แนะนำ HUAWEI Wearable เด่น 5 รุ่น ครึ่งปีแรก 2019
สำหรับใครกำลังมองหา Wearable จำพวก Smart Watch ที่เน้นการแจ้งเตือนหรือตรวจวัดพฤติกรรมการนอนและออกกำลังกาย แล้วยังตัดสินใจไม่ถูก วันนี้ผมมีคำแนะนำสำหรับการเลือกซื้อ HUAWEI Wearable ทั้งหมด 5 รุ่น
HUAWEI Watch GT
นาฬิกาอัจฉริยะที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงามแบบคลาสสิกด้วยหน้าปัดกลมขนาดใหญ่ จอ AMOLED ที่สู้แสงอาทิตย์ตอนกลางวันได้สบายๆ ควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัสและปุ่มสองปุ่มเท่านั้น จึงเรียนรู้การใช้งานได้ง่ายมากๆ
HUAWEI Watch GT จะมี 2 ขนาดให้เลือก โดยรุ่น Active, Sport และ Classic จะมาพร้อมขนาดหน้าปัด 46 มม. กับดีไซน์ที่คล้ายคลึงกันโดยมีจุดต่างกันที่ตัวเลขรอบหน้าปัด ส่วนรุ่น Elegant จะมีขนาดหน้าปัดเล็กกว่าที่ 42 มม. สำหรับคนข้อมือเล็ก และดีไซน์จะดูเรียบกว่า
และอีกส่วนที่ผมชอบมากๆ คือความง่ายในการเปลี่ยนสาย เพียงแค่ดันสลักด้านในของสาย ก็สามารถเปลี่ยนสไตล์ได้แบบไม่จำเจ
หน้าปัดก็เปลี่ยนได้หลายรูปแบบ โดยมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ และมีอัพเดทเพิ่มเรื่อยๆ
ความสามารถของเจ้าตัวนี้ก็ครบครันทั้งการใช้เป็นอุปกรณ์เสริมของโทรศัพท์ สามารถอ่านการแจ้งเตือนต่างๆ ได้จากหน้าปัดนาฬิกา สามารถอ่านภาษาไทยได้ด้วย โดยเวลาแจ้งเตือนเข้า นาฬิกาจะสั่นให้เราทราบ ไม่ต้องเปิดเสียงมือถือรบกวนใคร และไม่ต้องกลัวพลาดทุกการแจ้งเตือน
และแน่นอนว่ารองรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนโทรเข้า หรือถ้าไม่อยากรับสาย สามารถกดตัดสายได้ทันที
และอีกความสามารถที่ผมชอบมากคือความสามารถในการตามหามือถือ หากนาฬิกาเชื่อมต่อ Bluetooth กับมือถืออยู่ ก็สามารถสั่งให้มือถือส่งเสียงออกมาได้ ลืมเปิดเสียงก็ไม่ต้องกลัวหาไม่เจอ
ด้านฟีเจอร์ด้านออกกำลังกายของ HUAWEI Watch GT ก็ถือว่าครบถ้วน นอกจากฟีเจอร์พื้นฐานอย่างการนับก้าวและวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ Real-time ก็ยังรองรับการติดตามการออกกำลังกายได้ถึง 11 ชนิด รวมถึงการใส่ว่ายน้ำและออกกำลังกายแบบไตรกีฬาอีกด้วย มี GPS ในตัว ไม่จำเป็นต้องพกมือถือระหว่างออกกำลังกาย
โหมดออกกำลังกายที่มีให้เลือก มีดังนี้
- Running Courses
- Outdoor Run
- Indoor Run
- Outdoor Walk
- Climb
- Trail Run
- Outdoor Cycle
- Indoor Cycle
- Pool Swim
- Open Water
- Triathon
โดยข้อมูลการออกกำลังกายจะถูกบันทึกและนำข้อมูลมาวิเคราะห์เป็นสถิติต่างๆ ให้เราดูและวางแผนออกกำลังกายได้ และสามารถส่งข้อมูลออกกำลังกายไปยังแอป Google Fit และ MyFitnessPal ได้ด้วย
สำหรับผู้ชื่นชอบการว่ายน้ำ HUAWEI Watch GT กันน้ำได้ 5 ATM ใส่ว่ายน้ำได้
ออกกำลังกายแล้วก็ต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพอ HUAWEI Watch GT มาพร้อมฟีเจอร์ HUAWEI TruSleep ที่จะวัดการนอนพร้อมวิเคราะห์ข้อมูลและแนะนำให้เราพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ มีแรงทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตลอดทั้งวัน
นอกจากการออกกำลังกายแล้ว Watch GT ยังออกแบบมาเพื่อนักท่องเที่ยวและผจญภัย มาพร้อมฟีเจอร์อย่างเข็มทิศ, บารอมิเตอร์ รวมถึงฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากๆ คือ ไฟฉาย ที่จะใช้วิธีเปิดหน้าจอเป็นสีขาว ซึ่งให้ความสว่างระดับใช้งานได้เลยทีเดียว
จุดที่สร้างความแตกต่างให้ HUAWEI Watch GT จากนาฬิกาอัจฉริยะแบรนด์อื่นๆ คือการที่ใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเองที่ถูกปรับแต่งมาให้ประหยัดแบตเตอรี่แบบสุดๆ ทำให้ใช้งานได้นานสุดถึง 2 สัปดาห์ต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้งสำหรับรุ่น Classic/Sport/Active และ 1 สัปดาห์สำหรับรุ่น Elegant กินขาดเหล่าสมาร์ทวอทช์แบรนด์อื่นๆ ที่มักจะอยู่ได้เต็มที่สุดๆ ก็หนึ่งสัปดาห์
สำหรับการชาร์จ จะใช้วิธีวางบนแท่นชาร์จแม่เหล็กที่ใช้คุณสมบัติแม่เหล็ก หากพอร์ตชาร์จไม่ตรง นาฬิกาจะถูกดันออก เมื่อหมุนจนตรงจะดูดเข้าหากันเอง ทำให้การชาร์จเป็นเรื่องง่ายมาก
HUAWEI Watch GT จึงเป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่มีฟีเจอร์พื้นฐานครบถ้วน มาพร้อมหน้าตาที่สวยงามคลาสสิค ใส่ได้ในทุกโอกาส ติดตามการออกกำลังกายได้อย่างครบครัน พร้อมแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องคอยพะวงเรื่องชาร์จ
HUAWEI Band 3 Pro
สำหรับใครที่ไม่อยากใส่นาฬิกาเรือนใหญ่โต HUAWEI Band 3 Pro เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ มาพร้อมจอ AMOLED ขนาด 0.95 นิ้ว สว่างไสวสู้แสงแดดในตอนกลางวัน มีน้ำหนักเบาหวิวเพียง 25 กรัม ควบคุมด้วยจอสัมผัสและปุ่มสัมผัสหนึ่งปุ่ม หรือจะใช้การสะบัดข้อมือเพื่อเปลี่ยนหน้าจอก็ได้
ตัวหน้าปัดสามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ตามสไตล์ของแต่ละคน
HUAWEI Band 3 Pro ยังคงฟีเจอร์การออกกำลังกายจากพี่ใหญ่ Watch GT มาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ Real-time นับก้าว และติดตามการออกกำลังกายในแบบต่างๆ กว่า 8 รูปแบบ ดังนี้
- Outdoor Run
- Indoor Run
- Outdoor Walk
- Outdoor Cycle
- Indoor Cycle
- Pool Swim
- Open Water
- Free Training
มี GPS ในตัว ไม่ต้องพกมือถือไปด้วย คำนวณเอฟเฟกต์จากการออกกำลังกายอัตโนมัติรวมถึงค่า VO2 Max และเวลา Recovery สามารถส่งข้อมูลการออกกำลังกายไปยังแอป Google Fit และ MyFitnessPal ได้เช่นกัน และยังกันน้ำได้ในระดับ 5 ATM สามารถใส่ว่ายน้ำได้ด้วย
ฟีเจอร์ด้านการนอนก็เรียกว่าถอดแบบจาก Watch GT มาใส่เลย ด้วย HUAWEI TruSleep ติดตามการนอนพร้อมวิเคราะห์ผลเพื่อให้เราปรับพฤติกรรมการนอนให้สดชื่นแจ่มใสตลอดทั้งวัน
Band 3 Pro ยังสามารถส่งการแจ้งเตือนและสายเข้าไปยังหน้าจอนาฬิกาได้เช่นเดียวกับรุ่นพี่ แต่ยังไม่รองรับภาษาไทย และมีพื้นที่แสดงผลที่น้อยกว่ามาก
เมื่อเปิดแอปกล้องในโทรศัพท์ เราสามารถใช้เจ้า Band 3 Pro แทนปุ่มชัตเตอร์บนโทรศัพท์ได้เลย เหมือนมีชัตเตอร์ Bluetooth อยู่กับตัวตลอดเวลา ถ่ายเซลฟียืดแขนสุดก็ไม่ต้องกลัวจะกดชัตเตอร์ไม่ได้
สำหรับการชาร์จแบต จะมีแท่นชาร์จที่เพียงดันสลักต่างๆ ให้เข้าล็อกก็จะชาร์จได้แล้ว
HUAWEI Band 3 Pro จึงเป็นสมาร์ทแบนด์ที่มีฟีเจอร์น้องๆ รุ่นพี่ HUAWEI Watch GT เลย และมีจุดเด่นที่น่าสนใจคือการใช้งานเป็นรีโมทชัตเตอร์
HUAWEI Band 3e
รุ่นน้องเล็กที่เล็กแต่ขนาดแต่ฟีเจอร์ไม่เล็กตาม มาพร้อมหน้าจอ PMOLED ขนาด 0.5 นิ้ว ขาวดำ น้ำหนักเพียง 6 กรัมเท่านั้น เรียกว่าเบากว่าสายรัดข้อมือที่มีน้ำหนักถึง 11 กรัมอีก การควบคุมใช้ปุ่มสัมผัสหนึ่งปุ่มและการสะบัดข้อมือ
HUAWEI Band 3e สามารถใช้งานได้ 2 โหมด โหมดแรกคือใส่สายแล้วใส่ที่ข้อมือเหมือนสมาร์ทแบนด์ทั่วไป อีกโหมดคือติดกับรองเท้าสำหรับนักวิ่ง เพราะจะสามารถวัดและวิเคราะห์ท่าทางการวิ่งได้ด้วย โดยจะมีอะแดปเตอร์สำหรับติดรองเท้าแถมมาในกล่องเลย
ตัวนี้ HUAWEI ได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยระดับมืออาชีพ ควบคู่กับการใช้ Gyroscope 6 แกน เพื่อให้การวัดค่าออกมาอย่างแม่นยำที่สุดถึง 97% วัดได้ไม่ว่าจะเป็นมุมในการก้าว ระยะก้าวเท้า จนถึงแรงที่ย่ำเท้า
และยังกันน้ำลึก 50 เมตร ใส่ว่ายน้ำได้ด้วย
ระบบวิเคราะห์การนอน ยังมีในตัวนี้เช่นกัน
ตัวนี้สามารถรับการแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ได้เหมือนรุ่นพี่ เพียงแต่ไม่สามารถแสดงข้อความต่างๆ ได้ แสดงเป็นไอคอนรูปข้อความได้อย่างเดียวเท่านั้น โดยเมื่อแจ้งเตือนเข้าจะสั่นเช่นกัน และไม่สามารถแจ้งเตือนเวลาสายเข้าได้
และยังมีฟีเจอร์ตามหาโทรศัพท์ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของ Wearable จาก HUAWEI เลย
สำหรับแบตเตอรี่ ตัวนี้สามารถใช้งานได้สูงสุด 14 วัน การชาร์จจะต้องถอดออกจากสายก่อน เสียบเข้ากับอะแดปเตอร์ที่สามารถต่อเข้าที่ชาร์จมือถือ, พาวเวอร์แบงค์หรือคอมพิวเตอร์ได้เลย
HUAWEI Band 3e ออกแบบมาเพื่อนักวิ่งที่ต้องการนำข้อมูลการวิ่งของตัวเองมาวิเคราะห์ สามารถติดกับรองเท้า พร้อมความสามารถในการวัดค่าที่แม่นยำถึง 97% พร้อมกับโบนัสเสริมเป็นฟีเจอร์ทั่วไปที่ Smart band ควรมี ไม่ว่าจะเป็นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ วิเคราะห์การนอน จนถึงแจ้งเตือนในโทรศัพท์