รีวิว HONOR Magic V3 จอพับที่ทั่วโลกลงความเห็นว่าดีที่สุดของปี 2024
สรุปประเด็นเด่น
ถ้าจำไม่ผิด HONOR Magic V3 น่าจะเป็นมือถือเครื่องแรกของ HONOR ที่ผมซื้อและใช้เอง ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้เครื่องนี้ผมใช้ Xiaomi 14 Ultra มาพักหนึ่ง ด้วยเหตุผลหลักคือผมต้องการมือถือกล้องดีสำหรับถ่ายงาน แต่กลายเป็นว่าสุดท้ายแล้วผมคิดถึงมือถือจอพับ แต่เงื่อนไขคือกล้องต้องดีด้วย ซึ่ง HONOR Magic V3 ทำให้ผมประทับใจมาก
กล้องระดับหัวแถว
โจทย์แรกของผมคือมือถือต้องมีกล้องที่ดี ซึ่ง HONOR Magic V3 ให้กล้องทุกตัวมาอยู่ในเกณฑ์ดีโดยเฉพาะกล้องหลังตัวหลัก ที่เอาอยู่ทุกสถานการณ์จริงๆ บวกกับการ Process ที่ให้โทนภาพแบบจบในตัวไม่ต้องแต่งเพิ่ม ต่างจากตอนใช้ Xiaomi 14 Ultra ซึ่งเป็นรุ่นที่กล้องสวยมากทุกระยะจริง แต่การ Process จะออกแนวเรียลๆ ดิบๆ เงาเยอะๆ กลางคืนก็มืดเลย ถ่ายคนก็ผิวหยาบเหมือนตัวจริง ซึ่งสไตล์นี้จะถูกใจคนยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นพิเศษ ในขณะที่ HONOR Magic V3 ที่จับมือกับ Harcourt จะให้ภาพที่จบพร้อมใช้ทันทีในแบบที่คนไทยและฝั่งเอเชียชอบ
กล้องหลังให้มา 3 ระยะที่ Process ได้ดีให้สีสันใกล้เคียงกัน ทำให้การใช้งานจริงสามารถเลือกระยะการถ่ายได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าภาพจะดรอปกว่ากันจนน่าเกลียด แต่การซูมไกลแน่นอนว่ามันสู้พวกมือถือที่เน้นกล้องเป็นหลักอย่าง Xiaomi 14 Ultra หรือพวก vivo x200 Pro ไม่ได้ แต่ถ้าอยู่ในระยะไม่เกิน 10x ก็ยังพอไหวครับ
ส่วนตัวแล้วผมชอบใช้ระยะ 2x กับ 3.5x ในการถ่ายอาหาร มันทำให้อาหารดูเต็มเฟรมมากขึ้น ในขณะที่ไม่ต้องถอยไกลเกินไป และที่น่าสนใจคือโหมด Motion Sensing Capture ที่สามารถจับภาพสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็วได้คมชัดขึ้น ซึ่งผมชอบเอามาถ่ายปลา แต่การถ่ายปลานี่ทำให้ผมคิดถึง Samsung เหมือนกัน เพราะ Samsung มี AI ช่วยลบแสงสะท้อนกระจกได้
ส่วนกล้องหน้าและกล้องด้านในเป็นอีกส่วนที่ทำได้ดี จากที่เคยใช้ Galaxy Z Fold series มาก่อน จุดเด่นคือจอด้านในดูเต็มตาเพราะใช้กล้องแบบใต้จอ แต่ในขณะเดียวกันคุณภาพมันก็เลวร้ายมากๆ ประหนึ่งกล้อง VGA ซึ่ง HONOR Magic V3 แม้จะมี Punch Hole กับจอใน แต่ก็ให้คุณภาพกล้องที่ดีระดับเดียวกับกล้องหน้า ทำให้เราสามารถ VDO Call หรือถ่ายรูปถ่ายคลิปได้อย่างมีคุณภาพ
งานวีดีโอมีปัญหา
งานวีดีโอที่คนมักมองว่ามือถือจีนทำได้แย่ แต่สำหรับ HONOR Magic V3 ทำได้ในระดับน่าประทับใจเลยครับ ผมสามารถเอามาถ่ายคลิประดับ Production จริงจังได้เลย โดยเฉพาะการทำ Production TikTok ให้กับแบรนด์ถือว่าสบายมาก ทั้งในแง่เนื้อไฟล์ ความคมชัด แสงสี และกันสั่น
แต่ที่ทำได้เลวร้ายอย่างไม่น่าเชื่อคือระบบเสียงไม่ sync กับปากครับ เป็นเรื่องที่บ่นกันทั่วโลกเลย ซึ่งบางคนบอกว่ารุ่นอื่นของ HONOR ก็มีปัญหานี้ แต่บางคนก็ไม่เจอ เลยไม่รู้ว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร สุดท้ายแล้วมันเลยเป็นงานวีดีโอที่เหมาะกับการเก็บเนื้อภาพดีๆ แล้วไป voice over ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไรจะแก้ปัญหานี้ได้
หลังจากทดสอบโดยนำไฟล์ไปเปิดบนคอม พบว่าเสียงไม่ดีเลย์ครับ หมายความว่าปัญหามาจากตัว preview บนเครื่อง ซึ่งผมลองโหลด VLC มาเปิดก็ยังดีเลย์ เลยไม่แน่ใจว่าต้องแก้ไขยังไง
พับที่บาง เบา ไร้รอยย่น
หากเทียบความหนาและน้ำหนักของตัวเครื่องแทบไม่ต่างจากมือถือทั่วไป ทำเอาผมนึกถึง HUAWEI Mate Xs 2 เลย แต่ก่อนผมติด HUAWEI Mate Xs 2 มากเพราะจอใหญ่น้ำหนักเบาเหมาะกับการถืออ่านก่อนนอน เช่นกันกับ HONOR Magic V3 ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผมในส่วนนี้เหมือนกัน
นักธุรกิจรอบตัวผมหลายคนนิยมใช้มือถือจอพับ โดยจุดประสงค์หลักคือการเปิดผลงานให้คู่ค้าดู แต่จุดที่ผมต้องบอกคือความบางเบาของ HONOR Magic V3 มันทำให้การเปิดกางตัวเครื่องทำได้ยากกว่าพวกหนาๆ อย่าง Galaxy Z Fold series หรือ OPPO Find N3 ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ Trade-off ต้องแลกมาเพื่อความบาง และหน้าจอด้านในมีรอยย่นในระดับที่น้อยมาก ในการใช้งานจริงแทบไม่รู้สึกถึงความย่นเลย
UI ความเป็นจอพับจะเป็นสไตล์เดียวกับ OPPO ก็คือจอด้านในจะแสดงไอคอนเหมือนจอด้านนอก แต่เป็นการแสดงผลเทียบเท่ากับจอด้านนอก 2 หน้า ซึ่งต่างไปจากฝั่งของ Samsung ที่การจัดเรียงจอนอกกับจอในต่างกันสิ้นเชิง ซึ่งส่วนตัวผมชอบแบบ Samsung มากกว่า เพราะเวลาใช้งานจอใหญ่เราเลือกใช้แอปที่ต่างจากการใช้มือถือทั่วไป
จุดที่ทำได้ดีคือเราสามารถเลือก App Extender ได้ว่าจะให้แอปตัวไหนแสดงผลยืดเต็มจอ หรือแบ่งเป็น 2 จอ ซึ่งส่วนนี้ดีมากครับ อย่างตอนใช้ Galaxy Z Fold 4 ผมมีปัญหากับ Lark ที่มันแบ่งเป็นหน้าจอรายชื่อและกล่องแชท แต่ผมอยากได้เป็นกล่องแชทเต็มจอไปเลย ซึ่งบน HONOR Magic V3 มันเลือกได้ตามใจชอบเลย
ทีนี้พอใช้ติดมือถือใช้นานๆ ก็ต้องมาใส่ใจเรื่องระบบถนอมสายตาซึ่งผมคิดว่า HONOR รุ่นนี้ทำได้ดีสุดตั้งแต่ผมใช้มือถือมาละ มีครบทั้งเรื่อง Natural Tone, Defocus Eyecare, Eye Comfort, Dynamic Dimming, และการลด Flicker ด้วย Ultra high frequency PWM Dimming
ตัวช่วยและ AI
ปีนี้เราได้เห็นการโปรโมท Google Circle to Search มากขึ้น และแน่นอนว่ามีและพร้อมใช้ทันทีที่แกะกล่อง HONOR Magic V3 และยังมี AI ที่เกี่ยวกับการโทรที่ช่วยทำให้เสียงสนทนาชัดขึ้น และป้องกันเสียงดังออกมาข้างนอก ส่วนการจับภาพหน้าจอและการบันทึกคลิปหน้าจอ เราใช้วิธี Knuckle screnshot ครับ คือเอาข้อนิ้วเคาะลงไปก๊อกๆ และถ้าเราใช้ 3 นิ้วลากลงมันจะเป็นการเก็บข้อมูลพวกนั้นไว้ใน Favorite แต่ถ้าไม่ชินก็เปลี่ยนให้ลาก 3 นิ้วเป็นการจับภาพหน้าจอได้ครับ
นอกจากนี้ยังมี Air Gestures ที่สามารถสั่งงานโดยไม่ต้องสัมผัสเครื่อง ซึ่งมันเหมาะมากกับคนที่มือเปื้อนและไม่อยากสัมผัสเครื่อง เช่น ตอนอาบน้ำถูสบู่แต่อยากสั่งงานมือถือ หรืออย่างตอนทำอาหารก็เหมือนกันครับ
แต่จุดที่ขาดไปสำหรับความคาดหวังผมคือการบันทึกเสียงการโทร ซึ่งบน MagicOS 8.1 ไม่สามารถทำได้ ถ้าต้องการจริงๆ ก็ต้องไปติดตั้งดัดแปลงเพิ่มครับ
ประสิทธิภาพที่ลื่นไหล และรองรับปากกา
ด้วยชิป Snapdragon 8 Gen 3 ก็น่าจะการันตีได้ระดับหนึ่งถึงความลื่นไหล จะเล่นเกมหรือจะทำงานทุกอย่างก็ทำได้สบายๆ และยังมี Desktop mode สำหรับต่อเข้าจอและแปลงร่างให้เหมือน PC ย่อมๆ ได้ แม้จะไม่เท่าโน้ตบุ๊ค แต่ก็เพียงพอสำหรับเจ้าของกิจการที่ใช้ตรวจงานผ่านไฟล์ Word, Excel หรือเข้าเว็บทั่วไป
นอกจากนี้ยังรองรับปากกาด้วยแต่ ณ วันที่ทำรีวิวคือปากกายังไม่ขายในไทย ต้องสั่งจากต่างประเทศในราคาประมาณ 2 พันกว่าบาทครับ และตัวปากกาเองก็เป็นขนาดเท่าปากกาจริง ดังนั้นไม่สามารถเก็บในตัวเครื่องได้ ต้องพกแยกต่างหาก
บทสรุป
ลงตัวที่สุดสำหรับผมแล้ว ด้วยไลฟ์สไตล์ผมที่เน้นติดต่องานเป็นหลัก ต้องอ่าน ต้องแชท ต้องโชว์ผลงาน ต้องดูจอใหญ่เพื่อตรวจงาน แต่ก็ต้องพกติดตัวง่าย ดังนั้น HONOR Magic V3 ตอบโจทย์ส่วนนี้ทั้งหมดเลย และยังมีกล้องที่ดีแบบถ่ายคนถ่ายของได้พร้อมใช้ ถ้าจะให้ปรับปรุงกว่านี้คืออยากให้เพิ่มระยะซูมให้มากขึ้นครับ และควรแก้เรื่องวีดีโอเสียงไม่ตรงกับปากด้วยครับ เรื่องนี้มันเลวร้ายมากสำหรับมือถือราคานี้