Vivo Y20s เป็นอีกรุ่นที่เหมาะกับงบกลางๆ แบบที่ขยับขึ้นมาจาก Vivo Y12S กับราคาเปิดตัว 6,599 บาทโดยมีจุดเด่นคือแบตเตอรี่ 5000mAh เยอะประหนึ่งพาวเวอร์แบงค์โทรได้ กับชิปเซ็ต Snapdragon 460 ที่เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป และกล้องที่ยังได้ลูกเล่น Portrait light effect เหมือนรุ่นที่ราคาสูงกว่า
หน้าจอ 6.51 นิ้วพร้อมสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
Vivo Y20s มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว อัตราส่วนจอแสดงผล 20:9 ความละเอียด HD+ ด้านสีสันคุณภาพจอก็ถือว่าสมเหตุสมผลกับราคา ด้านข้างมีจุดเด่นตรงปุ่ม Power ที่สามารถใช้สแกนลายนิ้วมือปลดล็อกได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ 0.22 วินาที หรือในกรณีที่อยากสแกนใบหน้าก็ยังคงทำได้ด้วย Face Wake
ด้านล่างเป็นพอร์ตเสียบชาร์จแบบ Micro USB ซึ่งตรงนี้ก็ต้องบอกว่าอยู่ที่ความชอบเลย เพราะแม้ว่า USB-C จะใหม่กว่าแต่หลายคนยังมีสายชาร์จแบบ Micro USB กองอยู่ที่บ้าน ก็อาจจะชอบแบบนี้มากกว่า แต่ที่น่าสนใจจริงๆ ก็คือช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. ช่วยให้เราสามารถเสียบหูฟังได้ง่ายไม่ต้องใช้หัวแปลง นอกจากนี้ลำโพงในตัวเครื่องยังดังมากๆ ถูกใจคนที่ชอบเปิดเสียงลำโพงสุดทางแน่นอน
ประสิทธิภาพใช้งานทั่วไปได้ลื่น เล่นเกมได้ระดับเริ่มต้น
Snapdragon 460 แม้ว่าจะเป็นชิปเซ็ตระดับเริ่มต้น แต่ด้วยชื่อชั้นของ Snapdragon บวกกับ Funtouch OS ของ Vivo ก็ทำให้ชิปตัวนี้สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล รวมถึงยังสามารถเล่นเกมระดับเริ่มต้นได้อีกด้วย
และแน่นอนว่าเกมที่ผมจะเอามาเป็นตัวอ้างอิงก็คงไม่พ้น Survival Heroes ที่ผมเล่นเป็นประจำอยู่เกมเดียวนี่แหละ ผลก็คือสามารถเล่นในระดับกราฟิกต่ำสุด เฟรมเรทสูงสุดที่ 30fps เล่นจริงก็วิ่งขึ้นๆ ลงๆ ต่ำสุดที่ 21fps ก็ถือว่าเล่นเพื่อความบันเทิงได้สบายๆ สาเหตุที่ทำได้แบบนี้ก็เพราะมี Ultra game mode 8.0 & Multi-Turbo 3.0 ที่ช่วยรีดประสิทธิภาพตัวเครื่องให้ออกมาดีที่สุดเมื่อเข้าสู่การเล่นเกม โดยจะปิดสิ่งที่ไม่จำเป็นเพื่อลดภาระการทำงาน และยังมีฟีเจอร์ที่เอื้ออำนวยความสะดวกอย่างเช่น การเปิดบอทที่สามารถปิดหน้าจอได้ การแชทผ่านแอพระหว่างเล่นเกมได้โดยจะเป็นหน้าต่างลอยซ้อนตัวเกม การล็อกความสว่างหน้าจอไม่ให้โดดไปมา การบันทึกหน้าจอ รวมถึงการปิดการแจ้งเตือนที่เกะกะสายตาระหว่างเล่นเกม
และในกรณีที่อยากจะเก็บข้อมูลเพิ่มแล้วคิดว่าหน่วยความจำภายใน 128 GB มันไม่พอจริงๆ เราก็สามารถใส่ microSD เพิ่มได้สูงสุด 256GB พร้อมกับใส่ซิมได้อีก 2 ใบ
แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 18W
จุดเด่นสำคัญอีกอย่างของรุ่นนี้ก็คือแบตเตอรี่ขนาดมหึมาพร้อมกับระบบชาร์จเร็ว 18W แม้อาจจะไม่ใช่เทคโนโลยีที่เร็วที่สุดแต่ก็ช่วยให้การชาร์จทำได้รวดเร็วกว่าการชาร์จแบบดั้งเดิม โดยระบบ FlashCharge 18W สามารถชาร์จ 70% ได้ด้วยเวลา 69 นาที ก็ถือว่าทำได้ดีสำหรับแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh นอกจากนี้ยังรองรับโหมด Reverse Charging สำหรับทำตัวเองให้เปรียบเสมือนพาวเวอร์แบงค์ เพื่อชาร์จพลังงานให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้
18W FlashCharge | 5000mAh
Vivo Y20s
กล้องสมเหตุสมผลตามราคา
เรื่องของกล้องยังคงได้อานิสงส์จากรุ่นพี่ในแง่ Software ยังคงมี AI Makeup, Night mode และ Portrait light effect แต่ถ้ามองในแง่ของคุณภาพก็ถือว่าทำได้ดีในราคา ตัวกล้องไม่มีมุมกว้าง จะมีเพียงระยะปรกติกับการซูม 2 เท่า และมีมาโครระยะใกล้สุด 4 ซม. กับโบเก้ให้เลือกใช้งาน
สิ่งที่ผมชอบที่สุดก็ยังคงเป็น Portrait Framing ที่ช่วยจัดมุมกล้องให้ เหมาะสำหรับตากล้องที่เลือกมุมไม่เก่ง แค่เปิดโหมดนี้ไว้แล้ว Software ก็จะทำการแนะนำว่าเราควรขยับองศากล้องไปที่ตำแหน่งไหน เพื่อให้ภาพถ่ายบุคคลออกมาดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ส่วนการเซลฟี่นอกจากจะมีบิ้วตี้โหมดสวยๆ แล้ว ยังมีฟีเจอร์ Posture ที่ช่วยแนะนำท่าทางการโพสต์ให้ดูมีสไตล์มากขึ้น ส่วนของวีดีโอไม่มีโหมด Ultra Stable แต่ด้วยราคาก็เข้าใจได้
ในภาพรวมแล้วการตัดขอบทำหน้าชัดหลังเบลอมีความแม่นยำแบบไม่ขัดใจอะไร คุณภาพไฟล์ในที่แสงเพียงพอถือว่าทำได้ดี การเก็บ Dynamic Range อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ส่วนกล้องมาโครถ่ายระยะประชิดอาจจะไม่คมชัดแบบเนียนกริบเหมือนกล้องหลัก แต่ก็ดีตรงที่ทำให้เราเก็บภาพระยะประชิดได้
สรุป Vivo Y20s ดีไหม?
ผมมองว่ามันดีในราคานะ จุดเด่นหลักเลยคือแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ซึ่งเยอะมากในระดับทดแทนพาวเวอร์แบงค์ได้เลย ถ้าเป็นที่คนต้องทำงานนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นการออกไซต์งาน หรืออยู่ห่างไกลปลั๊ก ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมาก หรือในกรณีที่พกเป็นเครื่องสำรองก็สามารถใช้ชาร์จเครื่องหลักได้เหมือนกัน เรื่องของกล้องที่เป็นจุดเด่นมากๆ ของ Vivo ในปีนี้ ก็ทำได้ไม่หวือหวามากนัก แต่ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นที่ใกล้เคียงกันก็นับว่าทำได้ดี เพียงแต่ปีนี้ Vivo ทำเรื่องกล้องไว้ดีมากผมเลยคาดหวังไว้เยอะ
ด้านฟีเจอร์อื่นๆ ก็ต้องยกความดีความชอบให้ Funtouch OS ที่ให้ฟีเจอร์มาเยอะมาก ตั้งแต่ Dark mode ที่น่าประทับใจ มืดไปแทบทุกส่วนบนหน้าจอ ดำมืดทะลุไปถึงระดับเว็บและแอพได้เลย การปล่อย Hotshot ก็สามารถเลือกได้ว่าจะปล่อยสัญญาณ 2.4Ghz หรือ 5GHz ซึ่งถือเป็นเรื่องดีมากๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางหรือพักโรงแรม และเค้ามี WiFi ให้แค่ 1 ID เราก็สามารถเอา Vivo Y20s มากระจายให้เครื่องอื่นที่สัญญาณ 5GHz ต่อได้
และที่ผมชอบมากๆ ก็คือ Vivo Easy Share ที่ทำให้ส่งไฟล์ไปยังเครื่องอื่นได้สะดวก หรือแม้แต่ส่งไฟล์ไปยัง Windows หรือ macOS ก็ง่ายเช่นกัน แค่หยิบเครื่องมาสแกน QR ก็สามารถถ่ายโอนไฟล์ได้ทันที นี่เป็นอีกสิ่งที่ทำให้ผมยังติด Vivo อยู่ รวมถึง Ultra Game Mode ที่ผมย้ำอยู่บ่อยๆ ว่าค่ายนี้มีทีเด็ดที่ 4D Game Vibration ที่ช่วยสั่นตอบสนองตามเหตุการณ์ในเกม รวมไปถึงการโคลนแอพที่งอกแอพแชทต่างๆ ให้มี 2 ตัว เหมาะสำหรับคนที่มีหลายไอดีหรือแยกไอดีสำหรับงานและเรื่องส่วนตัว …รวมๆ แล้วจัดว่าดีครับ
