สืบเนื่องจากหลายคนให้ความสำคัญกับการถนอมสายตามากขึ้น หัวเว่ยเลยมีกลุ่มสินค้า PaperMatte ที่จำลองหน้าจอให้สบายตาเหมือนกระดาษ ซึ่ง HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition ก็ได้ชูจุดเด่นเรื่องนี้กับแนวคิด “More Than PC เป็นได้มากกว่าแล็ปท็อป”
HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte ได้รับ 3 การรับรองสถาบันชั้นนำจาก SGS Low Visual Fatigue Premium Performance Certification, TÜV Rheinland Low Blue Light ( ระดับฮาร์ดแวร์ ) Certification และ TÜV Rheinland Reflection Free Certification มั่นใจว่าปลอดภัยจากแสงสะท้อนสู่ดวงตาบนหน้าจอขนาด 11.5 นิ้ว
หน้าจอที่ทำได้มากกว่าการลดแสงสะท้อน
HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte มีหน้าจอขนาด 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2.2K อัตรารีเฟรชเรท 120Hz อัตราส่วนหน้าจอ 3:2 ช่วยให้แสดงผลได้เยอะขึ้น จุดเด่นของ PaperMatte คือการใช้เทคนิคการผลิตให้ Layer ของหน้าจอคล้ายกระดาษและลดแสงสะท้อนได้ถึง 97% เวลาดูหนัง เปิดคลิป หรือพิมพ์งานก็มองได้สบายตากว่าหน้าจอทั่วไป
นอกจากนี้ยังมีผลพลอยได้อีกอย่างจากกระบวนการผลิต PaperMatte คือหน้าจอจะมีความลื่นนิ้วมากๆ ไม่เหนียวหนืดเวลาลากนิ้ว ซึ่งสายเกมจะชอบมากๆ
ในการใช้งานจริงผมได้พบข้อดีอีกอย่าง ก็คือหน้าจอลักษณะนี้เปื้อนรอยนิ้วมือยากกว่าจอทั่วไป ทำให้เราไม่ต้องเช็ดหน้าจอบ่อยๆ ด้วยภาพรวมทั้งหมดของหน้าจอ ทำให้เราไม่จำเป็นต้องไปหาฟิล์มมาติดเพิ่มเลยครับ และด้วยขนาด 11.5 นิ้ว มันก็มีขนาดที่ไม่เล็กไม่ใหญ่สำหรับความเป็นแท็บเล็ต เหมาะกับพกพา โดย HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในแนวนอน ลักษณะเดียวกับแล็ปท็อป ทำให้กล้องหน้าจึงจัดอยู่กึ่งกลาง พร้อมกับระบบ FollowCam ที่ช่วยจัดเฟรมให้ออกมาสวยงามมากขึ้น
เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น ผมลองเอาหลอดไฟมาส่องหน้าจอ จะเห็นได้ว่าแสงสะท้อนมีน้อยมากๆ ครับ
ทำงานได้สะดวกด้วย HUAWEI Notes และ WPS
ถัดมาก็เป็นเรื่องของ M-Pencil Gen. 2 ให้เราได้ขีดเขียนจดบันทึกได้ง่ายๆ เหมาะกับการใช้งานควบคู่กับแอป HUAWEI Notes ที่มีฟีเจอร์สำหรับการใช้งานปากกาได้ครบถ้วน โดยไม่จำเป็นต้องหาซื้อแอปเพิ่มเติม ซึ่งการออกแบบด้านการพกพาของรุ่นนี้เหมาะกับคนที่ต้องการความบางเบาของตัวเครื่อง ตัวเคสมีขอบข้างค่อนข้างบาง ทำให้ถือหรือใส่กระเป๋าได้ง่าย ส่วนปากกา M-Pencil ใช้วิธีการพกพาแยกต่างหาก และชาร์จผ่าน USB-C
ตัวเคสยังพกพาจุดเด่นอย่างแป้นพิมพ์ที่ถอดแยกชิ้นได้ และยังสามารถพิมพ์ได้แม้ถอดแยกชิ้นด้วยการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเหมาะกับการวางตัวแท็บเล็ตในระยะที่เหมาะสมเพื่อลดอาการ Office Syndrome
และถ้าสังเกตจะเห็นว่าแท็บเล็ตของหัวเว่ยมักจะติดตั้ง WPS Office มาให้ด้วย นั่นเพราะมันคือแอปแก้ไขเอกสารจำพวก Word, PowerPoint, Excel ที่ใช้งานได้ฟรี และจ่ายเพิ่มได้สำหรับฟีเจอร์ด้าน PDF ซึ่งโดยรวมแล้วราคาถูกกว่าของ Microsoft 365 เป็นเท่าตัว ผมได้ลองใช้งานจริงในการแก้เอกสารงานของลูกค้า ก็สามารถใช้งานได้ปรกติครบถ้วนตามที่ต้องการครับ
หากมองที่ภาพรวมด้านดีไซน์ ผมคิดว่าเหมาะกับคนที่ไม่ได้ใช้ปากกาบ่อยนัก รวมถึงคนที่ต้องการแท็บเล็ตที่หน้าจอใหญ่แต่พกพาใส่กระเป๋าได้ง่าย
เจาะฟีเจอร์เด็ดของ HUAWEI Notes
HUAWEI Notes เป็นแอปที่ออกแบบมาเพื่อการจดบันทึกละขีดเขียนโดยเฉพาะ ซึ่งฟีเจอร์ที่มีมาให้ก็มีจุดเด่นหลายส่วน เช่น การดูดสีจากหน้าเว็บหรือแอปที่เราชอบ เพื่อมาใช้กับการลงสีของเรา กรณีเหมาะมากกับคนดีไซน์ ช่วยลดปัญหาในการถกเถียงกันได้เยอะ ไม่ต้องเดาว่าสีเฉดไหนกันแน่ เพราะเราดูดมาให้เรียบร้อย
เมื่อปัดปากกาจากมุมบนขวาของจอ จะพบกับเมนูลัดเพื่อจับภาพหน้าจอและขีดเขียน เหมาะสำหรับการต่อยอดเรื่องราวจากภาพบนหน้าจอ และยังมีฟีเจอร์พื้นฐานอื่นๆ ที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการ Crop ภาพ การทำ Lasso โดยจุดที่ผมชอบเป็นพิเศษคือโหมด Laser Pointer ซึ่งในโหมดนี้จะให้เราทำไฮไลท์วาดวงสิ่งต่างๆ ได้ โดยลายเส้นจะอยู่สักพักก่อนจะหายไป เหมาะกับการนำเสนองาน
อีกส่วนที่ผมใช้บ่อยคือ Import PDF โดยเฉพาะเอกสารด้านการเงินหรือพวก TOR ต่างๆ ที่ต้องใช้ความตั้งใจในการอ่าน ก่อนจะเซ็นรับรู้ ผมมักจะใช้ฟีเจอร์นี้ครับ แล้ว Export PDF ไปให้ลูกค้า เพื่อลดความผิดพลาด
ประสบการณ์ใช้งานจริง
ในช่วงหลังแฟนๆ ของหัวเว่ยสามารถใช้งานแอปต่างๆ ได้ใกล้เคียงกับการมี GMS มากขึ้น โดยการติดตั้งแอปชื่อ microG ซึ่งมีใน AppGallery รวมถึงมีการแนะนำให้ติดตั้งในช่วงที่เปิดใช้งานครั้งแรก ซึ่งหลังจากติดตั้ง microG แล้วก็จะสามารถใช้งานแอปที่ต้องการ Google service ได้แทบทั้งหมด และยังสามารถกดซื้อของในเกมและแอปได้แล้ว
โดยทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่มักจะมีมือถืออยู่แล้วและใช้แท็บเล็ตควบคู่ ดังนั้นในทางปฏิบัติแล้วการใช้งานลักษณะนี้เลยแทบไม่มีปัญหาใดๆ เลย ซึ่งประเด็นนี้ก็สอดคล้องกับยอดขายแท็บเล็ตของหัวเว่ยที่ขายดีจนต้องนำรุ่นใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ด้วยสเปคที่ให้มาก็จัดว่าใช้ทำงานและเล่นเกมได้ในระดับที่คนส่วนใหญ่พึงพอใจ กับ Snapdragon 7 Gen 1 แรม 8GB พื้นที่ 256GB นอกจากนี้ยังให้ลำโพงมาอีก 4 ตัว พร้อมระบบเสียง Histen 8.0 และมี AI สำหรับตัดเสียงรบกวนเมื่อใช้ไมค์ ทำให้ VDO Call ได้ชัดเจนขึ้น ในทางปฏิบัติเราสามารถใช้งานแอปต่างๆ ของ Google ได้ รวมถึงแอปต่างๆ ที่เราคุ้นเคย เช่น Netflix, Facebook, TikTok และอื่นๆ อีกสารพัด เรียกว่าทดแทนได้เกือบทั้งหมดสำหรับการใช้งานของคนส่วนใหญ่
สำหรับการใช้งานก่อนนอน ผมจะเปิด Eye Comfort ที่ช่วยลดแสงสีฟ้าอีกระดับ และถ้าเป็นการอ่านในลักษณะ eBook หรือบทความ ผมจะปรับไปใช้ eBook mode ที่จะเปลี่ยนหน้าจอเราให้กลายเป็นสีขาวดำ เพื่อลดภาระของดวงตาลง แต่ถ้าอยากให้มีสีสันแต่ไม่แสบตา เราสามารถตั้ง eBook mode เป็นโหมดสีได้ ซึ่งจะทำการตัดทอนสีบางช่วงออก คล้ายกับเราอ่านหนังสือที่พิมพ์แบบสีครับ
บทสรุป HUAWEI MatePad 11.5″ PaperMatte Edition
มีจุดเด่นเป็นพิเศษคือเรื่องหน้าจอที่มองได้สบายตาที่สุด โดยเฉพาะคนที่อยู่กับหน้าจอทั้งวันควรจะใช้รุ่นนี้ครับ และหน้าจอยังมีจุดเด่นอื่นๆ แฝงมาด้วยเช่นการควบคุมที่ไม่หนืดนิ้ว เหมาะกับการเล่นเกมเป็นอย่างมาก ซึ่งมันทำให้การเขียนด้วยปากกา M-Pencil มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วย
