
5 เหตุผลที่ผมให้ Xiaomi 14T Series เป็นสมาร์ทโฟนคุ้มค่าที่สุดของปี 2024
เป็นธรรมเนียมของสิ้นปีที่เราจะมาสรุปของน่าใช้ประจำปี ซึ่งปี 2024 ผมขอยกให้ Xiaomi 14T Series เป็นมือถือที่คุ้มค่าน่าใช้ เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดย Xiaomi 14T มีราคาเริ่มต้น 15,990 บาท และ Xiaomi 14T Pro มีราคาเริ่มต้น 21,990 บาท ที่ให้ทุกสิ่งครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกล้อง, ประสิทธิภาพ, ความบันเทิง รวมไปถึงด้าน AI
เหตุผลที่ 1 : กล้องที่โดดเด่นสไตล์ Leica

ต้องยอมรับว่าตั้งแต่ Xiaomi ร่วมมือกับ Leica ก็ยกระดับกล้องขึ้นได้ดีมากแบบผิดหูผิดตา และดีขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง Xiaomi 14T Series ซึ่งจากที่ได้ใช้งานมาพักใหญ่ ก็ต้องบอกว่านี่คือมือถือที่กล้องดีมากในทุกระยะเลนส์ รวมไปถึงงานวีดีโอก็ทำได้ดีด้วย ในแง่สเปคแล้วทั้งคู่มีรายละเอียดต่างกันพอสมควร ผมสรุปมาให้ตามตารางนี้ครับ
เซ็นเซอร์ภาพ IMX906 จาก Sony
4-in-1 Super Pixel ขนาด 2.0µm
ƒ/1.7
OIS
ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 23 มม.
ƒ/1.9
ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 50 มม.
f/2.2
ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 15 มม.
120˚ FOV
ƒ/2.0
80.8˚ FOV
เซ็นเซอร์ Light Fusion 900
4-in-1 Super Pixel ขนาด 2.4µm
ƒ/1.6
OIS
ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 23 มม.
ƒ/2.0
ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 60 มม.
f/2.2
ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 15 มม.
120˚ FOV
ƒ/2.0
80.8˚ FOV
ทั้งคู่ให้ผลลัพธ์ที่ดีมากเมื่อเทียบกับช่วงราคา โดยโทนภาพที่จะได้เป็นลักษณะของ “ความสมจริง” ซึ่งหาได้ยากจากสมาร์ทโฟนคู่แข่งทั้งหมด เนื่องจากสมาร์ทโฟนส่วนมากถูกปรับแต่งให้ภาพออกมามีความสว่างและสดใสเกินกว่าความเป็นจริง ดังนั้นหากคุณต้องการสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีแบบเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน และอิงสภาพแสงสีจากความเป็นจริงแล้ว Xiaomi 14T และ Xiaomi 14T Pro เป็นตัวเลือกที่ชนะแบบไร้คู่ต่อสู้ในช่วงราคาเดียวกัน









การจูนแสงสีของเลนส์แต่ละระยะทำออกมาได้ใกล้เคียงกัน ทำให้การถ่ายรูปมีความต่อเนื่องในเลนส์แต่ละระยะ นอกจากนี้การถ่ายภาพบุคคลยังมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนมากๆ และสามารถเลือกถ่ายได้หลายระยะเลนส์ ทำให้ได้มิติของภาพที่แตกต่างกันตามความต้องการของเรา เพราะระยะเลนส์ที่ต่างกัน เวลาเอามาถ่ายภาพบุคคลจะเห็นความต่างเรื่องความบานของฉากหลังครับ

นอกจากนี้ยังมีการจำลองเลนส์ของ Leica มาให้ใช้หลายแบบ อารมณ์เหมือนฟิลเตอร์ในแอปที่ทำให้ภาพดูฟุ้ง หรือดู soft แล้วแต่เลนส์ที่เราเลือก


ด้วยความที่กล้องดีทุกระยะ ทำให้เราถ่ายได้สนุกและเก็บได้ทุกสถานการณ์ ซึ่งส่วนตัวแล้วผมชอบนำเลนส์ระยะเทเลไปถ่ายอาหาร เพราะมันจะทำให้จานดูเต็มเฟรมกว่า แต่ถ้าระยะถอยไม่มากก็ใช้เลนส์หลักถ่ายได้เหมือนกัน

และที่ต้องชื่นชมคือกล้องหน้าซึ่งทำได้ดีพอตัวเลย แม้จะไม่ได้จัดแสงไฟสตูดิโอ แต่การใช้งานจริงในห้องก็ให้ภาพที่คมชัด ส่วนการถ่ายในที่แจ้งแบบย้อนแสงก็ยังดันภาพให้หน้าไม่มืดเกินไป ในขณะที่ยังเก็บรายละเอียดอื่นๆ ในภาพได้โดยแสงไม่โอเว่อครับ …ดูความแรงของแสงแดดได้จากแว่นครับ ผมใช้แว่นเปลี่ยนสี ถ้าแดดแรงก็จะกลายเป็นสีเข้ม หรือถ้ามองว่ามันมืดไปก็เอามาดึงความสว่างขึ้นทีหลังได้ แต่ถ้าถ่ายแล้วแสงโอเว่อตั้งแต่แรกเราจะแก้ไขอะไรได้ยากครับ


คำถามที่หลายคนอยากรู้คือทั้ง 2 รุ่น มีกล้องต่างกันมากไหมในการใช้งานจริง ส่วนตัวผมคิดว่าไม่ได้ต่างกันมากขนาดนั้น แต่ต่างกันในแง่ของระยะเลนส์ที่ไม่เท่ากัน และโทนสีที่อุ่นเย็นต่างกัน ส่วนคุณภาพไม่ได้หนีกันมากครับ ขึ้นอยู่กับความชอบเลย












เหตุผลที่ 2 : ประสิทธิภาพที่ใช้ได้จริง
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันในการพิจารณาเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่อง ก็คือประสิทธิภาพการใช้งานจริงนั่นเอง โดย Xiaomi 14T มาพร้อมชิป MediaTek Dimensity 8300-Ultra ส่วน Xiaomi 14T Pro ก็เลือกใช้ MediaTek Dimensity 9300+ ทั้งคู่มาพร้อมกับแรม 12 GB LPDDR5X และหน่วยความจำแบบ UFS 4.0 และรีดพลังด้วย HyperOS ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แรงพอจะใช้งานได้ทุกสิ่งอย่าง

นอกจากนี้ยังเลือกใช้หน้าจอที่มีรีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz และความไวตอบสนองการสัมผัสสูงสุด 480Hz ทำให้สามารถรับคำสั่งจากปลายนิ้วได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ และยังรองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision รวมถึง Dolby Atmos ด้วย ทำให้การส่งออกทั้งภาพและเสียงทำได้อย่างครบเครื่อง
เหตุผลที่ 3 : การโคลนแอปที่ทำได้มากกว่า
ในยุคสมัยที่คนเรามีหลายไอดีด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นไอดีส่วนตัวและไอดีทำงาน หรือแม้แต่ไอดีสำหรับสืบราชการลับ ซึ่งสมาร์ทโฟนส่วนมากจะโคลนแอปได้เฉพาะแอปแชทบางตัวเท่านั้น ในขณะที่ HyperOS ของ Xiaomi สามารถโคลนได้แทบทุกแอป ทำให้เราไม่จำเป็นต้องซื้อสมาร์ทโฟน 2 เครื่องเพื่อใช้งานไอดีที่แตกต่างกัน

เหตุผลที่ 4 : ชาร์จเร็วทันใจ
เดี๋ยวนี้การใช้ชีวิตต้องรีบเร่งกว่าเดิม หลายคนต้องอยู่ห่างไกลจากปลั้กนานๆ จะดีกว่าไหมถ้าเราใช้เวลาน้อยลงแต่ชาร์จแบตเตอรี่ได้ โดย Xiaomi 14T Series มีแบตเตอรี่ 5000 mAh ซึ่งถ้าใช้งานไม่หนักมากก็สามารถอยู่ได้ตลอดทั้งวัน แต่ถ้าต้องเปิดใช้งานบ่อยก็มีระบบชาร์จเร็วที่จะช่วยให้แบตเตอรี่ชาร์จเต็มเร็วขึ้น ซึ่ง Xiaomi 14T มีระบบชาร์จเร็ว 67W ส่วน Xiaomi 14T Pro ชาร์จเร็วถึง 120W เลย

เหตุผลที่ 5 : ยุคสมัยของ AI
สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการซื้อสมาร์ทโฟนในยุคนี้คือเรื่องของ AI โดย Xiaomi เป็นแบรนด์ที่ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Google ทำให้ได้ฟีเจอร์ด้าน AI ของ Google มาแทบทั้งหมด โดยตัวชูโรงคือ Circle to Search ที่เรากดค้างที่แถบด้านล่างจอเพื่อค้นหาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการวาดวงสิ่งของบนหน้าจอเพื่อหาข้อมูลของสิ่งนั้น หรือการค้นหาเพลงที่ทำได้แม่นยำในระดับที่เราฮัมเพลงก็ค้นหาได้ และสิ่งที่ผมชอบที่สุดคือการแปลภาษาทุกสิ่งบนหน้าจอให้เป็นภาษาไทย ส่วน AI สำหรับการแต่งภาพก็มีทั้งการลบสิ่งของที่ไม่พึงประสงค์ ไปจนถึงการขยายขอบเขตภาพให้กว้างขึ้นกว่าเดิม


นอกจากนี้ยังมี AI Message Assistant ที่ช่วยเขียนข้อความให้เราในแอปสำหรับส่งข้อความ รวมไปถึง Al
Recorder ส่าหรับถอดเสียงเป็นข้อความ, AI Note ทำการสรุป แก้ไข หรือแปล, AI Subtitle ทำซับ
ไตเติ้ลให้กับวีดีโอ
ความเห็นส่งท้าย
ทั้ง 5 เหตุผลที่ผมหยิบมาเล่า มันคือจุดสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ทโฟนดีๆ สักเครื่อง โดยเฉพาะช่วงราคาที่ไม่แรงเกินไป เริ่มต้นที่ 15,990 บาทเท่านั้น แต่ถ้างบมากพอก็สามารถขยับไปรุ่นที่สูงกว่าได้ตามนี้ครับ
- Xiaomi 14T แรม 12 GB พื้นที่ 256 GB ราคา 15,990 บาท
- Xiaomi 14T แรม 12 GB พื้นที่ 512 GB ราคา 17,990 บาท
- Xiaomi 14T Pro แรม 12 GB พื้นที่ 512 GB ราคา 21,990 บาท
- Xiaomi 14T Pro แรม 12 GB พื้นที่ 1 TB ราคา 24,990 บาท
ถ้างบประหยัดก็เลือกรุ่น 15,900 บาท แต่ถ้าต้องการพื้นที่ใช้งานเยอะๆ เก็บรูป ลงเกม โหลดไฟล์เยอะๆ ก็เลือกรุ่น 1 TB ราคา 24,990 บาทได้เลยครับ