รีวิวควบ POCO X7 และ POCO X7 Pro แบตล้น จอสวย ชิปตัวแรง

สรุปประเด็นเด่น

เปิดปี 2025 ทาง POCO ก็ไม่ปล่อยเวลาให้ชาวบ้านตั้งตัว เข็น POCO X7 series ลงสนาม โดย POCO X7 Pro มาพร้อมสเปคแบบได้ยินแล้วเหลียวหลังกับแบต 6000 mAh พร้อมชาร์จเร็ว 90 W และชิป Dimensity 8400-Ultra ส่วน POCO X7 ก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน

ชิปเซ็ตระดับพรีเมี่ยม

ภาคต่อของ Generation ก่อนอย่าง POCO X7 Pro ยังคงเลือกใช้ชิปจากค่าย MediaTek โดย Dimensity 8400-Ultra จัดอยู่ในกลุ่มชิปพรีเมี่ยม ส่วน POCO X7 เลือกใช้ Dimensity 7300-Ultra ที่ให้ความสมดุลในด้านประสิทธิภาพและการบริหารพลังงาน ซึ่งทั้งคู่จัดว่าเป็นชิปที่แรงเกินกว่าการใช้งานของคนส่วนใหญ่แล้ว ใช้งานจริงคือลื่นเหลือๆ ครับ

รีวิวควบ POCO X7 และ POCO X7 Pro แบตล้น จอสวย ชิปตัวแรง 3

หากมองที่รายละเอียดลึกลงไป POCO X7 Pro ได้เสริมประสิทธิภาพด้วยระบบระบายความร้อน LiquidCool 4.0 และ POCO 3D IceLoop สำหรับคนชอบ Benchmark ก็ต้องบอกว่ารุ่นนี้ AnTuTu ไปได้ถึง 1,704,330 คะแนน ซึ่งเด่นมากเมื่อเทียบกับตัวเลือกในราคาเดียวกัน และโดดเด่นเรื่องการประมวลผลด้าน AI

รีวิวควบ POCO X7 และ POCO X7 Pro แบตล้น จอสวย ชิปตัวแรง 5

ส่วน POCO X7 ก็ไม่น้อยหน้า ชิป Dimensity 7300-Ultra ถูกผลิตในแบบ 4nm เหมือนกันกับ POCO X7 Pro นอกจากนี้ และทาง MediaTek ก็ปั้นชิปนี้มาเพื่อการเล่นเกมในระดับสูง พร้อมกับการประมวลผลด้านกล้อง รวมถึงรองรับ 5G เช่นกัน ส่วนคะแนน AnTuTu ก็ทำได้ที่ 704,404 คะแนน ซึ่งก็ทำได้น่าสนใจในช่วงราคา อย่างไรก็ตามผมได้ย้ำเสมอว่าคะแนน Benchmark มันเป็นเพียงส่วนประกอบในการตัดสินใจ เราควรใช้ความรู้สึกจริงในการใช้งาน ซึ่งในชีวิตจริงมันก็เร็วเหลือเฟือละครับ

รีวิวควบ POCO X7 และ POCO X7 Pro แบตล้น จอสวย ชิปตัวแรง 7

ส่วนประกอบอื่นที่ส่งเสริมประสิทธิภาพ ในรุ่น POCO X7 Pro ก็จัดให้สุดทางด้วยหน่วยความจำแบบ LPDDR5X + UFS 4.0 ในขณะที่ POCO X7 มาแบบคุ้มในราคาคือ LPDDR4X + UFS 2.2 ส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยได้เล่นเกมบนมือถือมากนัก แต่ผมก็ได้ลองเล่นเกมทั่วไปอย่างเช่น eFootball หรือ FC Mobile ก็เล่นได้แบบไม่รู้สึกติดขัดอะไร

แบตเยอะ ชาร์จไว

สิ่งสำคัญในการใช้งานจริงอีกอย่างคือเรื่องของแบตเตอรี่ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้ก็จัดมาให้แบบบิ๊กเบิ้ม โดย POCO X7 Pro ให้แบตมา 6000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 90 W ในขณะที่ POCO X7 ให้แบต 5110 mAh และระบบชาร์จเร็ว 45 W โดย ด้วยความจุและความเร็วใจการชาร์จ มั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีปัญหาแบตหมดระหว่างวันแน่นอน

รีวิวควบ POCO X7 และ POCO X7 Pro แบตล้น จอสวย ชิปตัวแรง 9

นอกจากการออกนอกสถานที่ซึ่งซีเรียสมากเรื่องแบตเตอรี่แล้ว การใช้งานเวลาอยู่บ้านก็สะดวกกว่าถ้าแบตเตอรี่เยอะและชาร์จได้เร็ว อย่างเช่นการดูหนังยิงยาวแบบไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ หรือการคอลคุยกันยาวๆ รวมถึงการเล่นเกมด้วย

หน้าจอสวยชัด ทัชติดนิ้ว

ทั้งคู่มีสเปคหน้าจอที่คล้ายกันมาก เริ่มจากการเลือกใช้ AMOLED ความละเอียด 1.5K ที่ให้สีสันสวยพร้อมกับรายละเอียดที่ดีในการใช้งานจริง และยังมีรีเฟรชเรท 120 Hz รวมถึงความไวในการตอบสนองปลายนิ้วที่ 2560Hz ทำให้เกิดความรู้สึก “ติดนิ้ว” ควบคุมได้ดั่งใจ ซึ่งมีผลมากในการเล่นเกมที่ต้องช่วงชิงจังหวะ และแน่นอนว่าต้องผ่านมาตรฐานถนอมสายตาแบบ Triple TÜV Rheinland

รีวิวควบ POCO X7 และ POCO X7 Pro แบตล้น จอสวย ชิปตัวแรง 11

ทั้ง POCO X7 และ POCO X7 Pro มีหน้าขอขนาดเท่ากันที่ 6.67 นิ้ว แต่ตัว X7 จะเป็นขอบโค้งทั้งด้านหน้าและหลังให้ความหรูดูแพง ในขณะที่ X7 Pro จะเป็นขอบแบนตามยุคสมัย ซึ่งดีกันคนละแบบ

ทนทานระดับ IP68

POCO X7 Series ทั้ง 2 รุ่น ผ่านมาตรฐานความทนทานในระดับ IP68 แต่มีจุดต่างเล็กน้อยในเชิงสเปคคือ POCO X7 เสริมแกร่งด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 ในขณะที่ POCO X7 Pro ใช้กระจก Corning Gorilla Glass 7i

รีวิวควบ POCO X7 และ POCO X7 Pro แบตล้น จอสวย ชิปตัวแรง 13

นอกจากนี้ยังให้ IR Remote มาเหมือนเดิม ซึ่งนับว่าเป็นอีกจุดเด่นของค่ายนี้ ทำให้เราสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้แทนรีโมททั่วไปเลย ที่สำคัญเลยคือทั้ง 2 รุ่นให้ลำโพงคู่มาด้วย นับว่าเป็นการเพิ่มอรรถรสในการดูหนังและเล่นเกมได้เป็นอย่างดี

รีวิวควบ POCO X7 และ POCO X7 Pro แบตล้น จอสวย ชิปตัวแรง 15

แม้ว่าเดี๋ยวนี้คนจะใช้ NFC ไม่เยอะอย่างที่ผู้ผลิตคาดการณ์ไว้ แต่ POCO X7 Series ก็ยังใส่มาให้ เผื่อว่าใครจำเป็นต้องใช้ เช่น ผูกกับบัตรเปิดประตูคอนโด

รีดประสิทธิภาพด้วย HyperOS 2

อย่างที่หลายคนทราบ ผมเป็นแฟนคลับของ Software Xiaomi มาตั้งแต่ยุค MIUI จนก่อตั้งกลุ่มแฟนคลับอย่างเป็นทางการแห่งเดียวในไทย และให้ความร่วมมือกับ HQ กระทั่ง Xiaomi ได้เข้ามาทำตลาดในไทย สิ่งนี้คงเป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า Software ค่ายนี้มีความโดดเด่นมากแค่ไหน ต่อมาก็ได้ผ่าตัดยกเครื่องเปลี่ยนไส้พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น HyperOS ที่ประหยัดพื้นที่มากขึ้น เร็วขึ้น และแก้ปัญหาต่างๆ โดย POCO X7 Pro จะมาพร้อมกับ HyperOS 2 ในขณะที่ POCO X7 แกะกล่องมาจะเจอกับ HyperOS ซึ่งผมเชื่อว่าจะได้อัพเดทเป็น HyperOS 2 ตามกันในไม่ช้าครับ

รีวิวควบ POCO X7 และ POCO X7 Pro แบตล้น จอสวย ชิปตัวแรง 17

จุดเด่นของ HyperOS คือการรีดประสิทธิภาพและจัดการสมดุลของเครื่องได้ดี ทำให้การใช้งานจริงจะพบกับความลื่นไหลราบรื่น นอกจากนี้ยังมี Killing Feature คือการโคลนแอปที่ทำได้แทบทุกแอป ในขณะที่คู่แข่งทำได้เฉพาะแอปแชทบางตัวเท่านั้น นั่นทำให้เราสามารถล็อกอินเกมได้ 2 ไอดี มีแชท 2 ไอดี รวมถึงแอปต่างๆ นั่นทำให้เหมือนเรามีมือถือ 2 เครื่องด้วยการจ่ายเงินซื้อ 1 เครื่องเท่านั้น

กล้อง 50 MP และ AI ช่วยเติมแต่ง

Set up กล้องของทั้ง 2 รุ่นคล้ายกันมาก โดยมีจุดเหมือนกันคือ

  • กล้องหลัก 50 MP พร้อมกันสั่น OIS ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX882 รูรับแสง f/1.5 และ Pixel Binning 4-in-1 1.6 μm
  • กล้องมุมกว้าง 8 MP รูรับแสง f/2.2
  • กล้องหน้า 20 MP

แต่จุดต่างคือรุ่น POCO X7 จะเพิ่มเลนส์มาโคร 2 MP มาให้ด้วย พูดกันแบบไม่อิงสเปคเลยต้องบอกว่า POCO X7 Series จูนกล้องมาได้ดีเกินคาด ผมลองถ่ายเทียบหลายๆ สถานการณ์กับรุ่นอื่น พบว่า POCO X7 Series มี Post Process และ AI ที่ดีและเชื่อว่าถูกใจคนส่วนใหญ่ เพราะมีการเร่งแสงให้สว่างขึ้นแบบพอเหมาะ พร้อมกับเติมสีสันให้สดยิ่งขึ้น สวยกว่าที่ตาเห็น เหมาะกับถ่ายแล้วอัพเลยไม่ต้องแต่งเพิ่ม

ความเห็นส่งท้าย

POCO มีภาพจำที่ให้สเปคแรงแต่ไม่เน้นกล้อง แต่เท่าที่ผมได้ลองใช้รุ่นนี้ตั้งแต่ก่อนเปิดตัว ผมกลับมองว่ากล้องจูนออกมาได้สวยมากเลยครับ จนผมต้องใช้คำว่าสวยกว่าตาเห็น แต่ส่วนที่หลายคนอาจกังวลก็คือการเลือกใช้ชิป Dimensity ซึ่งสมัยก่อนมันอาจเป็นชิปที่ไม่โดดเด่นนัก แต่ช่วงหลังมานี้ต้องบอกว่ามันทำได้ดีมากเลยครับ ใช้จริงแล้วไม่ผิดหวัง