดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

รูปอาหารเบลอ ก็คมชัดได้

อันที่จริงแล้วแอพนี้ไม่ได้จำกัดแค่การแก้ไขใบหน้าเหมือนพวก remini แต่สามารถแก้ไขได้แทบทุกสิ่ง อย่างเช่นการถ่ายภาพอาหารที่มือหนึ่งต้องคืบ อีกมือก็ถือกล้อง ทำให้ภาพเบลอง่ายมาก

ช่วยให้ภาพที่แคปจากคลิปคมชัดยิ่งขึ้น

ปรกติแล้วการแคปภาพจากคลิปจะให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างเบลอ ซึ่งเราก็สามารถแก้ไขได้ด้วยแอพนี้เช่นกัน

บทสรุปรีวิว Topaz Sharpen AI

แอพตัวนี้มีราคาเต็มอยู่ที่ 79 USD หรือราวๆ 2,390 บาท แต่ถ้าซื้อผ่าน https://topazlabs.com/ref/1512/ ก็ได้ส่วนลดอีก 15% นอกจากนี้ยังมีชุด Bundle ที่มีแอพเจ๋งๆ อย่าง

• Denoise AI ช่วยแก้ไขและลด noise
• Gigapixel AI ให้ขยายภาพแบบคมชัดที่สุด
• JPEGtoRAW AI แปลง JPEG ให้เป็น RAW เพื่อการปรับแต่งที่ดีขึ้น

ด้านประสิทธิภาพแล้วถือว่า Sharpen AI ช่วยแก้ไขภาพส่วนใหญ่ออกมาได้ดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกรูป เพราะบางรูปก็อาการหนักเกินแก้ไข หรือบางรูปก็อาจมีส่วนผิดเพี้ยนบ้าง แต่โดยรวมก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ดีกว่าปล่อยให้ภาพเสียไปเฉยๆ

ข้อดีคือการใช้งานที่ง่ายกว่าการจะไปนั่งปรับเองใน Photoshop ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ลึกซึ้งมากนักก็แก้ไขภาพได้