ออกทริปลองกล้องกับ Samsung Galaxy A9 2018 รุ่นนี้มีดีที่ 4 กล้องหลัง
วันก่อนผมได้ไปออกทริปทดสอบกล้อง Galaxy A9 กับทางซัมซุง โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือกล้องหลังที่มี 4 กล้องในราคา 19,990 บาท
สเปกและราคา
ราคาเปิดตัว 19,990 บาท ของ Galaxy A9 ทำให้คนคาดหวังไม่น้อย แต่ต้องบอกว่ารุ่นนี้โฟกัสที่ระบบกล้องหลัง 4 ตัว เลยให้ชิปภายในเป็นตัว Snapdragon 660 แรม 6 GB หน่วยความจำภายใน 128 GB หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว
ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ที่ 24 ล้านพิกเซล แต่ความโดดเด่นจริงๆ อยู่ที่กล้องหลังทั้ง 4 ตัวได้แก่
- กล้องหลัก 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7
- กล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องซูม 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องเก็บความลึก 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
ลองกล้องแบบใช้งานจริงไม่อิงสเปก
สิ่งที่ผมย้ำเสมอก็คือสเปกไม่ใช่ทุกสิ่งและ Hardware ไม่ใช่ทุกอย่าง ยิ่งยุคนี้มีการปรับแต่ง Optimize จูนนั่นนี่ต่างกัน ฉะนั้นเรามาดูการใช้งานจริงเลยดีกว่า
สิ่งแรกก็คือรุ่นนี้รองรับการใส่ลายน้ำแล้ว โดยบรรทัดแรกจะบังคับข้อความว่า “Samsung Quad Camera” ส่วนบรรทัดถัดมาจะเป็นข้อความที่เราเลือกได้เอง
ความดีงามของ Galaxy A9 ก็คือมีระบบแก้ไข Distortion ซึ่งปรกติแล้วเลนส์ที่มุมกว้างมากๆ จะมีการผิดเพี้ยนและโค้งที่ขอบภาพ แต่สำหรับรุ่นนี้สามารถเลือกแก้ไข Distortion ได้หลังจากที่ถ่ายเรียบร้อยแล้ว
ข้อดีของระบบแก้ไข Distortion แบบนี้อยู่ตรงที่ เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้มี Distortion หรือไม่มี เพราะการโค้งของบางรูปก็ทำให้มีเสน่ห์เหมือนกัน
ลองทดสอบการซูม 2 เท่า ก็ให้ผลลัพธ์ที่คมชัดพอตัว ต่อด้วยการลองกดโหมดถ่าย Portrait กับสภาพแสงแบบนี้ ก็ให้รายละเอียดที่ดีทั้งเรื่องแสงเงาและการตัดขอบ
และต่อไปเราก็จะเข้าไปถ่ายข้างในกันต่อ เพื่อทดสอบเลนส์มุมกว้างในสภาพแสงแบบ Indoor
ภาพจากเลนส์มุมกว้างในสภาพแสง Indoor ก็มี Noise ให้เห็นพอตัว ซึ่งถ้าใช้เลนส์หลักจะให้ภาพที่สวยกว่านี้
เลนส์มุมกว้างของ Galaxy A9 ต้องการแสงค่อนข้างมาก เหมาะสำหรับถ่ายในที่แสงเยอะ
ลองยกกล้องขึ้นมาถ่ายลวดลายบนกระจกกันบ้าง พอเป็นเลนส์กล้องตัวหลักแบบนี้ก็ให้รายละเอียดและจัดการ Noise ได้ดีกว่ามากๆ ทีนี้เรามาลองโหมด Live Focus สำหรับทำหน้าชัดหลังเบลอกันบ้าง
ผลก็คือโหมดนี้ทำงานได้น่าประทับใจในที่แสงเยอะ สามารถตัดขอบได้ค่อนข้างดี แต่ยังทำได้ไม่ดีนักกับสภาพแสงในห้อง ถัดไปก็เป็นการถ่ายรูปอาหาร
รายละเอียดและแสงสีที่ได้จากการถ่ายรูปอาหารก็อยู่ในเกณฑ์ทั่วไป หลังจากนี้ก็จะลองถ่ายภาพบุคคลกับ Portrait Mode กันบ้าง
ในการ Portrait กับที่กลางแจ้งแบบนี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจมาก มีรายละเอียดและการตัดขอบที่ดี ถ้านำไปตกแต่งดึงสีสันเพิ่มจะยิ่งสวยกว่านี้อีก ซึ่งผมทดสอบแต่งภาพเพิ่มเติมด้วยระบบของ Samsung เอง 2 รูปตามนี้
ทีนี้ลองเอาไปถ่ายรูปปั้นแบบย้อนแสงให้ดูอาร์ทๆ กันบ้าง ภาพที่ได้ก็สวยไปอีกแบบ
ต่อด้วยการทดสอบการซูม 2 เท่ากันอีกรอบ กับนางแบบที่ลอยอยู่กลางน้ำบนนกสีชมพู
ในกรณีที่อยากได้บรรยากาศแวดล้อมทั้งหมดก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเรามีเลนส์มุมกว้างให้ใช้
แอพแต่งภาพของ Samsung มีฟิลเตอร์อันหนึ่งที่ผมชอบมากก็คือการจำลองแสง ที่ช่วยให้ภาพดูแปลกตา
กลับมาลองเลนส์มุมกว้าง และทดสอบการแก้ Distortion กันอีกรอบ คราวนี้จะเห็นได้ว่ามันช่วยให้ภาพดูดีขึ้นไม่น้อยเลย
เสน่ห์ของเลนส์มุมกว้างอีกอย่างก็คือการถ่ายเป้าหมายแบบระยะใกล้ เพื่อให้ดูหัวโตกว่าส่วนอื่นๆ
ถึงตอนกลางคืนที่จำลองงานลอยกระทงให้ได้ลอยก่อนถึงวันจริง โดยมีการตั้งโคมไฟไว้เพื่อให้แสงสว่างในแต่ละจุด
วันถัดมาเราก็ไปกันต่อที่ตลาดร่มหุบ ซึ่งเสน่ห์ของที่นี่ก็คือการมีรถไฟสัญจรไปมาตลอดเวลา ทำให้พ่อค้าแม่ขายต้องเก็บของอยู่เป็นระยะเพื่อหลีกทางให้รถไฟ ซึ่งสถานที่ตรงนี้ค่อนข้างแคบ การมีเลนส์มุมกว้างช่วยให้เก็บภาพได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น
บทสรุปของการออกทริปกับ Samsung Galaxy A9 2018
Galaxy A9 ออกแบบมาเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน คือกลุ่มที่ชอบถ่ายรูป โดยรุ่นนี้เหมาะกับสาย Outdoor เพราะมีทั้งกล้องมุมกว้างและการซูม ซึ่งทั้งคู่ทำได้ดีมากในที่แสงเยอะ แต่สำหรับที่แสงน้อยแล้วยังต้องปรับปรุงอีกพอตัว
อีกโหมดที่ทำได้ดีขึ้นก็คือ Live Focus และการ Portrait ที่ให้รายละเอียดและตัดขอบที่ดีในที่แสงเพียงพอ เรียกได้ว่าถ้าเป็นสาย Outdoor, Travel ก็น่าจะชอบรุ่นนี้ เพราะตัวเลือกสมาร์ทโฟนที่มีเลนส์หลายช่วงแบบนี้มีอยู่แค่ไหนไม่รุ่นครับ