ผลสำรวจจาก Microsoft ชี้คนไทยมีไลฟ์สไตล์การทำงานแบบนินจาซุ่มเงียบ ชอบความอิสระและทำงานได้ทุกที่

จากผลสำรวจที่จัดทำขึ้นโดย Microsoft ประเทศไทย ผ่านเกมทดสอบความเป็นตัวเองในที่ทำงาน (Personality Test) โดยแบ่งไลฟสไตล์การทำงานออกเป็นทั้งหมด 7 ประเภท โดยมีผู้เข้าร่วมเล่นจำนวนมากกว่า 1,000 คน จากทั่วประเทศไทย พบว่า 

  • 20 % เป็น ไอเดียตัวแม่ ไอเดียตัวพ่อ (The Ideamaker)
  • 21% เป็น ครูเจ้าระเบียบ ฝ่ายปกครองมาเอง (The Ruler)
  • 10% เป็น เดอะบอส (The Executive)
  • 7% เป็น นักบุญ แม่พระ (The Guardian)
  • 12% เป็น หน่วยข่าวกรอง (The Socialite)
  • 28% เป็น นินจาซุ่มเงียบ (The Ninja)
  • 2% เป็น รุ่นเดอะ AKA เดอะไดโนเสาร์ (The Dinosaur)

ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเป็นกำลังพื้นฐานในการทำงานของผู้คนในยุคปัจจุบัน เทรนด์การทำงานร่วมกัน (Collaboration) จึงเปลี่ยนแปลงไปภายใต้คอนเซ็ปต์ Independent but Collaborative ซึ่งหมายความว่าผู้คนหันมาใส่ใจพื้นที่ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการทำงานมากยิ่งขึ้น แต่การหันมามีพื้นที่ส่วนตัวในครั้งนี้ก็ไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานให้ลดลงแต่อย่างใด เพียงแต่ผู้คนหันมาใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์การทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

โดยในแบบสอบถามยังได้แบ่งกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามออกเป็นทั้งหมด 4 เจอเนอเรชั่น ได้แก่ กลุ่มเบบี้บูมเมอร์, กลุ่มเจนเนอเรชั่น X, Y และ เจเนอเรชั่น Z  โดยหลังจากได้นำผลสรุปที่ได้มาวิเคราะห์ จะเห็นถึงข้อบ่งชี้ที่ว่าเทรนด์การทำงานบนโลกแห่งยุคอนาคตใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนำไปสู่เทรนด์ในการทำงานปี 2020 ได้ตามข้อสรุปดังต่อไปนี้

นินจาไทย เก่งกาจกว่าใครในยุค 2020

จากผลสำรวจพบว่า ทุกเจเนอเรชั่นได้ผลสรุปอันดับหนึ่งออกมาเป็นไลฟสไตล์การทำงานแบบ ‘นินจา’ คิดเป็นจำนวนกว่า 28% จากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ซึ่งสอดคล้อง ไปกับเทรนด์การทำงานบนโลกยุคดิจิทัล ได้แก่ การที่ผู้คนชอบทำงานบนพื้นที่ความเป็นอิสระและความเป็นส่วนตัวของตนเองมากยิ่งขึ้น หรือสามารถเรียกในอีกมุมหนึ่งได้ว่าผู้คนเริ่มหันมานิยมไลฟสไตล์การทำงานแบบ Mobile Working นั่นหมายถึง การที่คุณสามารถทำงานจากที่ไหนบนโลกก็ได้ เพียงแค่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเท่านั้น โดยคุณเองยังสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดอีกด้วย

เจ้าแม่ระเบียบจัด ที่จัดสรรชีวิตแบบไฮเทค

ลำดับต่อมา จากผลสำรวจในแต่ละเจนเนอเรชั่น พบว่า 31% ในกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ และ 22 % ในกลุ่มเจนเนอเรชั่น X ได้ข้อสรุปลำดับที่สองว่ามีไลฟ์สไตล์การทำงานแบบ ‘ครูเจ้าระเบียบ’ ซึ่งก็เปรียบได้ว่ากลุ่มคนในช่วงอายุนี้ยังคงรักษาระบบการทำงานแบบดั้งเดิมเอาไว้ โดยมีการยึดกฎเกณฑ์และการทำงานขององค์กรเป็นหลัก เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินงานโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วย เช่น การเริ่มใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานหรือชิ้นงานของตนเองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เป็นต้น 

ไอเดียบรรเจิด โก้ หรูกว่าใคร ต้องยกให้เจน Y และ เจน Z

ในขณะเดียวกัน จากผลสำรวจในแต่ละเจนเนอเรชั่น พบว่า 21% ของทั้งกลุ่มเจเนอเรชั่น Y และ Z ได้ผลลัพธ์รวมอันดับสองออกมาเท่ากัน เป็นไลฟสไตล์การทำงานแบบ ‘ไอเดียตัวแม่ และไอเดียตัวพ่อ’ สอดคล้องไปกับวิถีการทำงานของกลุ่มวัยรุ่นในยุคปัจจุบันที่มีอิสระทางความคิด มีไอเดียใหม่ๆและไฟในการทำงานอยู่เสมอ ซึ่งผู้ที่มีไลฟ์สไตล์การทำงานเช่นนี้ มักที่จะชอบต่อยอดไอเดียของตัวเองให้ไปจนถึงจุดสูงสุดเพื่อหาค้นหาคำตอบในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

ผลสำรวจจาก Microsoft ชี้คนไทยมีไลฟ์สไตล์การทำงานแบบนินจาซุ่มเงียบ ชอบความอิสระและทำงานได้ทุกที่ 3

จากผลสำรวจดังกล่าว จึงสามารถกล่าวได้ว่า ไม่ว่าทุกคนจะอยู่ในเจเนอเรชั่นไหน แต่ด้วยโลกใบใหม่ที่ขับเคลื่อนไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผู้คนจึงให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีมากขึ้น การทำงานใน Workplace จึงเริ่มเปลี่ยนแปลงไปผ่านการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการปรับปรุงวิถีการดำเนินงาน เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้กับชิ้นงานของตนเอง

คำตอบสุดท้ายของเครื่องมือยุคใหม่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การทำงานในแพลตฟอร์มเดียว

Microsoft Teams ถือเป็นเครื่องมืออีกชนิดหนึ่งที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในองค์กรไทยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นองค์การทำงานขนาดเล็กจนไปถึงขนาดใหญ่ โดย Teams เป็นเครื่องมือการทำงานร่วมกันทั้งสำหรับทั้งคนในองค์กรและคนนอกองค์กร แต่เน้นความปลอดภัย คล่องตัว และปรับใช้ได้อย่างเฉพาะตัวตามวิถีการใช้งานของแต่ละบุคคล เพื่อยกระดับการทำงานในชีวิตยุคนี้อย่างแท้จริง

และจากแนวโน้มของวิถีการทำงานที่ได้ข้อสรุปมาเบื้องต้น Microsoft Teams จึงถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดที่จะทำให้ชีวิตการทำงานแบบเดิมๆของคุณเปลี่ยนแปลงไป จากการที่ต้องนั่งโต๊ะทำงานทั้งวัน เปลี่ยนเป็นการทำงานร่วมกันจากที่ไหนก็ได้ ด้วยฟีเจอร์ดีๆของ Microsoft Teams นี้เองที่จะมาช่วยตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน อาทิ

  • เป็นเครื่องมือการสื่อสารที่สามารถ แชท วีดีโอคอล แชร์และแก้ไขงานพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แบบเรียลไทม์ ไม่ต้องมานั่งง้อให้มาเจอกันครบทุกคน ทีนี้หมดข้ออ้างในการขาดประชุมไปได้เลย!
  • เป็นเครื่องมือที่มีความปลอดภัยระดับสูง ใครก็ไม่สามารถเข้าทีมส์ของคุณได้หากคุณไม่อนุญาต ดังนั้นจงมั่นใจว่าข้อความหรือไฟล์งานของคุณจะถูกเก็บไว้ พร้อมฟีเจอร์ Private Channel กลุ่มลับเฉพาะที่มีคุณเท่านั้นที่จะเชิญหรือลบสามาชิก !
  • เป็นเครื่องมือที่รวบรวมแอปพลิเคชันไว้ได้เยอะที่สุดเพื่อช่วยคุณในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นแอปฯพื้นฐานที่มีอยู่บน Office 365 เช่น Microsoft Word, Excel, PowerPoint หรือพื้นที่ไว้ละเลงไอเดียอย่าง OneNote ตลอดจนแอปพลิเคชันอื่นๆอีกมายมายที่คุณสามารถดาวน์โหลดเพิ่มเข้ามาได้เอง รวมทั้งฟีเจอร์ Powered App แอปฯ เฉพาะสำหรับองค์กรของคุณ 
  • เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้วางแผนชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการแพลนงานระหว่างวันของตนเองผ่านฟีเจอร์ Calendar หรือแม้กระทั่งเช็คตารางงานกลุ่มเพื่อนในทีมผ่าน Planner
  • ที่สำคัญ ไมโครซอฟท์ ทีมส์ ยังเป็นเครื่องมือที่เรียกได้ว่า Mobile Friendly สุดๆ คือสามารถใช้งานได้ทั้งจากหลายหลายดีไวซ์ ไม่ว่าจะเป็น โน๊ตบุ๊ค สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ Wearable ต่างๆ งานนี้จิบกาแฟไป นั่งทำงานไป ใช้ชีวิตได้คุ้มค่าที่สุด !

ดาวน์โหลด Microsoft Teams ได้จากที่นี่ เพื่อทดลองใช้กันแบบฟรีๆ หรือจะสอบถามมายังเฟสบุคของไมโครซอฟท์ประเทศไทย