ถ้าพูดถึงโน้ตบุ๊คไซส์เล็ก พกพาง่าย ดีไซน์สวย หลายคนน่าจะมีแบรนด์ ASUS อยู่ในใจ วันนี้เราจะมาพบกับ ASUS ZenBook 13 อีกครั้ง หลังจากที่เราเคยรีวิวรุ่นย่อย UX433F ไปแล้วก่อนหน้านี้ คราวนี้เราจะมาพบกับรุ่นย่อย UX333F กันบ้าง โดยรุ่นนี้จะมีสีให้เลือกทั้งหมด 3 สี สำหรับสีที่ผมำมารีวิวในครั้งนี้ต้องถูกใจใครหลายๆ คนแน่นอน เพราะมันคือสีแดง Burgundy Red ที่โดดเด่นเห็นแต่ไกล
Burgundy Red สีนี้โดดเด่นไม่ธรรมดา
ASUS ZenBook 13 UX333F มาพร้อมตัวเครื่องสีแดง Burgundy Red ที่มีความโดดเด่นและความหรูหราพรีเมียมอยู่ในตัว นำไปใช้ที่ไหนก็โดดเด่น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงมาดสุขุมและพรีเมียมไว้ได้ ตัวเครื่องสีแดงตัดด้วยสีทองเหมือนคุณถือรถสปอร์ตคันงามอยู่ในมืออย่างไรอย่างนั้น
ความสวยงามของเครื่องนี้ไม่ธรรมดา เพราะได้รางวัล IF Design Award เลยทีเดียว
นอกจากนั้นยังมาพร้อมความแกร่งระดับผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810G ไปไหนไปกัน
หน้าจอ 13 นิ้วในตัวเครื่องที่เล็กกว่า
ASUS ZenBook 13 มีขอบหน้าจอส่วนที่หนาสุดเพียง 5.9 มม. ทำให้มันเป็นโน้ตบุ๊คหน้าจอ 13 นิ้วที่มีขนาดเล็กมากๆ เมื่อเทียบกับโมเดล 2017 แล้วเล็กลงถึง 14% เล็กกว่ากระดาษ A4 เสียอีก ให้ความรู้สึกเหมือนถือโน้ตบุ๊คจอ 11 นิ้วอยู่เท่านั้น ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 1.09 กก. พกพาไปไหนมาไหนได้สบายๆ
หน้าจอมีฟีเจอร์ Tru2Life ที่จะปรับปรุงคุณภาพวิดีโอให้สดใสสวยงามกว่าเดิม และ Splendid ที่สามารถเลือกโหมดสีของหน้าจอว่าต้องการแบบ Normal ตามขอบเขตสี sRGB หรือ Vivid แบบ Wide Gamut
ทัชแพดที่เป็นมากกว่าทัชแพด
ทัชแพดของ ASUS ZenBook 15 เป็นทัชแพดที่ลื่นมาก ฟีลลิ่งในการใช้งานดีมาก ใช้แล้วไม่เมื่อยมือ และยังมีฟังก์ชั่นพิเศษที่ชื่อว่า NumberPad ที่สามารถแปลงทัชแพดเป็น Numpad ได้ สามารถกดปิดเปิดได้ที่มุมขวาบนของทัชแพด
ความสะดวกของฟีเจอร์นี้คือแม้เราจะเปิดใช้งาน NumberPad อยู่ เราก็ยังสามารถใช้งานเป็นทัชแพดธรรมดาได้ด้วย ไม่ต้องคอยเปิดปิดให้วุ่นวายตลอดเวลา ถือเป็นการออกแบบที่ช่วยเพิ่มประโยชน์ใช้สอยในพื้นที่อันจำกัดของเครื่องได้ดีมาก
พอร์ตเชื่อมต่อ
- 1 x USB 3.1 Gen 2 Type-C (up to 10Gbps)
- 1 x USB 3.1 Type-A (up to 10Gbps)
- 1 x USB 2.0 Type-A
- 1 x HDMI
- 1 x MicroSD card reader
- 1 x Audio jack
การเชื่อมต่ออื่นๆ
- Dual-band 802.11ac gigabit-class Wi-Fi
- Bluetooth 5.0
ล็อกอินเข้าเครื่องอย่างรวดเร็วด้วย Windows Hello
ASUS ZenBook 13 รองรับการล็อกอินเข้าเครื่องอย่างรวดเร็วด้วย Windows Hello โดยใช้กล้อง 3D IR Camera ที่อยู่บนขอบบางเฉียบของหน้าจอ
ประสิทธิภาพ
ASUS ZenBook 13 UX333F ใช้ซีพียู Intel Core i7-8565U กับกราฟิก Nvidia GeForce MX 150 2 GB GDDR5 และแรม 8 GB โดยผลการเทสต์ด้วย PC Mark 10 ได้คะแนน 3912 คะแนน ในการใช้งานจริงสามารถตอบโจทย์เหล่าคนทำงานออฟฟิศได้สบายๆ หรือใครที่ต้องทำงานโหดขึ้นอย่างเช่นตัดต่อภาพและวิดีโอเล็กๆ น้อยๆ ก็ตอบโจทย์เช่นกัน
สำหรับพื้นที่เก็บข้อมูลมาพร้อม SSD 512 GB อินเทอร์เฟซ NVMe
แบตเตอรี่
ASUS Zenbook 13 UX333F ใช้แบตเตอรี่ 50Wh 3-cell lithium-polymer battery แบบ Built-in ไม่สามารถถอดได้ จากการทดสอบด้วย Battery Eater ซึ่งจะจำลองการใช้งานแบตเตอรี่ โดยเปิดความสว่างของหน้าจอ 50% แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ประมาณ 2 ชม. 10 นาที
สำหรับการชาร์จ ASUS Zenbook 13 UX333F มาพร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 65W ขนาดเล็ก แต่ด้วยขนาดตัวเครื่องที่เล็กอยู่แล้วทำให้อะแดปเตอร์ดูใหญ่ไปเลย อะแดปเตอร์ชาร์จไฟจาก 0-100% ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาทีเท่านั้น
myASUS ศูนย์รวมทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับเครื่อง ASUS ของคุณ
แอป myASUS เป็นแอปที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเครื่อง ASUS ที่คุณจำเป็น ไม่ว่าจะเป็น Serial number, วันหมดประกัน, วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น, ช่องทางติดต่อบริการหลังการขาย เป็นต้น
ตัวแอปสามารถวิเคราะห์ปัญหาพร้อมบอกวิธีแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วย
นอกจากนั้นยังรวมหน้าตั้งค่าฟีเจอร์พิเศษของ ASUS ไว้ด้วย
- Charging mode : ปรับการชาร์จแบตไม่ให้ชาร์จแบบเต็ม 100% เพื่อถนอมแบตเตอรี่
- Fan mode : ปรับโหมดพัดลมระหว่าง Auto และ Silent เพื่อไม่ให้ส่งเสียงรบกวนคนอื่น
- Splendid : ปรับตั้งค่าสีหน้าจอ
- Tru2Life : โหมดปรับปรุงคุณภาพวิดีโอ
บทสรุปของ ASUS ZenBook 13 UX333F สี Burgundy Red
ASUS Zenbook 13 UX333F เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคนต้องการโน๊ตบุ้คสำหรับทำงานที่ไม่อยากพกโน๊ตบุ้คเครื่องใหญ่ แต่ก็อยากใช้จอที่ใหญ่ระดับ 13 นิ้ว ด้วยประสิทธิภาพที่เพียงพอต่อการทำงานหลายๆ ด้าน แบตเตอรี่ที่อึดพอตัว แถมมีดีไซน์และสีสันที่โดดเด่นระดับนั่งทำงานที่ไหนต้องมีคนหันมามองอย่างแน่นอน
