vivo V7+ มือถือครบรสในงบราวหมื่น

vivo V7+ มือถือครบรสในงบราวหมื่น 3
ช่วงปี 2017 มือถือราคาราวหมื่นได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องด้วยประสิทธิภาพที่เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป ทำให้หลายแบรนด์หันมาเน้นช่วงราคานี้รวมถึง vivo V7+ ด้วย และถ้าสังเกตให้ดีก็จะเห็นว่าช่วงราคามือถือส่วนใหญ่มากองราวๆ 8,000-15,000 บาท แล้วก็กระโดดไปช่วง 22,000-25,000 บาท และก็ข้ามไปแตะแถวๆ 30,000 บาทกันเลย

Highlight

มือถือราคาราวหมื่นที่จัดว่าน่าใช้ในช่วงปลายปี 2017 แม้จะไม่จัดเต็มสุดสักทางแต่ในภาพรวมแล้วทำได้น่าสนใจมาก ครบเครื่องทั้งหน้าจอแบบ 18:9 ระบบสแกนใบหน้าและนิ้วมือ ความลื่นไหลและกล้อง

จุดเด่นหลักของ vivo V7+ คืออัตราส่วนหน้าจอแบบ 18:9 ตามสมัยนิยมที่ทางต้นสังกัดตั้งชื่อไว้ว่า FullView Display ซึ่งให้ความรู้สึกเสมือนว่าแสดงผลได้เต็มตามากขึ้น แต่ในทางกลับกันหน้าจออัตราส่วนนี้ก็ยังมีปัญหากับบางแอพหรือบางเกม รวมถึงการดูหนังที่ส่วนใหญ่เป็นอัตราส่วน 16:9 ทำให้ภาพไม่เต็มจอหรืออัตราส่วนผิดเพี้ยนไป อย่างบางเกมก็จะพบปัญหาตำแหน่ง Text แสดงผลผิดเพี้ยน ซึ่งก็ต้องรอให้ทางนักพัฒนาปรับตัวกันต่อไป

คนส่วนใหญ่มักเอาประเด็นเรื่องอัตราส่วน 18:9 ไปยำรวมกับเรื่องอัตราส่วนขนาดจอและตัวเครื่อง ซึ่งที่จริงแล้วมันไม่เกี่ยวกันซะทีเดียว แต่กรณีของ vivo V7+ ก็มีอัตราส่วนอยู่ที่ 84.4% หรือพูดง่ายๆ ก็คือพื้นที่ด้านหน้าเป็นส่วนของหน้าจอเกือบทั้งหมด

ด้านความละเอียด HD+ บนหน้าจอขนาด 5.99 นิ้วกับการใช้งานจริงก็ไม่เลวร้ายอะไร และข้อดีอีกอย่างก็คือเราสามารถซ่อนปุ่ม Navigation bar ด้านล่างได้ แล้วใช้วิธีสั่งการด้วยการปัดนิ้วจากขอบจอแทน ทำให้มีพื้นที่แสดงผลข้อมูลมากขึ้นไปอีกvivo V7+ มือถือครบรสในงบราวหมื่น 5
vivo V7+ มือถือครบรสในงบราวหมื่น 7

เรื่องของความเร็วอาจเป็นสิ่งที่หลายคนข้องใจเนื่องจากพี่ท่านใส่มาให้แค่ Snapdragon 450 ซึ่งราคานี้ควรจะได้ 600 series ขึ้นไป แต่อาจเป็นเพราะหน้าจอที่ไม่ละเอียดเต็บสูบและ vivo ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นค่ายที่ทำรอมได้ลื่น จึงทำให้รุ่นนี้เล่นได้ทุกเกมที่คนนิยมกัน เรียกได้ว่าตั้งแต่ใช้งานมาราวๆ เดือนนึงยังไม่พบการการกระตุกใดๆ ให้เห็นเลย

ความดีงามอีกอย่างก็คือรุ่นนี้มี Game Mode ที่จะปิดการแจ้งเตือนทั้งหมดให้แสดงผลเฉพาะสิ่งสำคัญ โดยโชว์เป็น Pop Up เล็กๆ ด้านบนเท่านั้น

สิ่งหนึ่งที่ผมพูดแทบทุกครั้งที่หยิบ vivo มาเล่นก็คือการจับภาพหน้าจอแบบ long screenshot รวมถึงการถ่ายวีดีโอหน้าจอ ที่ต้องบอกว่าค่ายนี้เป็นต้นตำรับก่อนที่คู่แข่งจะทำตาม

สิ่งหนึ่งที่ vivo V7+ ทำตามสมัยนิยมคือการปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้า ซึ่งที่จริงแล้วต้องบอกว่าเบื้องหลังการทำงานมันคือระบบที่โบราณมาก อยู่บน Android 4.0 และมันไม่ปลอดภัยบวกกับใช้งานยาก ทำให้ Google ถอดออกไปจนกระทั่ง Samsung หยิบมาใส่ใหม่ แต่ถ้าไปอ่านที่หน้าเว็บ Samsung หรือข้อความเตือนในตัวแอพที่ Google ใส่ไว้ก็จะมีระบุไว้ว่าการสแกนใบหน้าเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับรูปแบบอื่น

แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องชื่นชม vivo V7+ ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีในแง่การสแกนที่แม่นยำ ปลดล็อกได้ง่าย และก็ต้องขอบคุณที่ยังเก็บที่สแกนนิ้วมือไว้ในตำแหน่งที่ใช้งานได้ง่าย เพราะหลายๆ ครั้งพบว่าการสแกนนิ้วทำได้สะดวกกว่าvivo V7+ มือถือครบรสในงบราวหมื่น 9
vivo V7+ มือถือครบรสในงบราวหมื่น 11

สิ่งที่หลายคนอยากได้และ vivo ก็จัดให้คือถาดซิมแบบ 2 ซิมบวกกับ microSD ที่รวมเป็น 3 ช่อง ไม่ใช่แบบ Hybrid Slot ที่ต้องเลือกว่าจะใช้ 2 ซิมหรือใส่ microSD นอกจากนี้ซิมที่ 2 ยังรองรับ 3G อีกด้วย นอกจากนี้ vivo V7+ ยังมีการอัพเดท Software อยู่เป็นระยะ ซึ่งเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

เรื่องกล้องจัดว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างของค่ายนี้ ในลักษณะของความเป็น Beauty ซึ่งรุ่นนี้ก็ใส่แฟลชที่กล้องหน้า พร้อมกับโหมด Portrait ทำให้ถ่ายรูป Selfie หน้าชัดหลังเบลอได้แม้เป็นกล้องเดี่ยว ส่วนกล้องหลังก็ยังคงมี Manual Mode มาให้เช่นเคย ด้านอัตราส่วนภาพก็สามารถเลือกแบบ 18:9 ที่แสดงผลเต็มจอได้ด้วย

vivo V7+ มือถือครบรสในงบราวหมื่น 13vivo V7+ มือถือครบรสในงบราวหมื่น 15

ในภาพรวมแล้วจัดว่า vivo V7+ เป็นอีกรุ่นที่คุ้มค่าน่าใช้ในราคาประมาณหมื่น ทั้งในแง่ของรูปทรง ความลื่นไหล และกล้อง ซึ่งหลายคนอาจจะลังเลเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Huawei nova 2i ที่ใส่กล้องมาถึง 4 ตัว แต่ถ้าเทียบในแง่ประสิทธิภาพความเร็วเมื่อใช้เล่นเกมแล้ว ดูเหมือนว่าฝั่ง vivo จะทำได้น่าสนใจกว่านั่นล่ะ ก็อยู่ที่ว่าจะเน้นใช้งานด้านไหนล่ะน๊า