รีวิว Vivo Y50 แบตเตอรี่มหึมาพร้อม Snapdragon ราคา 7,999 บาท
Vivo Y50 สมาร์ทโฟนราคาเบาๆ ที่มาพร้อมกับ Snapdragon 665 แรม 8GB และหน่วยความจำภายใน 128GB ที่ใช้งานจริงได้ลื่นไหลเกินคาด พร้อมกับแบตเตอรี่ความจุมหาศาล และกล้องที่สวยงาม ซึ่งทั้งหมดนี้มีราคาเปิดตัวแค่ 7,999 บาทเท่านั้น
แรกจับประทับใจ ปลดล็อกไว ดีไซน์สวย
สิ่งแรกที่ทำให้รู้สึกประทับใจเลยก็คือสีสันของฝาหลังที่สวยงาม ซึ่ง Vivo เรียกว่า Dazzling 3D Colors มีการไล่เฉดสีที่ดูโดดเด่นจนไม่อยากใส่เคสให้บดบังความสวย การจัดวางตำแหน่งกล้องและโลโก้เป็นไปตามยุคสมัยนิยม คือมีการจัดวางที่ละม้ายคล้ายกับกล้อง Compact และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝาหลังมาให้ด้วย
ทุกรอบขอบด้านถูกออกแบบด้วย 3D Micro Arc ที่มีความโค้งมนทุกด้าน ไม่มีขอบแหลมคมให้ระคายปลายนิ้ว ทำให้ถือจับกระชัดสบายมือ
หน้าจอขนาด 6.53 นิ้วกับความละเอียด FHD+ แบบ Ultra O Screen ก็ช่วยให้การแสดงผลทำได้อย่างเต็มตามากขึ้น นอกจากนี้ยังเคยมีผลสำรวจออกมาว่าการวางกล้องไว้ที่มุมบนซ้ายจะให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่ามุมบนขวาอีกด้วย นั่นทำให้ Vivo Y50 สามารถวางเครื่องในแนวนอนสำหรับเล่นเกมได้เหมือนหน้าจอเต็มแผ่นไร้การเจาะรูกล้องหน้า เพราะมือเราจะบังตำแหน่งของกล้องหน้าไว้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผลสำรวจออกมาว่าการจัดวางกล้องหน้าในตำแหน่งนี้ดีกว่าไว้มุมบนขวานั่นเอง
ด้านการปลดล็อกทำได้ทั้งการสแกนใบหน้าและสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งต้องบอกว่า Vivo Y50 มีความเร็วในการสแกนที่น่าประทับใจมาก ทำได้รวดเร็วไร้ที่ติ และแม้ว่าการสแกนใบหน้าจะสะดวกกว่าการสแกนลายนิ้วมือ แต่การมาของ Covid-19 ที่ทุกคนต้องใส่หน้ากากก็นับว่าการปลดล็อกด้วยการสแกนลายนิ้วมือก็เป็นสิ่งสำคัญและสะดวกกว่า
Funtouch OS จูนระบบดีใช้งานจริงลื่นไหล
Vivo Y50 มาพร้อมกับแนวคิดแบบ “Ultra Speed เร็วแรงทะลุพิกัด” โดยใช้ห้องเครื่องอย่าง Snapdragon 665 ที่นับว่าทรงประสิทธิภาพมากในช่วงราคานี้ บวกกับแรม 8GB และหน่วยความจำภายใน 128GB และ Funtouch OS ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นรอมที่ลื่นไหลฟีเจอร์เยอะและเสถียรมากๆ ทำให้ Vivo Y50 ไม่ใช่แค่ Hardware ดีแต่มี Software ที่รีดประสิทธิภาพได้ดีอีกด้วย
UI/UX รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ ของ Funtouch OS นับว่าทรงประสิทธิภาพมาก ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าการควบคุม Navigator ที่เลือกได้ทั้งแบบ 3 ปุ่ม Back, Home, Recent Apps ดั้งเดิม หรือแบบ Gesture ที่ปัดนิ้วควบคุมได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงผู้ช่วยส่วนตัวอย่าง Jovi ที่จะทำการรายงานข่าวสารรอบโลก รวมถึงแนะนำแอปมาแรง และ Dark Mode ที่ดำดึ่งไปถึงระดับแอปต่างๆ
ด้านความลื่นไหลก็แรงเร็วด้วยการจูนประสิทธิภาพในหลายส่วน อย่างเช่น Multi-Turbo ที่จะปรับแต่ง Deep Optimize ถึงระดับ CPU, GPU, I/O และ RAM รวมถึงการใช้ AI มาคาดเดาพฤติกรรมการใช้งาน ปรับแต่งระบบการเชื่อมต่อสัญญาณให้นิ่ง จัดการเรื่องความร้อนในตัวเครื่อง และ ART++ Turbo ที่ช่วยให้เปิดแอปได้เร็วยิ่งขึ้น
ด้านการเล่นเกมก็มี Ultra Game Mode ที่จะจัดการปิดการแจ้งเตือนที่กวนใจและทุ่มทรัพยากรมาที่ตัวเกม เพื่อให้เล่นเกมได้ลื่นยิ่งขึ้น ซึ่งจากการทดสอบเล่นเกมจอมเขมือบสเปคอย่าง Servival Heros ก็ทำเฟรมเรทได้อย่างน่าประทับใจ วิ่งวนแถวๆ 60 fps ทั้งเกม โดยตั้งค่าไว้ที่ High Framerate และปรับกราฟิกแบบ Low ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากสำหรับเกมนี้ ส่วนเกมมหาชนอย่าง RoV ก็ทำได้ลื่นไหลเช่นกัน โดยรันอยู่แถว 60 fps แม้กระทั่งตอนนัวกันก็วนๆ อยู่แถวนี้
แบตเตอรี่ความจุมหาศาล 5000mAh
จุดเด่นอีกอย่างของ Vivo Y50 คือการให้แบตเตอรี่มามากถึง 5000mAh ซึ่งถือว่าเยอะมาก เยอะกว่าสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ที่วางขาย นั่นทำให้การชาร์จ 1 ครั้งสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูหนังก็ไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ และยังช่วยให้การพกพาเดินทางทำได้สะดวกยิ่งขึ้น แทบไม่จำเป็นที่จะต้องพกสายชาร์จหรือ Power Bank สำหรับการเดินทางระหว่างวัน การชาร์จเป็นสายแบบ USB-C ที่สอดคล้องกับยุคสมัย แต่น่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่มีระบบชาร์จเร็วมาให้ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเท่าไรเพราะความจุ 5000mAh ก็ใช้งานได้เหลือเฟือแล้ว
รองรับ Wi-Fi 5GHz และ Bluetooth 5.0
สิ่งหนึ่งที่หลายคนซีเรียสก็คือภาครับสัญญาณ Wi-Fi ที่สมาร์ทโฟนราคาประหยัดมักจะลดทอนให้เหลือเพียง 2.4GHz ที่ไกลกว่าแต่ช้ากว่า แต่สำหรับ Vivo Y50 ให้มาทั้ง 2.4GHz ที่สัญญาณครอบคลุมและ 5.0GHz ที่ให้ความเร็วสูงกว่า รวมไปถึงการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 ที่สดใหม่ด้วย
กล้องครบเครื่องทั้งมุมกว้าง ละลายหลัง และมาโคร
Vivo นับเป็นอีกค่ายที่มีชื่อเสียงด้านกล้องมาอย่างยาวนานตั้งแต่ Vivo X Shot อันเลื่องชื่อเมื่อหลายปีก่อน และ Vivo Y50 เองก็ได้ฟีเจอร์กล้องถอดแบบมาจากรุ่นพี่ แทบจะยกเครื่องจาก Vivo V19 มาเลย
สเปคกล้องยอดนิยม
กล้องหลังของ Vivo Y50 มีทั้งหมด 4 ตัว แบ่งออกเป็นกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้อง Super Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เก็บภาพได้กว้างถึง 120 องศา ส่วนกล้อง Macro มีความละเอียด 2 ล้านพิกเซลที่ถ่ายได้ใกล้สุด 4 ซม. และกล้องวัดความลึกความละเอียด 2 ล้านพิกเซลสำหรับทำหน้าชัดหลังเบลอ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล
UI เข้าใจง่าย AI ฉลาด
UI ของกล้องจัดวางเมนูหลักๆ ให้เข้าถึงได้ง่าย สามารถปรับซูม 2 เท่าได้ทันที แต่ถ้าอยากจะปรับไปใช้เลนส์ตัวอื่นก็ต้องทำผ่านเมนู Lens โดยมีให้เลือกทั้งแบบ Super Wide Angle, Bokeh และ Super Macro ที่นับว่าเป็น 3 อย่างที่คนชื่นชอบ ทำให้สามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้ ถ่ายรูปหน้าชัดหลังเบลอได้ และถ่ายมาโครใกล้ๆ ได้ เรียกได้ว่าครอบคลุมครบทุกสิ่งที่ต้องการ
ระบบ AI ของ Vivo Y50 ทำได้น่าประทับใจ มีคำแนะนำที่ดีอยู่เสมอ อย่างเช่นการถ่ายนางแบบก็มี AI แนะนำให้เปิดโหมดเบลอที่ช่วยให้ภาพดูสวยงามยิ่งขึ้น
นอกจากจะมี AI ที่ช่วยปรับแต่งให้ภาพสวยยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีโหมด AI Portrait Framing ที่จะช่วยจัด Compose ให้ถ่ายรูปบุคคลได้ท่าทางที่มืออาชีพยิ่งขึ้นด้วย เพียงแค่เลื่อนกล้องไปยังตำแหน่งลูกศรบนหน้าจอ ก็จะได้มุมสวยๆ ประหนึ่งมืออาชีพมาช่วยจัดมุมให้
การถ่ายรูปย้อนแสงถือว่าทำได้ดีมาก แม้จะถ่ายในโหมดปรกติแต่ AI ก็ฉลาดพอที่จะจัดแจง HDR ให้ใบหน้าดูไม่มืดและยังเก็บรายละเอียดสิ่งก่อสร้างและท้องฟ้าไว้ได้โดยไม่ขาวโพลน
กล้องมุมกว้างคุณภาพดี
กล้องมุมกว้างนอกจากจะช่วยเก็บวิวทิวทัศน์ได้ครบถ้วนแล้ว ยังสามารถนำมาถ่ายบุคคลให้ดูมีมิติภาพที่แปลกตาน่ามองกว่าเดิมได้ด้วย โดยรวมแล้วถือว่าเก็บรายละเอียดและจัดการแสงสีได้ดีเมื่อเทียบกับช่วงราคา
Effect ที่สวยใช้ได้จริงไม่ไร้สาระ
ส่วนของ Effect มีให้ใช้ทั้ง Filter และ Portrait Lighting Effect ซึ่งถ้ามีมุมมองแบบครีเอทีฟก็สามารถเอาไปสร้างสรรค์ผลงานได้ดีมากๆ และ Effect บางตัวดูไปก็ละม้ายคล้ายกล้องฟิล์มที่ให้อารมณ์ไปอีกแบบ
ซูมสูงสุด 4 เท่า
แม้ว่ารุ่นนี้จะไม่ได้เน้นเรื่องการซูมแต่ก็ต้องบอกว่าการซูมสุดที่ 4 เท่าก็ถือว่าทำได้ดีพอตัว ให้ภาพที่ยังดูดีมีรายละเอียด
มาโครประชิดได้ 4 ซม.
กล้อง Super Macro ถ่ายระยะประชิดได้ใกล้สุดที่ 4 ซม. ถูกใจสายมาโครแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายดอกไม้ ถ่ายพระเครื่อง ถ่ายหุ่นยนต์โมเดล ฯลฯ
กล้องหน้าสวยสไตล์ Vivo
กล้องหน้ายังคงรักษามาตรฐานของ Vivo ไว้ได้ดี ด้วยความบิ้วตี้แบบไม่หลอกตา สามารถทำหน้าชัดหลังเบลอได้ ปรับระดับความสวยเนียนได้ตามความต้องการ เอาอยู่แทบทุกสภาพแสง
Night Mode ได้ทั้งกล้องหน้าและหลัง
Super Night Mode นับว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้ เพราะสามารถถ่าย Night Mode ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยจะช่วยจัดการ Noise และแสงสีต่างๆ ให้ภาพดูสวยยิ่งขึ้น ซึ่งต้องบอกว่า Night Mode ของกล้องหน้าทำได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้ว่าในห้องจะมีแสงไฟเพียงเล็กน้อยก็สามารถถ่ายออกมาได้คมชัดโดยไม่ต้องพึ่งพาแฟลชเลย
Ultra Stable Video ถ่ายวีดีโอนิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีระบบ Ultra Stable Video ที่ช่วยทำให้การถ่ายวีดีโอเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยระบบกันสั่นที่ดีกว่าเดิม โดยมีความละเอียดสูงสุดที่ 4K และยังรองรับการเข้ารหัสไฟล์แบบ H.265 ที่ใหม่และดีกว่าด้วย
ตัวอย่างรูปเพิ่มเติม
ตัวแก้ไขภาพที่ไม่ธรรมดา
หลายคนอาจโฟกัสแต่คุณภาพของกล้องจนลืมดูว่าตัวแก้ไขรูปหลังถ่ายมีอะไรบ้าง ซึ่ง Vivo Y50 ก็มีของดีที่น่าสนใจอยู่หลายตัว อย่างเช่น Lighting Effect ที่จะช่วยเพิ่มตำแหน่งแสงให้สวยมีสไตล์ รวมไปถึง Doodle ที่ขีดเขียนลงไปในภาพได้ และ Mosaic ที่สามารถทำเซ็นเซอร์ภาพได้โดยไม่ต้องโหลดแอปเพิ่ม นอกจากนี้ยังมี AI Makeup สำหรับแต่งรูปให้สวยหล่อหน้าเรียวผิวเนียนได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องโหลดแอปมาเพิ่มเติม
ทีเด็ดของการแก้ไขภาพอยู่ที่ Object Eraser ที่สามารถลบวัตถุหรือบุคคลออกจากภาพได้ง่ายๆ รวมถึง Ambiance Enhancing ที่จะช่วยปรับสีสันของภาพให้สวยขึ้นแบบง่ายๆ โดยเฉพาะโหมด Dehaze ที่หลายคนชื่นชอบ
และถ้าใครชอบการรวมรูปแบบง่ายๆ พร้อมการตกแต่งกรอบและข้อความสวยๆ ก็มีให้ใช้ได้ง่ายๆ หลากหลายรูปแบบ
บทสรุป Vivo Y50
นับว่าครบเครื่องคุ้มค่าในราคามาก สามารถใช้งานได้ลื่นไหลจริงไม่ใช่แค่สเปคแรงแต่รีดประสิทธิภาพไม่ได้ และตัวรอม Funtouch OS ก็มีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ทำให้ใช้งานได้ง่าย บวกกับแบตเตอรี่มหึมาและกล้องที่น่าประทับใจ ก็ทำให้ Vivo Y50 เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากในช่วงราคาต่ำกว่าหมื่น