รีวิว Realme 3 Pro สเปกดีเกินราคา กล้องสวย เล่นเกมลื่นด้วย Snapdragon 710
Realme เป็นบริษัทสมาร์ทโฟนน้องใหม่ที่ก่อตั้งมาได้ราว ๆ หนึ่งปี โดยคุณ Sky Li หนึ่งในทีมบริหารของ OPPO ได้แยกตัวออกมาเป็น CEO ของบริษัท Realme พร้อมกับมีทีมงานจำนวนหนึ่งติดตามมาด้วย ถึงแม้ว่าจะแยกตัวออกมาจาก OPPO แล้วแต่การดีไซน์และเทคโนโลยีบางส่วนนั้นยังคงใช้ร่วมกับ OPPO อยู่ และบริษัท Realme ก็เป็นหนึ่งใน Subsidiaries ของ BBK Electronics เช่นเดียวกับแบรนด์ OPPO Vivo และ OnePlus
Realme นั้นถูกวาง position ทางการตลาดสำหรับจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักในเทคโนโลยีและต้องการสิ่งที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป ซึ่งตอนนี้เอง Realme 3 Pro ที่เป็นรุ่นอัปเกรดของ Realme 3 ก็ได้เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 6,999 บาทเท่านั้น (สำหรับรุ่น 4+64GB)
สเปก
- ชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon 710
- RAM 4 GB และ 6 GB
- Storage สำหรับรุ่น RAM 4 GB มีความจุ 64 GB สำหรับรุ่น RAM 6 GB มีความจุ 128 GB รองรับ microSD ความจุสูงสุด 256 GB)
- จอแสดงผลขนาด 6.3 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9 ความละเอียด FHD+ 2340×1080 พิกเซล พิกเซล พร้อมกระจก Gorilla® Glass 5
- กล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ขนาดเซนเซอร์ 1/2.8 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.8μm พร้อม AI Beautification
- กล้องหลังคู่ กล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 กล้องตัวที่สองความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 พร้อม AI ช่วยถ่ายภาพและระบบโฟกัสแบบ Dual Pixel
- แบตเตอรี่ 4045 mAh รองรับตัวชาร์จ 5V 4A
- ระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง
- ระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ที่ครอบทับด้วย ColorOS 6.0
- Bluetooth 5.0
- พอร์ตแบบ Micro USB
Unbox กล่องดีไซน์สวยงาม ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น
ต้องบอกเลยว่ารีวิวสมาร์ทโฟนมาหลายเครื่อง แพ็คเกจของ Realme 3 Pro จัดว่าดูดีมาก ๆ ทั้งฟอนต์บนฝากล่อง และสีตัวอักษรกับกล่อง ซึ่งภายในกล่องนอกจากตัวเครื่องนั้นประกอบไปด้วย อแดปเตอร์ชาร์จ 5V4A, สาย Micro USB, ใบรับประกัน, คู่มือ, เข็มจิ้มถาดใส่ SIM Card, ฟิล์มหน้าจอ และเคสกันกระแทก
ดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยฝาหลังแบบ S Curve
ฝาหลังของ Realme 3 Pro นั้นถูกดีไซน์ลวดลายเป็นเส้นโค้งที่มีลักษณะคล้ายกับรูปตัว S หลาย ๆ เส้นพาดจากขอบด้านบนยาวไปจนถึงขอบด้านล่างฝั่งตรงข้าม ซึ่งได้แรงบัลดาลใจในการออกแบบมาจากการแข่งขันรถยนต์ Le-Mans และสีของฝาหลังนั้นยังมีการไล่เฉดสีเวลาเอียงตัวเครื่องกระทบกับแสงมุมต่าง ๆ ตามเทรนด์ของสมาร์ทโฟนหลาย ๆ รุ่นในปัจจุบัน
บริเวณรอบ ๆ เลนส์กล้องตัวบนนั้นถูกตกแต่งด้วยวงแหวนสีทองที่ซ้อนกันอยู่ 2 วง
หน้าจอสีสันสวยงาม รองรับระบบ HDR
Realme 3 Pro มาพร้อมกับหน้าจอที่มีรอยบากรูปทรงหยดน้ำ ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 19.5:9
สิ่งที่เซอร์ไพรส์ในรุ่นนี้ก็คือหน้าจอรองรับระบบ HDR ด้วย ซึ่งส่วนตัวแล้วผู้เขียนไม่เคยเจอสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 10,000 บาทมีหน้าจอรองรับระบบ HDR มาก่อน
ทดลองดูวิดีโอ HDR บน YouTube สีสันสวยงามแถมภาพคมชัดใช้ได้เลยทีเดียว
แต่น่าเสียดายที่ Widevine DRM ของ Realme 3 Pro อยู่ที่ระดับ L3 เท่านั้น ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ของจอ HDR ในการดู Netflix ได้ แถมยังดูที่ความละเอียด HD ไม่ได้อีกด้วย
ColorOS 6.0 ที่หน้าตาดูทันสมัยสวยงามมากกว่าเดิม
Realme 3 Pro มาพร้อมกับ ColorOS 6.0 ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 9 Pie
UI ในเวอร์ชั่นนี้ถูกปรับปรุงให้สวยงามและทันสมัยมากยิ่งขึ้น สมกับที่ต้องการจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่
ในส่วนของ Quick Settings และ Notification Center นั้นถูกออกแบบมาอย่างสวยงามและใช้งานง่าย แค่ปัดในทิศทางขึ้น-ลงเพียงอย่างเดียวก็สามารถตั้งค่าเพิ่มเติมและดูแจ้งเตือนทั้งหมดได้เลย
และก็ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์มากมาย ได้แก่
Phone Manager
Phone Manager จะช่วย Optimize ระบบให้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยเคลียร์ไฟล์ที่กินพื้นที่แต่ไม่มีประโยชน์, อนุญาตให้แอปเข้าถึงฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของเครื่อง, สแกนไวรัสในเครื่อง, ตรวจสอบความปลอดภัยของแอปที่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน และทดสอบการทำงานในส่วนต่าง ๆ ของเครื่องว่าปกติหรือไม่
Smart Services
Smart Services จะมีอยู่ 2 ส่วนหลัก ๆ คือ Smart Driving ที่ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาขับขี่ยานพาหนะ เช่น ช่วยเปิดบลูทูธและทำการเชื่อมต่อกับเครื่องเสียงในรถยนต์ หรือปิดแจ้งเตือนสายเรียกเข้าขณะขับขี่จักรยาน กับ Smart Assistant ที่จะโชว์ข้อมูลต่าง ๆ ในหน้าซ้ายสุดของ Home screen อย่างเช่น วันที่, สภาพอากาศ, เบอร์ติดต่อที่สำคัญ, จำนวนก้าวในการเดิน, ฯลฯ
Convenience Aid
ในส่วนของ Convenience Aid จะเป็นการปรับแต่งการควบคุมของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าให้กดปุ่ม Power ค้างเพื่อเรียกใช้งาน Google Assistant
Navigation Keys สามารถปรับแต่งปุ่มนำทางได้หลากหลายรูปแบบ ตรงนี้ประทับใจมากเพราะมีให้เลือกหลากหลายแบบจริง ๆ เรียกว่าย้ายมาจากแบรนด์ไหน ๆ ก็ปรับตัวเข้ากับ Realme 3 Pro ได้ไม่ยาก
Assistive Ball สามารถตั้งค่าให้ทำหน้าที่แทนปุ่มโฮมหรือจะเป็นทางลัดสำหรับเครื่องมือต่าง ๆ
Smart Sidebar จะเป็นแถบทางลัดสำหรับเข้าถึงแอปฯ และเครื่องมือต่าง ๆ โดยลากจากบริเวณด้านบนของขอบด้านขวาเข้าหากึ่งกลางหน้าจอ
Gesture & Motion ตั้งค่าท่าทางต่าง ๆ ในการควบคุมเครื่อง
Security
Security จะช่วยตรวจสอบความปลอดภัยต่าง ๆ ของเครื่อง เช่น การอนุญาตให้แอปเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ภายในเครื่อง, ค้นหาเครื่องที่สูญหาย, ปกป้องแอปที่ใช้ทำธุรกรรมทางการเงินและยังมีการป้องกันการคุกคามผ่านทางโทรศัพท์และข้อความอีกด้วย รวมทั้งการโทรเข้าจากหมายเลขปลอม
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันย่อยอื่น ๆ อีก ได้แก่
App Encryption สำหรับล็อกแอปต่าง ๆ เวลาใช้งานต้องใส่รหัส, ปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือ หรือสแกนใบหน้า และจะไม่โชว์ข้อมูลของแอปฯ ที่ถูกล็อกในหน้าการแจ้งเตือนด้วย
Kid Space ใครที่มีบุตรหลานชอบยืมโทรศัพท์ไปเล่นน่าจะถูกใจสิ่งนี้ เพราะสามารถกำหนดระยะเวลาในการใช้ได้ กำหนดแอปฯ ที่สามารถใช้งานได้ ปิดการใช้งาน Cellular และยังครอบคลุมไปถึงการป้องกันการกดซื้อแอปฯ หรือไอเทมในเกม ติดตั้งหรือลบแอปพลิเคชัน และการแก้ไขการตั้งค่าของตัวระบบ
Private Safe สำหรับเก็บไฟล์ต่าง ๆ ที่เป็นความลับหรือไฟล์ที่ไม่อยากให้คนที่เอาเครื่องของเราไปใช้งานเห็น สามารถเข้าถึงได้โดยการใส่รหัสและสแกนใบหน้า และป้องกันการแคปภาพของสิ่งที่อยู่ใน Private Safe อีกด้วย
และยังมีระบบป้องกันการส่งข้อมูลขึ้นอินเตอร์เน็ตขณะกรอกรหัสผ่าน รวมไปถึงป้องกันการแคปและอัดวิดีโอหน้าจอระหว่างกรอกรหัสผ่านอีกด้วย และถ้ามีการเรียกใช้งานกล้องและบันทึกวิดีโอจากแอปฯ อื่น ๆ ที่รันอยู่เบื้องหลังก็จะมีการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทราบ
เล่นเกมอย่างมีอรรถรส ด้วยฟีเจอร์ Game Space และขุมพลังจาก Snapdragon 710
Game Space จะทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมและป้องกันการรบกวนจากการแจ้งเตือนต่าง ๆ ขณะเล่นเกม ทำให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหลและมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น ในส่วนของประสิทธิภาพนั้นจะสามารถตั้งค่าได้ 3 แบบ คือ
- Competitive Mode เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เฟรมเรท และการตอบสนอง แต่แลกมาด้วยการใช้พลังงานที่มากขึ้น
- Balanced Mode ช่วยบาลานซ์ระหว่างประสิทธิภาพของเกมกับแบตเตอรี่ ประสิทธิภาพในการเล่นเกมจะไม่ดีเท่าแบบแรก แต่แบตเตอรี่จะหมดช้ากว่า
- Low Power Consumption Mode ปรับกราฟิกในเกมให้ต่ำ ๆ เพื่อประหยัดพลังงาน
เป็นธรรมเนียมของผู้เขียนไปแล้วที่จะทดสอบการเล่นเกม PUBG Mobile บนเครื่องรีวิว ซึ่งเราจะมาลองเล่นใน Competitive Mode กัน และปรับกราฟิกให้สูงสุดเท่าที่เกมจะอนุญาตให้เครื่องปรับได้
พบว่าถ้าปรับสุดหมดเลยยังรู้สึกว่าไม่ค่อยสมูทเท่าไหร่ แต่ถ้าปรับกราฟิกลงมาเป็นสมดุลก็เล่นได้โอเค ถือว่า Snapdragon 710 กับ Color OS 6.0 ทำงานร่วมกันได้ดีมาก
กล้องหลังคู่พร้อม AI ถ่ายรูปดีไม่แพ้ใครในราคาใกล้เคียงกัน
Realme 3 Pro มาพร้อมคู่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล กับ 5 ล้านพิกเซล พร้อมกับ AI ช่วยถ่ายภาพที่ตั้งค่าให้เหมาะสมกับสิ่งที่ถ่ายได้
เมื่อนำกล้องส่องไปยังวัตถุต่าง ๆ หรือฉากก็จะทำการเทียบกับข้อมูลที่มีและปรับแต่งภาพให้เหมาะสม
ในยุคนี้โหมดถ่ายภาพกลางคืนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในสมาร์ทโฟน ซึ่ง Realme 3 Pro นั้นมีโหมด Nightscape สำหรับถ่ายภาพกลางคืนเช่นเดียวกัน
และยังมีโหมด Expert สำหรับถ่ายภาพแบบตั้งค่าเองและถ่ายแบบ Ultra HD ที่จะให้ภาพที่ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล
ในเรื่องการซูมก็ถือว่าทำได้ดีมากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ ในราคาใกล้เคียงกัน ถึงแม้จะกดซูมไป 10 เท่าก็ยังพอเห็นรายละเอียดของสิ่งที่ถ่ายอยู่บ้าง
ภาพตัวอย่างจากกล้องหลังของ Realme 3 Pro
กล้องหน้าสวย จะเน้นสมจริงหรือเกินจริงก็เลือกได้ แถมปรับโครงหน้าได้ด้วย
กล้องหน้าของ Realme 3 Pro มีความละเอียด 25 ล้านพิกเซล พร้อม AI ช่วยถ่ายภาพ
สามารถเลือกได้ว่าจะถ่ายออกมาแบบสมจริงสุด ๆ หรือถ่ายแบบหน้าเนียนได้ พร้อมทั้งปรับโครงหน้าส่วนต่าง ๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า, คาง, ตา และจมูก แถมยังปรับให้ใบหน้าเรียวขึ้น ปรับให้หน้าเล็กลง และเพิ่มมิติให้ใบหน้าก็สามารถทำได้
เปรียบเทียบกับการถ่ายแบบธรรมชาติ รู้สึกหล่อขึ้นแบบ 300%
มีโหมด Portrait ละลายพื้นหลังให้ตัวคนดูโดดเด่นขึ้น
แบตเตอรี่ทน แถมชาร์จได้รวดเร็วทันใจด้วย VOOC Flash Charge 3.0
การชาร์จไวเรียกว่าเป็นจุดขายเลยก็ว่าได้ ระบบ VOOC Flash Charge เรียกได้ว่าเป็นระบบชาร์จที่ชาร์จได้ไวเป็นอันดับต้น ๆ
ทดลองชาร์จจาก 34% พบว่าผ่านไปไม่ถึง 1 ชั่วโมงแบตเตอรี่ก็เต็มร้อยแล้ว
จากการใช้งานแบบทั่ว ๆ ไป ต่อ Wi-Fi ตลอดเวลา พบว่าสามารถอยู่ได้ทั้งวัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละคนด้วยครับ
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันต่าง ๆ เกี่ยวกับแบตเตอรี่อีกมากมาย ได้แก่
- Super High Power Efficiency ประหยัดพลังงานแบบขั้นสุด โดยการปิดการซิงค์ การทำงานของแอปฯที่อยู่เบื้องหลัง หรี่แสงจอ และปิดระบบการสั่นเมื่อสัมผัส
- Smart Power Saver ประหยัดพลังงานแบบคำนวณจากพฤติกรรมการใช้ของเรา
- Sleeping Mode อยู่ใน Power saver options เครื่องจะเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานเมื่อเราหลับ โดยจะคาดเดาเวลานอนของเราจากพฤติกรรมการใช้งาน
- High Performance Mode ใช้พลังงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่แลกมากับการบริโภคแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้น
- Screen Batterry Optimization ลดเอฟเฟกต์การแสดงผลบางอย่างลง ยกเว้นเวลาใช้กล้อง
สรุป เป็นสมาร์ทโฟนในช่วงราคา 5,000 – 10,000 บาทที่สเปกคุ้มเกินราคา
Realme 3 Pro มีราคาอยู่ที่ 6,999 บาทสำหรับรุ่น 4 + 64 GB และ 8,999 บาทสำหรับรุ่น 6 + 128 GB สำหรับช่วงราคานี้ถือว่าทำได้ดีไม่แพ้ใครและตอบโจทย์มากทั้งด้านสเปก จอภาพ กล้อง และการใช้งานในด้านต่าง ๆ รวมถึงการออกแบบในส่วนของ Hardware และ Software ที่ทำได้สวยและทันสมัยสมกับที่ต้องการจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่น่าเสียดายที่พอร์ตเชื่อมต่อยังคงเป็นแบบ Micro-USB อยู่ ซึ่งสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ยุคนี้ควรจะเปลี่ยนไปใช้ USB Type-C กันได้แล้ว