Mi Air Purifier 2 เป็นเครื่องกรองอากาศที่สามารถควบคุมผ่านมือถือได้ โดยมีราคาเต็มเพียง 4,690 บาทตามสไตล์ Xiaomi ที่เน้นผลิตสินค้าในราคาที่สบายกระเป๋า โดย Mi Air Purifier 2 สามารถจัดการกับมลภาวะฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กที่สร้างปัญหาสุขภาพ
ไทยเราจัดว่าอยู่ในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา นัยหนึ่งก็หมายถึงการมีมลพิษทางอากาศสูงกว่าปรกติ ถ้าอธิบายอย่างง่ายก็คือค่าเฉลี่ยต่อวันของ PM 2.5 ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดไว้คือ 25 แต่ไทยเราที่จัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาจึงได้รับข้อยกเว้นให้มีฝุ่นละอองสูงถึง 50 โดยเฉพาะในกรุงเทพที่มีการจราจรหนาแน่น และยังมีการก่อสร้างอีกหลายจุด
ข้อมูลจาก aqicn.org และ thestandard.co ทำให้รู้ว่าคนกรุงเทพต้องอยู่กับสภาวะมลพิษที่ค่อนข้างแย่ ในบางช่วงเวลามีค่ามลภาวะทางอากาศสูงถึง 93 และในช่วงที่ฝุ่นปกคลุมตัวเมืองก็เคยมีค่าสูงเกิน 200 ซึ่งตัวเลขนี้ทำให้เราควรหาวิธีป้องกันและดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากป้องกันหรือใช้เครื่องกรองอากาศ
การติดตั้งและใช้งาน Mi Air Purifier 2 ไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงแค่ใส่ไส้กรองและเปิดใช้งาน เพียงแต่ขาปลั๊กที่ให้มาเป็นแบบ 3 ขาที่บ้านเราไม่ใช้กัน แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าจะหาหัวแปลงมาใช้ และอันที่จริงแล้วคู่มือในกล่องก็เป็นภาษาจีน แต่ก็ไม่จำเป็นเท่าไรเพราะมันไม่มีอะไรซับซ้อน สามารถคาดเดาการใช้งานได้ง่าย
ไส้กรองมีอายุการใช้งานราวๆ 148 วันหรือราวๆ 5 เดือน โดยมีปุ่มควบคุมบนตัวเครื่อง 2 อย่างคือ ปุ่มปรับโหมดและปุ่มปรับระดับความสว่างของไฟ LED ที่ใช้แสดงสถานะ
ในการใช้งานครั้งแรกก็ให้โหลดแอพ Mi Home และตัวแอพก็จะจัดแจงช่วยให้เราทำการเชื่อมต่อ Mi Air Purifier 2 เข้ากับ WiFi และเมื่อเชื่อมต่อเสร็จเรียบร้อยก็จะพบว่าการควบคุมค่อนข้างเรียบง่าย คือการเปิด/ปิด และปรับระดับความแรงของการดูดอากาศเข้าไปกรอง โดยแบ่งเป็นโหมด Auto, Sleep และ Favorite และในยามค่ำคืนที่เรานอนหลับก็จะสลับเป็น Sleep ให้อัตโนมัติเพื่อให้มีเสียงพัดลมที่เบากว่า
เนื่องจากแถวที่อยู่อาศัยผมมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าและอาคารต่างๆ ทำให้มีฝุ่นเยอะมาก ในวันแรกที่ลองเปิด Mi Air Purifier 2 ใช้งานก็มีค่า PM 2.5 สูงถึง 47 แต่หลังจากเปิดให้เครื่องกรองทำงานระยะเวลาราว 15 นาทีก็มีค่าลดลงมาเหลือที่ 10 เท่านั้น ซึ่งผมที่เป็นมนุษย์ขี้โรค แพ้ฝุ่นแพ้อากาศ ก็รู้สึกได้เลยว่าหายใจได้สะดวกขึ้น
ส่วนเรื่องพื้นที่ความครอบคลุมก็ขึ้นอยู่กับความแรงที่เราตั้งไว้ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ได้สูงสุด 37 ตารางเมตร แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเสียงพัดลมที่ดังมากกว่าเดิม ซึ่งก็ไม่ได้ดังจนหนวกหูเหมือนเครื่องเซิฟเวอร์ แต่เป็นความดังที่ไม่ต่างจากการเปิดพัดลมแรงๆ
ด้านความเป็น Smart Home แบบที่ทำงานแบบอัตโนมัติคล้ายกับพวก IFTTT ยังไม่ง่ายนัก เนื่องจากบางส่วนของแอพยังเป็นภาษาจีน ทำให้ผมไม่สามารถตั้งค่าระบบอัตโนมัติได้เอง แต่อย่างไรก็ตามตัวแอพยังสามารถบอกอุณหภูมิและความชื้น รวมถึงอายุการใช้งานที่เหลือของไส้กรองด้วย
หลังจากใช้งานมาหลายวันก็ยังไม่เจอปัญหาหรือการทำงานที่ผิดพลาดแต่อย่างใด และด้วยราคาเพียง 4,690 บาทก็จัดว่า Mi Air Purifier 2 เป็นเครื่องกรองอากาศที่ฉลาดและคุ้มค่ามากๆ
ส่วนเรื่องการสั่งซื้ออาจจะยากสักนิด เนื่องด้วยสินค้าพึ่งเข้าไทยได้ไม่นาน แนะนำให้ลองถามจากร้าน Xiaomi Shop Thailand ดูครับ ร้านนี้เป็นสปอนเซอร์ให้กับ Mi Official Fansite ตั้งแต่ยุคบุกเบิกเลย ดังนั้นไว้ใจได้แน่นอน
