ย้อนไปเมื่อ vivo TWS Neo เปิดตัวครั้งแรกก็ทำเอาหลายคนตื่นเต้น เพราะมันคือการยกระดับมาตรฐานการฟังเพลงให้ดียิ่งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ และในตอนนี้ก็มี vivo TWS2 ที่ออกมาสานต่อประสบการณ์ด้านเสียงเพลง ให้เหล่านักฟังได้อิ่มเอมเปรมใจกันต่อ
ดีไซน์สวยงาม พกง่าย
สิ่งที่หูฟัง TWS ของ vivo ทำมาได้ดีเสมอคือการออกแบบ สำหรับเจ้า TWS2 ออกแบบมาได้สวยงามเช่นเดิมด้วยรูปทรงที่โค้งมน ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ทำสีดำที่มีเหลือบน้ำเงินตามแสงสะท้อน ผิวมันเงาช่วยขับความสวยงาม แต่ก็จะเป็นรอยนิ้วมือง่ายเหมือนกัน ฝาเปิดปิดง่าย แต่ตัวฝาจะไม่มีสปริงยึดทำให้เวลาเปิดค้างควรจะใช้นิ้วดันฝาไว้ไม่ให้ปิดเอง
ด้านในเป็นหูฟังแบบ inear ขนาดเล็ก ตัวก้านมีขนาดสั้นไม่เกะกะ น้ำหนักเบา ใส่สบาย ไม่เจ็บหูครับ ตัวจุกซิลิโคนมีให้เลือก 3 ขนาด เพื่อปรับให้เหมาะกับใบหูของแต่ละคน ช่วยให้สวมใส่ได้กระชับและไม่เจ็บหู พร้อมความสามารถกันน้ำ IP54 ใส่ออกกำลังกายได้ และมี Wearing detection หยุดเพลงอัตโนมัติเมื่อถอดหูฟัง
การเชื่อมต่อทันสมัย
การเชื่อมต่อทำผ่าน Bluetooth 5.2 ด้วย Codec aptX Adaptive ซึ่งจะมีการปรับบิตเรทอัตโนมัติตามคุณภาพเสียงและสัญญาณรบกวน ให้เราได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดและการเชื่อมต่อที่เสถียรที่สุด มี Latency ต่ำสุดเพียง 88 ms. เท่านั้น สามารถใช้เล่นเกมได้เลย นอกจากนั้นยังรองรับ Google fast pair เพียงแค่เปิดฝา มือถือ Android ที่อยู่ใกล้ๆ ก็จะเจอเจ้า vivo TWS2 ด้วยความรวดเร็ว และ sync การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นๆ ของเราที่ลอกอิน Google account เดียวกันให้ด้วย
วิธีการเชื่อมต่อ เมื่อใช้งานครั้งแรกตัวหูฟังจะเข้าโหมด Pairing โดยอัตโนมัติ แต่หากต้องการเปลี่ยนเครื่องให้นำหูฟังเก็บใส่เคส เปิดฝา แล้วกดปุ่มที่เคสค้างไว้จนไฟเปลี่ยนเป็นสีขาวกะพริบ สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันสูงสุด 2 เครื่อง
การควบคุมที่เข้าใจได้ไม่ยาก
การใช้งานหูฟัง vivo TWS2 จะใช้งานร่วมกับแอป vivo Earphones สำหรับตั้งค่าการควบคุมหูฟังและอัปเดตเฟิร์มแวร์
การควบคุมหูฟังทำโดยการแตะที่ก้านหูฟังซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนคำสั่งได้ในแอป vivo Earphones สำหรับค่าพื้นฐานเป็นดังนี้
- แตะ 1 ครั้ง : เล่น/หยุดเพลง, รับสาย/วางสาย
- แตะ 2 ครั้งด้านซ้าย : เพลงก่อนหน้า, ตัดสาย
- แตะ 2 ครั้งด้านขวา : เพลงถัดไป, ตัดสาย
- กดค้าง : สลับระหว่างโหมดตัดเสียงรบกวน/โหมดฟังเสียงภายนอก/ปิด
- เลื่อน : ปรับระดับเสียง
ณ ปัจจุบันขณะที่เราทำการรีวิว แอป vivo Earphones ยังมีเฉพาะใน Android เท่านั้นครับ แต่ตัวหูฟังสามารถใช้กับอุปกรณ์ iOS ได้ตามปกติ เพียงแค่ต้องมาตั้งค่าและอัปเดตเฟิร์มแวร์บน Android เท่านั้น
หมดปัญหาหูฟังหาย ด้วยฟีเจอร์ค้นหาตำแหน่งหูฟัง
อีกฟีเจอร์ที่ใช้ได้เฉพาะสมาร์ทโฟน vivo เท่านั้นคือฟีเจอร์ค้นหาหูฟัง ในกรณีที่หูฟังยังเชื่อมต่อกับมือถืออยู่จะสามารถบอกตำแหน่งแบบ real-time ได้เลย และสามารถสั่งให้เล่นเสียง โดยหูฟังจะเปิดความดังสูงสุดช่วยให้เราหาตำแหน่งง่ายขึ้น แต่หากขาดการเชื่อมต่อไปแล้วจะบอกตำแหน่งล่าสุดไว้ให้ และสามารถกดนำทางด้วย Google Maps ไปยังตำแหน่งดังกล่าวได้เลย
ตัดเสียงรบกวนได้ทั้งการฟังและการคุยโทรศัพท์
vivo TWS2 มีโหมดตัดเสียงรบกวนให้มาแบบครบครัน สำหรับการฟัง มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelation (ANC) โดยหูฟังจะมีไมค์รับเสียงภายนอกและปล่อยคลื่นเสียงขั้วตรงข้ามเพื่อหักล้างกัน ทำให้หารฟังเพลงตามที่สาธารณะต่างๆ ได้อย่างเงียบสงบ และไม่จำเป็นต้องเปิดเสียงดัง โดยสามารถปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้ถึง 3 ระดับ
หรือจะตั้งเป็นระบบสมาร์ทที่หูฟังจะตรวจจับระดับความดังของเสียงรบกวนและปรับให้เหมาะสมอัตโนมัติก็ได้ ความสามารถในการตัดเสียงรบกวนถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว ตามสเปคสามารถตัดเสียงรบกวนได้ถึง 40 dB การใช้งานจริงสามารถตัดเสียงรบกวนจากเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้สบายๆ ตัดเสียงรบกวนที่มาจากท้องถนน เช่น เสียงรถยนต์ เสียงลมได้ค่อนข้างน่าพอใจ สำหรับเสียงคนพูดถือว่าตัดออกไปได้เกือบหมด ถ้าเปิดเพลงด้วยก็จะไม่ได้ยินเสียงคู่สนทนาเลย
อีกโหมดที่ต้องมาคู่กันคือโหมดรับเสียงจากภายนอก เพราะโดยธรรมชาติของหูฟัง inear จะตัดเสียงจากภายนอกออกระดับหนึ่งอยู่แล้ว โหมดนี้จะใช้ไมค์รับเสียงบรรยากาศภายนอกเข้ามาและเปิดให้เราฟัง ช่วยให้เราสามารถเดินทางไปไหนมาไหนและสนทนากับผู้อื่นได้โดยไม่จำเป็นต้องถอดหูฟังออก ต้องบอกว่าโหมดนี้ vivo ทำได้ดีทีเดียว ระดับเสียงจากภายนอกทำได้กำลังดี ให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่หูฟังอยู่เลยครับ
อีกโหมดตัดเสียงคือการตัดเสียงรบกวนเวลาเราสนทนาครับ ทำให้เสียงพูดเวลาคุยโทรศัพท์ของเราชัดเจนด้วยไมโครโฟน 3 ตัว ที่จะช่วยกันจับเสียงพูดและตัดเสียงรบกวนจากภายนอกออกไป จากที่ลองใช้ถือว่าทำได้อยู่ในระดับดีครับ
คุณภาพเสียงที่น่าพอใจและจูนมาดี
ด้านเสียงตัวนี้ใช้ไดรเวอร์ไดนามิกคาร์บอนไฟเบอร์ขนาด 12.2 มม. พร้อมเทคโนโลยี DeeX2.0 จากที่ลองฟังต้องบอกว่าเป็นหูฟังที่ให้เสียงดีมากทีเดียว เบสจะนำนิดๆ แต่ไม่มาก ให้รายละเอียดดีในทุกย่านเสียง จูนมาให้ฟังง่าย ไม่ล้าหูแม้ฟังนานๆ เป็นหูฟังที่ฟังได้ทุกแนวครับ
แบตเตอรี่สูงสุด 29 ชั่วโมง
เป็นอีกจุดที่ทำออกมาได้อย่างลงตัวเมื่อเทียบกับขนาดและน้ำหนัก โดยตัวหูฟังสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 4.1 ชม. เมื่อเปิดโหมดตัดเสียงรบกวน และ 7.3 ชม. หากปิดโหมดตัดเสียงรบกวน และชาร์จกับเคสได้อีกประมาณ 4 ครั้ง สามารถใช้งานได้นานสุดถึง 29 ชม. เลยทีเดียว
สรุป vivo TWS2 ดีไหม เหมาะกับใคร
เป็นหูฟังที่ให้ฟีเจอร์มาอย่างครบครัน น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย มาพร้อมรูปลักษณ์ที่สวยงาม ระบบตัดเสียงรบกวน ANC ต้องบอกว่าทำได้ดีทีเดียวครับ การเชื่อมต่อถือว่าทำมาได้ประทับใจชาว Android มากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน aptX Adpative ที่นอกจากจะเสียงดีแล้วยังทำให้มี Latency ต่ำสุดเพียง 88 ms. เท่านั้น รองรับ Google Fast Pair และถ้าใช้กับมือถือ vivo จะมีฟีเจอร์ตามหาหูฟังอีกด้วย ส่วนด้านเสียงต้องบอกว่าจูนมาได้กำลังดี ฟังสบายเลยครับ ทั้งหมดนี้ในราคา 2,999 บาท
นอกจากนี้ยังมีรุ่นเล็ก vivo TWS2e
vivo TWS2 ไม่ได้มาเดี่ยวๆ แต่มีรุ่นน้องอย่าง vivo TWS2e มาด้วย โดยทั้งสองรุ่นใช้ไดรเวอร์เดียวกันเลยเพื่อคุณภาพเสียงที่ใกล้เคียงกัน แต่จะตัดฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน ANC และรองรับการเชื่อมต่อสูงสุดแค่ ANC ในราคาที่ย่อมเยากว่าเพียง 2,499 บาท
