รีวิว POCO F3 ถูก แรง รองรับ 5G จอสวยจัด กล้องดี ลำโพงดีมาก

หากคิดว่า POCO X3 Pro ที่ว่าสเปคแรงจัดแต่ยังไม่หนำใจ ผมขอแนะนำ POCO F3 กับราคาเริ่มต้น 9,999 บาท ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 870 รองรับ 5G หน้าจอ AMOLED E4 ที่สวยสุดๆ พร้อมกับลำโพงคู่ ที่เรียกได้ว่าจัดหนักคุ้มเกินคุ้ม

เช็คราคาล่าสุด POCO F3

หน้าจอ 6.67 นิ้ว Snapdragon 870 รองรับ 5G กล้องหลัง 3 ตัว 48MP ประกันศูนย์ 15 เดือน

หน้าจอ AMOLED E4 สวยจับจิตสะกดสายตา

เอาล่ะ… ผมขอเริ่มต้นด้วยเรื่องของหน้าจอก่อน ผมเชื่อว่าทุกคนที่ได้ลองหยิบ POCO F3 แล้วกดเปิดหน้าจอขึ้นมาก จะต้องร้องว๊าวเบาๆ ในใจ เพราะ AMOLED E4 มันสวยมากจริงๆ และกล้องหน้าแบบ Dot Display ก็มีขนาดเล็กกว่าคู่แข่ง ทำให้หน้าจอแสดงผลได้เต็มพื้นที่มากกว่า

เมื่อพาแนล AMOLED E4 ผสมผสานกับหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ กับ Refresh Rate 120Hz ที่รองรับการแสดงผล HDR10+ พร้อมกับระบบ True Color ที่ปรับโทนสีให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม ก็ทำให้หน้าจอของ POCO F3 สีสันสวยบาดตา แถมยังแสดงผลได้นุ่มนวล พร้อมกับขอบเขตสีที่กว้างแสดงสีสันได้แม่นยำ และสู้แสงกลางแจ้งได้ดีมากด้วย

นอกจากนี้ยังมี AI HDR Enhancement และ MEMC (Motion Estimation and Motion Compensation) ที่ปรับเสริมเติมแต่งให้ภาพนิ่งและวีดีโอมีความสวยงามและเฟรมเรทที่นุ่มนวลกว่าเดิม …ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะยังมีสิ่งสำคัญอย่าง 360° Ambient Light Sensor ที่จะแก้ Pain Point ของทุกคน

โดยปรกติแล้วสมาร์ทโฟนส่วนมากมักจะมีเซ็นเซอร์วัดแสงอยู่ด้านหน้าหรือเยื้องไปด้านบน ซึ่งมันเพียงพอกับการใช้งานทั่วไป แต่ในกรณีที่เราอยู่ในจุดที่มีความสว่างต่างกันก็จะให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่พอ เช่น การปิดไฟดูทีวีซึ่งแสงหน้าจอจะสว่างกว่าส่วนอื่นของห้อง ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนทั่วไปก็จะวัดแสงหน้าจอมืดกว่าที่ควร แต่สำหรับ 360° Ambient Light Sensor ที่สามารถวัดความสว่างได้ 360 องศา ก็จะทำให้ได้ค่าเฉลี่ยแสงที่ดีกว่า ผลคือหน้าจอจะสว่างในระดับที่ดูได้สบายตายิ่งขึ้น

เต็มหูเต็มตากับสุดยอดประสบการณ์ด้านความบันเทิง

การมีหน้าจอที่สุดจัดขนาดนี้ทำให้การดูรูปหรือเปิดคลิปต่างๆ มันทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมเข้าไปถึงจิตใจจริงๆ ส่วนระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมกับลำโพงคู่ที่ดังและน้ำเสียงดี เรียกได้ว่าการดูหนังฟังเพลงต่างๆ ให้คุณภาพแบบไร้ที่ติ แต่ก็ต้องบอกว่ารุ่นนี้ไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. ซึ่งอาจไม่สะดวกนักสำหรับบางคน

ระบบ Hi-Res Audio ที่ให้มา เรียกได้ว่าครอบคลุมทั้งตัวลำโพง ไปจนถึงการใช้หูฟังแบบบลูทูธด้วย และการมี IR Blaster ก็สามารถใช้ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าแทนรีโมทดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็น แอร์, พัดลม, ทีวี หรือแม้แต่กล่อง set top box บางรุ่น

ขึ้นชื่อว่า POCO ไม่ต้องห่วงเรื่องสเปค

ซีรีส์เรือธงของค่ายอย่าง POCO F3 ก็ต้องเลือกใช้สเปคที่จัดเต็มสุดทาง เริ่มด้วย Snapdragon 870 ที่รองรับ LPDDR5 และสัญญาณ 5G และรองรับ WiFi 6 พร้อมกับใช้หน่วยความจำแบบ UFS 3.1 ที่ถือว่าเร็วที่สุดในตอนนี้ ซึ่ง 3 ปัจจัยนี้คือส่วนสำคัญที่ทำให้การโหลดไฟล์ต่างๆ รวมถึงโหลด Data ในตัวเกมทำได้รวดเร็วกว่าเดิม

ด้านการเล่นเกมที่ต้องรีดประสิทธิภาพเต็มหลอด นอกจากจะมี Game Turbo ที่ช่วยปรุงแต่งให้สิ่งแวดล้อมเหมาะสมกับการเล่นเกม ก็ยังมี LiquidCool Technology 1.0 Plus ที่ช่วยระบายความร้อนออกจากตัวเครื่อง ทำให้สปีดไม่ตก ส่งผลให้การเล่นเกมต่อเนื่องทำได้นานยิ่งขึ้นนั่นเอง

จากการทดสอบเล่นเกมต่างๆ ก็ทำได้ดีอย่างที่คาดหวังไว้ โดยเฉพาะ Genshin Impact ที่ตั้งค่ากราฟิกระดับกลาง ซึ่งเหมาะกับการเล่นจริงที่สุด ก็ให้เฟรมเรทที่อยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนี้การมีหน้าจอ Touch Sampling Rate 320Hz ที่ถือว่าสูงมากในช่วงราคานี้ ก็ทำให้การควบคุมสั่งการเกมติดนิ้วยิ่งขึ้น และถ้าหากเล่นต่อเนื่องนานๆ จะพบว่าหน้าจอของรุ่นนี้ทำให้เราเมื่อยนิ้วน้อยกว่า เพราะความไวในการรับคำสั่งที่สูงมากทำให้เราออกแรงน้อยลงนั่นเอง

แบตเตอรี่ 4520mAh กับระบบชาร์จเร็ว 33W ก็เป็นไปตามมาตรฐานของรุ่นที่เน้นสเปคแรง ใช้เวลาชาร์จประมาณ 50 นาทีสำหรับการเริ่มต้นจาก 0 จนถึง 100%

ดีไซน์น่าสนใจตรงปุ่ม Power

หากมองผิวเผินผ่านสเปคหน้ากระดาษอาจคิดว่าระบบสแกนลายนิ้วมือบนปุ่ม Power ของรุ่นนี้ก็คงไม่ต่างจากทั่วไป แต่ถ้าหากลองสัมผัสจะพบว่าปุ่มของรุ่นนี้ดีกว่าหลายรุ่นที่ผ่านมา เพราะดีไซน์ที่โค้งมนสวยงามยิ่งขึ้น ต่างจากเซ็นเซอร์สมัยก่อนที่ทำให้ปุ่ม Power แบนราบขัดแย้งกับดีไซน์ส่วนอื่นของเครื่อง แม้จะเป็นรายละเอียดเล็กน้อยแต่ทำให้ POCO F3 โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นไม่ว่าจะเป็นการมองหรือการสัมผัส

ดีไซน์อีกส่วนที่สร้างความต่างแต่มองไม่เห็นด้วยตา ก็คือระบบ X-axis motor ที่ช่วยให้การสั่นมีความผู้ดีนุ่มนวลยิ่งกว่าเดิม ไม่ใช่การสั่งแบบกระโชกโฮกฮากสร้างความตกใจให้เรา แต่เป็นการสั่นเพื่อให้เรารับรู้ถึงการแจ้งเตือนอย่างสุภาพ

กล้องทำได้ดีมากเมื่อเทียบกับราคา

หลายคนอาจติดภาพว่า POCO เด่นเรื่องความแรงแต่ไม่ใช่แบรนด์ที่เด่นเรื่องกล้อง แต่ก็ต้องบอกว่ารุ่นที่วางขายในปี 2021 ก็ได้มีการปรับปรุงด้านกล้องดีขึ้นมาก โดยเฉพาะ POCO F3 ที่ทำได้ดีมากเมื่อเทียบกับราคาและสเปคโดยรวม

กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลังประกอบด้วย

• กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/2 นิ้ว รูรับแสง f/1.79 ขนาดพิกเซล 1.6μm แบบ 4-in-1
• กล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
• กล้องเทเลมาโคร 5 ล้านพิกเซล f/2.4

จะเห็นว่าจุดที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือการใส่กล้อง Telemacro มาให้ ซึ่งมีความซูมขยายของชิ้นเล็กๆ ได้มากกว่าการถ่าย Macro แบบเดิม และที่น่าสนใจยิ่งขึ้นคือระบบโฟกัสเป็นแบบ Auto Focus ระยะ 3-7 ซม. ต่างจากหลายๆ รุ่นที่มักจะให้เป็น Fixed Focus

ด้านการถ่ายวีดีโอมีจุดที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือไมค์ที่อยู่ตรงกล้องหลัง ทำให้รับเสียงได้ดียิ่งขึ้นและยังรองรับการทำ Audio Zoom ด้วย หมายความว่าถ้าเราถ่ายวีดีโอแล้วกดซูมเข้าไปก็จะยิ่งได้ยินเสียงชัดขึ้นตามการซูม ซึ่งหาได้ยากมากกับสมาร์ทโฟนราคานี้

ภาพถ่ายในที่แสงน้อยถือว่าทำได้ดีมากเมื่อเทียบกับราคา ส่วนการใช้งาน Nightmode ก็ให้แสงสว่างและรายละเอียดที่ดีกว่า ถ้าดูในหน้าจอเล็กๆ อาจจะไม่ต่าง แต่ถ้ามองในหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็จะเห็นความต่างครับ

กล้องมุมกว้างให้คุณภาพไฟล์ไม่หนีจากกล้องหลักมากนัก ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำได้น่าประทับใจ เพราะกล้องมุมกว้างของหลายๆ รุ่นจะมีคุณภาพที่ดรอปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ส่วนการซูมถ้าเอาระยะหวังผล ผมมองว่าไม่เกิน 5x ยังให้ผลลัพธ์ที่โอเคครับ ถ้ากดไป 10x เลยก็อยู่ในระดับมองเห็นแต่ไม่สวยงาม

กล้องหน้าให้ผลลัพธ์ที่ดีมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นในที่แสงเยอะ ที่แสงน้อย ถ่ายย้อนแสง โดยรวมก็ถือว่าทำได้ดี และกล้องหน้ายังรองรับ Nightmode เหมือนกล้องหลังด้วย

อีกฟีเจอร์ที่หลายคนชื่นชอบก็คือ Sky Replacement หรือการเปลี่ยนท้องฟ้าให้สวยงามได้แม้วันที่ฝนฟ้าไม่เป็นใจ รวมถึงการลบลายน้ำออกจากรูปได้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เพราะบางครั้งเราก็ลืมปิดลายน้ำทำให้ไม่สามารถเอารูปนั้นไปใช้งานต่อไป การมีฟีเจอร์นี้ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ดีมากๆ

ด้านคุณภาพเนื้อไฟล์จัดว่าทำได้ดี แต่ส่วนนี้เราคงยังทดสอบแบบฟันธงไม่ได้ เพราะ Software ยังเป็นตัวทดสอบไม่ใช่เวอร์ชั่นวางขายจริง

บทสรุปรีวิว POCO F3

ต้องบอกว่านี่เป็นรุ่นที่ยกระดับประสบการณ์ของแฟนๆ POCO จากเดิมที่เด่นเรื่องสเปค ก็มีเรื่องของดีไซน์และกล้องที่ดีแบบไม่น้อยหน้าเพื่อนแล้ว และการใช้ MIUI ก็ทำให้มีลูกเล่นสารพัดโดยเฉพาะการโคลนแอพที่ทำได้ครอบคลุมกว่าค่ายอื่นๆ

สิ่งที่ผมประทับใจเป็นพิเศษก็คือเรื่องของหน้าจอที่สวยมากๆ และลำโพงที่ดีมากๆ รวมไปถึงกล้องที่เกิดคาดมากๆ ถ้าบอกว่า POCO X3 Pro ทำได้ดีแล้ว ก็ต้องบอกว่ารุ่นนี้ดีขึ้นไปอีกขั้น เรียกได้ว่าดีงามแบบ Overall กันเลยทีเดียว