HUAWEI Band 6 จัดอยู่ในกลุ่มของ Wearable จำพวก Smartband ที่ทำหน้าที่ในการตรวจจับนับเตือน โดยรุ่นนี้ชูจุดเด่นเรื่อง All-day SpO2 Monitoring พร้อมกับหน้าจอแบบ FullView Display ที่แสดงผลได้เต็มตา รวมถึง Long Battery Life ใช้ต่อเนื่องได้อย่างยาวนาน
ฟีเจอร์เด่นของ HUAWEI Band 6
สิ่งแรกที่หลายคนอยากรู้ก็คงเป็นเรื่องของแบตเตอรี่ ซึ่ง HUAWEI Band 6 ใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 14 วัน และเท่าที่ได้ลองทดสอบใช้งานจริงมาประมาณสัปดาห์ พบว่าแบตเตอรี่จะลดโดยเฉลี่ยวันละประมาณ 10% ขึ้นอยู่กับปริมาณการแจ้งเตือน รวมถึงการเปิดใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ด้วยครับ
และยังมาพร้อมกับระบบชาร์จเร็วที่ใช้เวลาในการชาร์จเพียง 5 นาทีก็ใช้งานได้ 2 วัน และชาร์จ 65 นาทีในกรณีที่ต้องการให้เต็ม 100%
หน้าจอ AMOLED FullView display ขนาด 1.47 นิ้ว ความละเอียด 282 PPI ก็จัดว่าให้ความคมชัดและสู้แสงได้ดี โดยมีความสว่างให้ปรับ 5 ระดับ และมีระบบ Motion Sensor แค่พลิกข้อมือหน้าจอก็แสดงผล และจะหน้าจอจะดับเมื่อไม่ได้ใช้งาน ช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่และไม่รบกวนสายตา
ด้านการ Monitor หรือตรวจวัดค่าต่างๆ มีจุดที่น่าสนใจคือ All-day SpO2 ที่ช่วยวัดค่าอ๊อกซิเจนในเลือดได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของ HUAWEI TruSeen 4.0 และ Algorithm ที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานแม้จะมีการตรวจวัดค่าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโหมดออกกำลังกาย 96 แบบ รวมถึงฟีเจอร์วัดรอบประจำเดือนสำหรับผู้หญิงด้วย
และแน่นอนว่าถ้ามาพร้อมโหมดออกกำลังกายก็ต้องกันน้ำได้ ซึ่ง HUAWEI Band 6 กันน้ำได้ลึก 5ATM ส่วนการควบคุมใช้วิธีสัมผัสและปัดหน้าจอที่เข้าใจได้ไม่ยาก มีปุ่มกดด้านข้างเพียง 1 ปุ่มเท่านั้น ส่วนการเชื่อมต่อเป็น Bluetooth 5.0 ซึ่งเป็นแบบ BLE ที่ประหยัดพลังงานด้วย
ประสบการณ์ใช้งานจริง
ในช่วงสถานการณ์ Covid-19 และไม่ค่อยได้ออกไปไหน ทำให้ผมไม่ค่อยได้หยิบ Android มาใช้ เลยลองเอา HUAWEI Band 6 มาใช้คู่กับ iPhone และพบว่ามันทำงานได้อย่างครบถ้วน ไม่เหมือน Wearable บางชิ้นที่ทำงานได้ไม่เต็มที่เมื่อจับคู่กับฝั่ง iOS
การแพร์เชื่อมต่อไม่มีอาการหลุดระหว่างใช้งาน การควบคุมสั่งการทำได้เข้าใจง่าย เมนูต่างๆ อยู่ไม่ลึกจนเกินไป สิ่งที่ผมชอบเป็นพิเศษคือเรื่องของหน้าจอที่สวยงามและสู้แสงได้ดีมาก แต่ก็ต้องบอกว่ามันไม่มีระบบปรับแสงอัตโนมัตินะครับ ต้องเลือกความสว่างเองจาก 5 ระดับที่มี ส่วนตัวผมตั้งไว้ที่ 2 ก็เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว
ส่วนตอนนอนก็เปิดโหมด DnD ก็จะปิดการแจ้งเตือนทั้งหมดรวมถึงปิด Motion Sensor ไม่ให้หน้าจอสว่างรบกวนเวลานอน ซึ่งการแจ้งเตือนต่างๆ ก็สามารถแสดงผลภาษาไทยได้ถูกต้อง และยังสามารถเลือกเปิดการแจ้งเตือนเฉพาะบางแอพได้
อีกส่วนที่ผมประทับใจก็คือการดีไซน์ให้เบาและไม่เหนอะหนะ ด้วยตัวเรือนที่หนัก 18 กรัมและสายที่ค่อนข้างแคบ ทำให้เวลาล้างมือหรือเหงื่อออกก็แห้งได้เร็วขึ้น
ด้านการ Tracking หรือ Monitor วัดค่าต่างๆ ก็ค่อนข้างสอดคล้องกับความเป็นจริง เช่น ช่วงที่ผมกำลังจริงจังกับงาน กราฟความเครียดก็พุ่งสูงขึ้น และผมเป็นคนที่มีปัญหาในการนอนและการเต้นของหัวใจที่ผิดปรกติระดับที่เคยต้องเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว ฉะนั้นการมีตัววัดการนอนแบบนี้ก็ช่วยให้ผมได้เข้าใจร่างกายมากขึ้น ซึ่งการวัดค่าต่างๆ จะทำงานได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นถ้าใช้ร่วมกับเครื่องชั่งน้ำหนัก HUAWEI Scale
หน้าปัดมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ แต่อันที่ติดมาให้จากโรงงานก็สวยพอตัวแล้วครับ และยังรองรับ GPS Tracking เมื่อใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟน เพื่อดูเส้นทางการวิ่งการเดินหรือปั่นจักรยานก็ได้
ส่วนเรื่องที่หลายคนสนใจอย่าง SpO2 ก็มีการตรวจวัดให้ตลอดทั้งวัน แต่ก็ไม่ถึงกับ realtime นะครับ และถ้าเราอยากวัดค่าเมื่อไรก็สามารถกด Manual วัดค่าเองได้ตลอดเวลาด้วย
โดยรวมถือว่าครบถ้วนสำหรับการเป็น Life Tracking ที่ตรวจจับการนอน การออกกำลังกาย กันน้ำได้ ใช้สามารถใช้เป็นตัวแจ้งเตือนได้ตามที่ควรจะเป็นครับ
