รีวิว Sudio T2 หูฟัง TWS เสียงบึ๊บบั๊บ กับสีสันอันเป็นเอกลักษณ์
ถ้าคุณเป็นคนชอบเสียงเบสหรือย่านต่ำเยอะๆ ก็ต้องลองฟัง Sudio T2 ครับ เพราะค่ายนี้เค้ามีช่วงเสียงย่านต่ำที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มาก โดยเป็นเสียงสไตล์ workout ที่ไม่ได้หวานนุ่มแต่เร้าใจ และด้วยเสียงแบบนี้เองเลยทำให้ฟังได้ทั้งแนว Rock, K-Pop, EDM หรือแม้แต่แนวรถแห่ที่เบสตู้มต้าม
ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 4,190 บาท แต่ถ้าซื้อผ่านหน้าเว็บ Sudio และกรอกโค้ด BACIDEAT2 รับส่วนลดเลย 15%
Sudio T2 กับสีสันที่โดดเด่นมองเห็นแต่ไกล
Sudio T2 มาพร้อมกับสีสันทั้งหมด 4 แบบ ทั้งสีขาวและดำแบบเรียบง่าย รวมถึงสี Jade และ Sand ที่ดูโดดเด่นสะกดสายตา โดยสีสันนี้จะแทรกซึมอยู่ในทุกส่วน ตั้งแต่สายคล้อง, ตัวเคส ไปจนถึงตัวหูฟัง ทำให้เกิดความกลมกลืนอย่างลงตัว
การออกแบบเคสใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อการสัมผัส โดยไม่มีรอยนิ้วมือและมีความนุ่มละมุนในการสัมผัส นอกจากนี้ยังออกแบบให้ด้านหลังมีการตัดเรียบเพื่อให้วางกับโต๊ะโดยไม่กระดกเด้งไปมา โดย Sudio T2 สามารถกันน้ำได้ในระดับทั่วไประหว่างวัน เช่นเหงื่อและน้ำกระเซ็น
เสียงแน่นสไตล์ Sudio พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนและไมค์แบบ Beamforming
หากใครเคยฟัง Sudio มาก่อน น่าจะพอนึกคาแรกเตอร์ของหูฟังรุ่นนี้ได้ โดยเสียงพระเอกจะเป็นย่านเสียงต่ำที่ให้มาเยอะเป็นพิเศษ เหมาะกับเพลงแนวเร้าอารมณ์ทั้งหลายที่ใช้เสียงต่ำในการกระแทกกระทั้นความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นเพลงเศร้าหรือเพลงมันส์ก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ใช้เบสและเสียงต่ำเป็นผู้นำทาง
ด้วยดีไซน์แบบ in-ears และการใช้ไมค์ทั้ง 4 ตัวมาประมวลผล ก็ทำให้ระบบ ANC ช่วยตัดเสียงรบกวนภาพนอกได้ดี และยังใช้เทคนิค Beamforming ในการรับเสียงพูดจากปากเราให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย
แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 35 ชั่วโมง
ตัวหูฟังสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 7 ชั่วโมง และเมื่อใช้ร่วมกับเคสก็จะได้มากถึง 35 ชั่วโมง โดยมีระบบชาร์จเร็ว 10 นาทีก็ใช้ได้ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าหากต้องการชาร์จให้เต็ม 100% ต้องใช้เวลา 60 นาที
ประสบการณ์ใช้งานจริง
ด้วยคาแรกเตอร์ของเสียงที่เน้นไปย่านเสียงต่ำซะเยอะ และเป็นเสียงสไตล์ปลุกเร้าอารมณ์ ทำให้ผมมักเอาไปฟังแนว EDM, Rock รวมถึงแนวรถแห่ที่เน้นเบสกระแทกเข้าว่า แต่เสียงย่านต่ำก็ไม่ได้ล้นไปกวนย่านอื่นจนน่าอึดอัด เสียงร้องยังคงชัดเจน เพียงแต่เนื้อเสียงโดยรวมไม่ได้หวาน แต่ออกแนวชัดถ้อยชัดคำมากกว่า
ด้านการควบคุมจะใช้การแตะที่ตัวหูฟัง ซึ่งก็เข้าใจได้ไม่ยาก และส่วนใหญ่ผมก็คุมผ่านตัวสมาร์ทโฟนมากกว่า และนอกจากนี้ยังมี ear-tips มาให้เปลี่ยนตามขนาดของใบหูแต่ละคน เพื่อให้ใส่ได้กระชับและไม่เจ็บ ก็จัดว่าสะดวก