แพงนักก็ใช้อย่างอื่น แนะนำซอฟต์แวร์ทดแทนชุด Adobe Creative มีตั้งแต่ถูกกว่าจนถึงใช้ฟรี
ชุดซอฟต์แวร์ Adobe Creative Cloud ซฮฟต์แวร์ที่คนทำงานด้านครีเอทีฟและดีไซน์ต้องใช้งาน แต่ราคาแสนแพงเหลือเกิน ปัจจุบันต้องจ่ายเป็นรายเดือนอยู่ที่ 1,143.83/เดือน และราคานี้จะต้องสมัครทั้ปีเท่านั้นถึงจะได้ โดยราคานี้จะได้ซฮฟต์แวร์มาทั้งชุดซึ่งหลายๆ ตัวก็ไมไ่ด้ใช้งาน สำหรับคนที่อยากประหยัด มาดูซอฟต์แวร์ทดแทนตัวอื่นๆ ที่มีราคาถูกกว่า และอาจจะตอบโจทย์การใช้งานมากกว่าด้วย
ซอฟต์แวร์ที่เราแนะนำ
Canva
แอปดีไซน์ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความง่ายในการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในด้านการดีไซน์เยอะก็สามารถใช้งานแอปนี้ได้ เพียงแค่ลากวางๆ เมนูแก้ไขต่างๆ ก็ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย ตัวแอปยังมาพร้อมกับ Assets มากมายให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟกต์ต่างๆ รูปภาพ เสียง และ วิดีโอ นอกจากนั้นยังมีเทมเพลตหลากหลายแบบให้เลือกและนำมาประยุกต์ใช้ในแบบของเราได้อีกด้วย ตัวแอปออกมาให้ใช้ได้ทั้งบน Windows, Mac, Android, iOS รวมถึงใช้งานผ่านเว็บได้ และยังสามารถแชร์ให้เพื่อนในทีมเข้ามาช่วยแก้ไขได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นแอปที่ครบมากๆ สำหรับงานดีไซน์ ตอบโจทย์ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับกลาง ทำให้ผลิตชิ้นงานดีไซน์ได้อย่างรวดเร็วครับ
✅จุดเด่น
- ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องมีความรุ้ด้านการออกแบบมากก็ใช้งานได้
- มี Assets ให้ใช้งานมากมาย
- มีเทมเพลตให้ใช้
- สามารถร่วมกันแก้ไขกับเพื่อนได้
- สามารถใช้งานได้ทั้งบน Windows, Mac, Android, iOS รวมถึงใช้งานผ่านเว็บ
⚠️จุดสังเกต
- ไม่สามารถทำงานดีไซน์ที่ซับซ้อนมากๆ ได้
- ต้องต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อใช้งาน
- ความสามารถด้านวิดีโอยังไม่เก่งมาก
🎫ราคา
- เวอร์ชันใช้งานฟรีแบบจำกัดฟีเจอร์
- Canva Pro ราคา 230 บาท/เดือน (1850 บาท/ปี)
- Canva Team ราคา 180 บาท/เดือน/คน (1800 บาท/ปี/คน) *อย่างน้อย 3 คน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ Canva
Affinity Suite
โปรแกมในเซ้ตของ Affinity จะมีทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่
- Affinity Photo ซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพและออกแบบกราฟิก ใช้ทดแทน Photoshop สามารถใช้ได้ทั้งบน Windows, Mac และ iPad
- Affinity Design ซอฟต์แวร์ออกแบบกราฟิกแบบเวคเตอร์ ใช้งานแทน Illustrator
- Affinity Publisher ใช้งานแทน Indesign
จุดเด่นของ Affinity คือมีความสามารถต่างๆ ที่ครบครัน และออกแบบให้ผู้ที่ย้ายมาจาก Adobe ไม่ต้องปรับตัวมาก มีการจัดวางอินเทอร์เฟซที่คล้ายกัน และใช้ปุ่ม Shortcut ที่คล้ายกัน จุดเด่นของ Affinity Suite คือราคา โดย Affinity Suite ใช้โมเดลแบบขายขาด เสียเงินครั้งเดียวใช้ได้ตลอดชีพแบบไม่สามารถอัปเดตข้ามเวอร์ชันได้ แต่ต้องบอกว่าซอฟต์แวร์ชุดนี้ไม่ได้อัปเดตข้ามเวอร์ชันกันบ่อยๆ อยู่แล้ว
✅จุดเด่น
- จ่ายครั้งเดียวจบ ไม่ต้องเสียรายปี
- อินเทอร์เฟซและการใช้งานที่คุ้นเคย ไม่ต้องปรับตัวเยอะ
- มีหลายแพลตฟอร์ม
⚠️จุดสังเกต
- จำนวน assets น้อยกว่า
- ไม่มีฟีเจอร์ด้าน AI
🎫ราคา
- ซอฟต์แวร์ตัวละ 34.99 USD/แพลตฟอร์ม (ประมาณ 1,300 บาท)
- Universal Licence ใช้ได้ทุกซอฟต์แวร์และทุกแพลตฟอร์ม ราคา 82.99 USD (ประมาณ 3,000 บาท)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ Affinity Suite
Capcut
ซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอที่ออกแบบมาให้ผสานการทำงานกับแอป TikTok แต่ก็มาพร้อมความสามารถในการตัดต่อวิดีโอที่ค่อนข้างจริงจัง มีไทม์ไลน์ให้ทำงานด้วย มาพร้อมเอฟเฟกต์และเครื่องมือต่างๆ ที่ครบครัน จุดเด่นอยุ่ที่เครื่องมือ AI ช่วยในการรีทัชบุคคล ติดตามการเคลื่อนไหว จนถึงลดเสียงรบกวนที่ทำงานได้ดีมาก ตัวแอปสามารถใช้ได้ทั้งบน Desktop, มือถือ และบนเว็บ สามารถใช้งานได้ฟรี แต่เครื่องมือและ Assets บางอย่างจะล็อกเอาไว้สำหรับลูกค้าเสียเงินเท่านั้น
✅จุดเด่น
- ซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอ มีไทม์ไลน์ให้ทำงานด้วย
- มี assets ให้มาระดับหนึ่ง เอฟเฟกต์ที่ให้มาสวยและใช้ง่าย
- ใช้ได้ทั้งบน Desktop, มือถือ และบนเว็บ
- AI ช่วยรีทัชและลดเสียงรบกวนได้ผลลัพธ์ออกมาดีมาก
⚠️จุดสังเกต
- เป็นซอฟต์แวร์ฟรีที่บางฟีเจอร์ล็อกไว้สำหรับผู้เสียเงิน
- ไฟล์ที่ได้จากการ Export จะมีคุณภาพต่ำกว่าที่ตั้งค่าไว้เล็กน้อย ต้องตั้งค่าไว้เกินกว่าที่ต้องการ
🎫ราคา
- ใช้งานได้ฟรีแบบจำกัดฟีเจอร์
- 249 บาท/เดือน หรือ 1,760 บาท/ปี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ Capcut
GIMP
ซอฟต์แวร์ออกแบบกราฟิกและตกแต่งภาพทดแทน Photoshop ที่เป็น Open-source ใช้งานได้ฟรี มีเครื่องมือที่คล้ายคลึงกันพร้อม Assets เบื้องต้นให้ใช้ และมี Community ผู้ใช้ที่ค่อนช้างใหญ่ แต่หน้าตาอินเทอร์เฟซอาจจะเข้าใจยากและใช้เวลาเรียนรู้พอสมควร
✅จุดเด่น
- ซอฟต์แวร์ทดแทน Photoshop แบบ Open-source ใช้งานได้ฟรี
- มีชุมชนผู้ใช้ขนาดใหญ่
⚠️จุดสังเกต
- จำนวน assets น้อย
- ใช้เวลาในการปรับตัวและเรียนรู้การใช้งานเยอะ
🎫ราคา
- ใช้งานฟรี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ GIMP
Darktable
ซอฟต์แวร์แต่งภาพ แก้สี ทดแทน Adobe Lightroom มาพร้อมกับอินเทอร์เฟซที่คุ้นเคย แต่การใช้งานอาจจะไม่ลื่นไหลเท่าไหร่นัก
✅จุดเด่น
- ซอฟต์แวร์ทดแทน Lightroom แบบ Open-source ใช้งานได้ฟรี
⚠️จุดสังเกต
- ซอฟต์แวร์ทำงานไม่ลื่นไหลเท่าไหร่
- มีเฉพาะบน Windows เท่านั้น
🎫ราคา
- ใช้งานฟรี