พรีวิว Samsung Galaxy S21 series นี่คือเรือธงที่ควรจะเป็น

เรียกได้ว่าถูกที่ถูกเวลามากสำหรับ Samsung Galaxy S21 series ที่กลับมาได้อย่างสวยงาม ในช่วงเวลาที่คู่แข่งสะดุดกันหมด การได้ลองเล่นเครื่องจริงทำให้รู้สึกว่าซัมซุงเริ่มเข้าที่เข้าทางและน่าจับตามองอย่างมาก

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแม้ว่าซัมซุงจะครองยอดขายอันดับหนึ่งของโลก แต่ถ้าแตกแยกย่อยออกมาจะพบว่าเป็นผลพวงจากการตลาดที่เน้นเจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ นั่นทำให้ภาพลักษณ์ในแง่ผู้นำนวัตกรรมถดถอยลงเรื่อยๆ ประกอบกับการมาของคู่แข่งและสงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ และจีน ทำให้ซัมซุงก็ต้องปรับตัวเข้าหา Google มากขึ้น ผลดีจึงตกอยู่ที่ลูกค้าอย่างเราๆ

ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ หน้าจอโค้งกำลังดี

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ แม้ดีไซน์บางอย่างอาจดูขัดใจบางคน แต่ถ้ามันโดดเด่นแบบมองแล้วรู้เลยว่ารุ่นอะไร มันก็จะเป็นที่ต้องการ …ซึ่ง Galaxy S21 series ก็เป็นเช่นนั้น ในส่วนของฝาหลังและการจัดเรียงกล้องมีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นมาก โดยส่วนตัวแล้วผมชอบ ไม่มีปัญหาอะไรกับจุดนี้

พรีวิว Samsung Galaxy S21 series นี่คือเรือธงที่ควรจะเป็น 3

หน้าจอในรุ่น Galaxy S21 5G และ Galaxy S21+ 5G เป็นแบบเรียบ แต่ที่น่าสนใจคือขอบทั้ง 4 ด้านบางเท่ากันแล้ว ต่างจาก Android ส่วนใหญ่ที่จะมีคางหนา เพราะต้นทุนการผลิตขอบบางมันแพงกว่า นั่นทำให้การมองมีความสมดุลมากขึ้น

พรีวิว Samsung Galaxy S21 series นี่คือเรือธงที่ควรจะเป็น 5

ส่วน Galaxy S21 Ultra 5G แม้จะเป็นจอโค้งแต่มันโค้งน้อยมาก เป็นความโค้งที่ช่วยให้การปัดนิ้วจากขอบจอเป็นไปอย่างราบรื่นไม่บาดนิ้ว แต่ก็ไม่มากจนทำให้การพิมพ์ที่มุมโค้งทำได้ยาก เรียกว่ากำลังดีครับ

เครื่องร้อนน้อยกว่าเดิม อยู่ในระดับปรกติ

ตอนมีข่าวเปิดตัว Exynos 2100 ว่าประสิทธิภาพดีไม่แพ้คู่แข่งแล้ว แต่ที่คนยังกังขาคือเรื่องของความร้อน เพราะถ้าเครื่องร้อนก็จะทำให้ประสิทธิภาพหล่น ซึ่งเท่าที่ได้ลองใช้งานประมาณ 1 ชั่วโมงด้วยการเปิดกล้องแทบตลอดเวลา พบว่ามันไม่ร้อนแล้ว

ความร้อนอยู่ในระดับอุ่นๆ พอๆ กับเรือธงค่ายอื่นๆ แต่จะร้อนแบบรู้สึกได้ชัดเมื่อเข้าโหมด Director ที่เปิดทุกกล้องพร้อมกัน ซึ่งมันร้อนขึ้นจริงแต่ก็เข้าใจได้ เพราะมันต้องประมวลผลเยอะมาก

ประสิทธิภาพเค้าว่าดี และมันน่าจะดี

ในเมื่อ Exynos 2100 มันมีสเปคภายในที่ดีมาก และจากการลองใช้เบื้องต้นก็พบว่ามันร้อนน้อยกว่า Galaxy S20 และ Note 20 แล้ว ก็น่าจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอดูการใช้งานจริงอีกที เพราะที่ผมได้ลองเป็นเพียงการทดสอบในระยะเวลาจำกัด ไม่สามารถติดตั้งเกมได้ แต่จากที่ Papayatop ได้ทดสอบ Benchmark ก็พบว่าคะแนน GPU ทำได้น่าสนใจกว่าแต่ก่อน

กล้องที่สร้างมาเพื่อ Content Creator

การออกแบบกล้องทั้ง Software และ Hardware ของ Galaxy S21 series ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับความเป็น Content Creator แบบพร้อมใช้พร้อมอัพทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ

ในแง่คุณภาพเนื้อไฟล์ก็ถือว่าทำได้ดีเช่นกัน โดยโหมด Portrait ทำออกมาดีทั้งสีสันและการตัดขอบ แม้จะมีตัดพลาดอยู่บ้างแต่โดยรวมถือว่าแม่นยำ รวมถึงการถ่ายรูปอาหารที่สีสันออกมาน่ากิน การจัดการที่แสงน้อยก็ทำได้ดีในระดับที่เอามาทำ Content หรือ Vlog ได้

คุณภาพจากการซูมของเลนส์แต่ละตัวก็ไม่โดดจากกันมากนัก ทำให้ภาพออกมาไม่โดดเดินไป และยัง Snap ภาพได้เร็วมาก ช่วยให้เก็บช็อตสำคัญได้ไม่พลาด

ไมค์ดีมาก และรองรับ 2 input

อันที่จริงแล้วเรื่องเสียงมีความสำคัญกว่าตัวเนื้อคลิปซะอีก นั่นทำให้สมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาสำหรับ Content Creator เลยใส่โหมดจัดการทิศทางการรับเสียงไมค์ รวมถึงการให้โหมด Bluetooth Mix ในการรับ 2 input ด้วย

พรีวิว Samsung Galaxy S21 series นี่คือเรือธงที่ควรจะเป็น 29

รองรับ S-Pen ถูกใจสายขีดเขียน

พรีวิว Samsung Galaxy S21 series นี่คือเรือธงที่ควรจะเป็น 31

สืบเนื่องจากผลตอบรับทางการตลาดและกลยุทธ์ ทำให้ S-Pen กลายเป็นอุปกรณ์เสริมที่ซัมซุงวางแผนจะให้รองรับรุ่นอื่นๆ นอกจาก Galaxy S series ด้วย ส่วน Galaxy Note series ก็อาจจะถูกแทนที่ด้วย Fold series ที่เป็นจอพับและเหมาะกับการขีดเขียนมากกว่า

พรีวิว Samsung Galaxy S21 series นี่คือเรือธงที่ควรจะเป็น 33

โดย Galaxy S21 Ultra รองรับปากกา S-Pen แบบเป็น Option เสริมให้คนเลือกซื้อเพิ่มได้ และมีเคสสำหรับเก็บปากกาติดตัวเครื่องด้วย

สรุป Galaxy S21 series ดีไหม?

ในภาพรวมจากที่ได้ลองเล่นมา ผมรู้สึกว่านี่แหละคือเรือธงอย่างที่ควรจะเป็นสักที ดีครบทุกด้านและสามารถใช้งานได้จริง ไม่ใช่เป็นฟีเจอร์ที่เอาไว้โม้และใช้จริงไม่สะดวก เหลือแค่อย่างเดียวที่ต้องพิสูจน์คือประสิทธิภาพในการเล่นเกม ถ้าสอบผ่านล่ะก็อนาคตสดใสแน่นอน

พรีวิว Samsung Galaxy S21 series นี่คือเรือธงที่ควรจะเป็น 35