เมื่อหลายปีก่อนผมสนใจการทำสมาร์ทโฮมและได้สรรหาวิธีต่างๆ ในการเติมเต็มความฝัน แต่แผนก็ต้องล้มเลิกลงไปเพราะเวลานั้นของแต่ละอย่างยังมีราคาสูงและตั้งค่ายากมาก จนถึงตอนนี้มีของง่ายๆ แม้แต่หลอดไฟอย่าง Philips hue ที่ให้เราปรับแสงสีได้จากมือถือสมาร์ทโฟน
Philips hue ที่ผมเลือกใช้คือ Starter kit A60 ซึ่งประกอบไปด้วยตัว hue bridge ทำหน้าที่เป็นตัวควบคุม โดยการสื่อสารแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือตัว hue bridge ต้องต่อผ่านสาย LAN เข้ากับ Router และส่งสัญญาณ WiFi 2.4 GHz ไปยังหลอดไฟทั้งหมด 3 ดวงที่มีความสว่าง 806lm
ซึ่ง WiFi 2.4 GHz อาจจะดูไม่ล้ำเป็น 5 GHz เหมือนบนอุปกรณ์ใหม่ๆ เช่นมือถือและโน๊ตบุ๊ค แต่ในความเป็นจริงแล้วอุปกรณ์แนว Smarthome และ IoT หลายชิ้นเลือกใช้ความถี่นี้เพราะส่งสัญญาณได้ครอบคลุมกว่า
สิ่งที่ Philips hue ทำได้ก็ค่อนข้างหลากหลายเช่น การปรับความสว่าง, ปรับสี,และยังรองรับ IFTTT อีกด้วย โดยสีที่มีให้ปรับก็มากถึง 16 ล้านสีที่ปรับให้แต่ละหลอดมีสีและความสว่างต่างกันได้ โดยควบคุมผ่าน Android, iOS, macOS และ Windows ได้ นอกจากนี้ยังมีแอพ 3rd Party ที่มีนักพัฒนาทำออกมาเสริมอีกหลายตัว เพื่อให้ปรับแต่งได้โดนใจยิ่งขึ้น
การสั่งงานด้วยเสียงสามารถใช้ร่วมกับ Siri และ Google Assistant ได้ด้วย เช่น “หวัดดีสิริ เปลี่ยนไฟสีส้ม” มันก็จัดการให้เสร็จสรรพ และยังมีสิ่งที่เรียกว่า Entertainment zone ที่ให้เลือกปรับตำแหน่งหลอดไฟแต่ละดวง จากนั้นจะทำการ Sync ตามหนังหรือเพลงที่ฟัง อารมณ์คล้ายๆ นั่งอยู่ในร้านอาหารหรือผับที่มีแสงสีสลับไปมาทำนองนั้น …เพลินมาก
หรือจะตั้งค่าตามพิกัดตำแหน่งเราก็ได้เช่นกัน ประเภทว่าเดินเข้าใกล้ระยะตัวบ้านก็เปิดไฟรอเลย หรือเดินออกจากบ้านก็สั่งปิดไฟเพื่อความประหยัด และถ้ามองว่าการควบคุมผ่านมือถือไม่ใช่เรื่องสะดวก ก็สามารถหาซื้อปุ่มสวิตควบคุมมาใช้งานได้เช่นกัน ในราคา 840 บาท รวมถึงรูปแบบหลอดไฟที่มีให้เลือกหลายแบบตามความต้องการ
แม้ว่าราคาจะสูงกว่าหลอดไฟทั่วไปอยู่ไม่น้อยด้วยราคา 1,790 บาท หรือเป็น Starter kit แบบในรีวิวนี้ก็ชุดละ 6,990 บาท แต่ถ้าต้องการหลอดไฟที่สมาร์ทและมากกว่าแค่การสั่งเปิด-ปิด ก็จัดว่า Philips hue เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ
สำหรับการเลือกซื้อ ถ้าไม่สะดวกไปดูที่ร้านก็สามารถสั่งผ่าน Philips Official Store ที่ Lazada ได้ครับ
