จีนจ้างอดีตบุคลากร TSMC กว่า 100 ตำแหน่ง เร่งสร้างอุตสาหกรรมชิปในประเทศ

แหล่งข้อมูลหลายแหล่งของ Nikkei Asisan Review รายงานว่า 2 โปรเจ็กต์ด้านชิปเซ็ตที่มีรัฐบาลจีนสนับสนุนมีการว่าจ้างอดีตวิศวรและผู้บริหารจาก TSMC กว่า 100 ตำแหน่งเลยทีเดียว โดยหวังจะสามารถผลิตชิปได้เองภายในประเทศ ลดการพึ่งพาชิ้นส่วนจากต่างประเทศ

Quanxin Integrated Circuit Manufacturing (Jinan) หรือ QXIC ก่อตั้งในปี 2019 และ Wuhan Hongxin Semiconductor Manufacturing Co. หรือ HSMC ก่อตั้งในปี 2017 รวมถึงบริษัทลูกอีกจำนวนหนึ่ง ได้จ้างอดีตพนักงานของ TSMC ผู้ผลิตชิปเซ็ตอันดับหนึ่งของโลก และแต่งตั้งให้อดีตผู้บริหารจาก TSMC เข้ามาดูแล เพื่อมุ่งสร้างชื่อเสียงของตนในโลกของผู้ผลิตชิป ทั้งสองบริษัทมีเป้าหมายคือผลิตชิปเซ็ตขนาด 12nm และ 14nm ซึ่งแม้จะล้าหลังเทคโนโลยีของ TSMC อยู่ 2-3 รุ่น แต่ก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในจีน

“Hongxin เสนอผลประโยชน์ที่น่าเหลือเชื่อมากๆ ให้เงินเดือนที่สูงกว่า TSMC 2 – 2.5 เท่า และโบนัสอีกด้วย” แหล่งข่าวกล่าว

ทาง TSMC เองก็มีความกังวลเรื่องสมองไหล แม้ผลกระทบอาจจะยังไม่เห็นชัดเจนในเร็วๆ นี้ แต่ที่ TSMC เป็นกังวลที่สุดคือคือการรั่วไหลของข้อมูลลับทางการค้า จนถึงขนาดให้ผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับผลิตชิปเซ็นสัญญาห้ามขายอุปกรณ์การผลิตที่ปรับแต่งพิเศษสำหรับ TSMC ให้กับบริษัทจากจีนเหล่านั้น

นอกจากนั้น TSMC ยังรู้สึกไม่สบายใจที่ QXIC สร้างสถาบันวิจัยไม่ไกลจากโรงงานผลิตชิปเซ็ต 5 nm ของตนเองที่อยู่บริเวณทางใต้ของไต้หวันด้วย

แม้จีนจะซื้อตัวผู้มีความสามารถมามากมาย แต่ก็ยังมีปัญหาอย่างอื่นรออยู่ การสร้างอุตสาหกรรมชิปจากศูนย์ไม่ใช่เรื่องง่าย จะประสบความสำเร็จได้จำเป็นต้องมีบุคลากรที่มีความสามารถป้อนเข้าอุตสาหกรรมอย่างสม่ำเสมอ ต้องสะสมประสบการณ์ และมีเงินสนับสนุนปริมาณมหาศาล

“ผู้เชี่ยวชาญด้านชิปของจีนอยู่ในภาวะขาดแคลน โดยเฉพาะเมื่อมีการก่อตั้งโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ พร้อมๆ กันหลายโปรเจ็กต์ โปรเจ็กต์เหล่านี้จำเป็นต้องต่อสู้กันเองเพื่อแย่งบุคลากร และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากบุคลากรเหล่านั้น ซึ่งต้องใช้เวลา” Roger Sheng นักวิเคราะห์จาก Gartner กล่าว

Hongxin ซึ่งมีฐานวิจัยอยู่ใน Wuhan เองก็กำลังเจอปัญหา เมื่อนักลงทุนและรัฐบาลท้องถิ่นไม่สามารถให้เงินลงทุนได้ตามกำหนด โดยบริษัทมีแผนการผลิตชิปเซ็ตขนาด 14 nm มูลค่า 128,000 ล้านหยวนในปี 2022 และวางแผนผลิต 7 nm ต่อในอนาคต แต่แผนการเหล่านี้อาจต้องเลื่อนไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า

นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการสื่อสารเนื่องจากผู้ลงทุนหลักคือรัฐบาลท้องถิ่นและบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่มีความรู้ความเข้าใจด้านธุรกิจชิปเซ็ต จนมีข่าวลือ่าผู้บริหารที่เป็นอดีต COO ของ TSMC มีความคิดที่จะลาออกเนื่องจากโปรเจ็กต์มีความท้าทายมากเกินไป อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้

ทาง TSMC ได้ออกมาตอบโต้โดยกล่าวว่าอัตราการเปลี่ยนงานของบริษัทต่ำกว่า 5% และมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน พร้อมตอบโต้อย่างเหมาะสมในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท

ที่มา Asian Nikkei Review