รีวิว realme 5 Pro | สเปคแรงเกินราคา ฝาหลังสวยหรูหรา ชาร์จแบตไวไม่เสียเวลา ถ่ายรูปงามตาด้วยกล้องหลัง 4 ตัว
realme 5 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ทาง realme ส่งมาทำตลาดในประเทศไทยด้วยช่วงราคาไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งในรุ่นก่อนหน้าอย่าง realme 3 Pro ที่มีจุดเด่นในเรื่องสเปคที่แรงและใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวันนั้นก็ได้กระแสตอบรับที่ดีมาก และในรุ่นต่อมาอย่าง realme 5 Pro ก็ได้ทำการอัดสเปคให้มากขึ้นแบบจัดเต็มและกล้องหลังที่เพิ่มมาให้เป็น 4 ตัว ซึ่งใช้งานจริงนั้นจะดีแค่ไหนเดี๋ยวเราไปดูกันครับ
ดีไซน์สวยงาม ดูแพงด้วย Holographic Diamond
ฝาหลังของ realme 5 Pro นั้นถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม ผ่านการเคลือบมาถึง 133 ครั้งซึ่งการดีไซน์แบบนี้เรียกว่า Holographic Diamond ซึ่งจะสะท้อนแสงเป็นประกาย มีสีสันงดงาม
หน้าจอทรงหยดน้ำขนาด 6.3 นิ้วแบบ IPS LCD ความละเอียด Full HD+
ในส่วนของหน้าจอนั้นยังคงทำได้ดีเหมือนกับรุ่นพี่อย่าง realme 3 Pro เช่นเคยและมีการปรับปรุงในส่วนของการสัมผัสที่มีการตอบสนองต่อนิ้วมือไวขึ้น
รองรับการชมคอนเทนต์แบบ HDR บน YouTube ด้วย สีสันจัดว่าสวยงามใช้ได้ในช่วงราคาไม่เกิน 10,000 บาท
แต่น่าเสียดายตรงที่ Widevine DRM ยังคงเป็นระดับ L3 ทำให้ยังคงดู Netflix ที่ความละเอียด HD ไม่ได้เช่นเคย
สเปคแรงเกินราคา เล่นเกมได้สบาย ๆ
รอบนี้ realme อัดสเปคมาให้โหดมาก ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต Snapdragon 712 AIE, RAM 8 GB และ Storage แบบ UFS 2.1 เรียกได้ว่าถ้าไม่นับเรื่องชิปเซ็ตที่เป็น Snapdragon ซีรีส์ 7 แล้วละก็ realme 5 Pro นั้นมีสเปคพื้นฐานที่เทียบเคียงกับเรือธงบางค่ายเลยก็ว่าได้
นอกจากสเปคที่ให้มาโหดแล้วนั้นยังมาพร้อมกับระบบ FrameBoost ที่ช่วยให้เฟรมเรทมีความสเถียรเพิ่มขึ้น, TouchBoost ที่ช่วยให้ตอบสนองต่อสัมผัสไวขึ้น และ Gameboost ที่ช่วยรีดประสิทธิภาพเวลาเล่นเกมที่ดีขึ้น
เกริ่นมาขนาดนี้แล้วต้องลองเล่นจริงสักหน่อยว่าจะดีสมราคาคุยมั้ย ซึ่งจากการลองเล่น PUBG Mobile แบบปรับกราฟิกสุดทุกอย่างเท่าที่เครื่องอนุญาตให้ปรับได้นั้น ผลลัพธ์ที่ได้คือการเล่นยังไม่ค่อยสมูทเท่าไหร่ (ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะนี่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนราคา 2-30,000 บาท)
แต่ถ้าปรับลดกราฟิกลงมาเหลือสมดุลและไปปรับเฟรมเรทเพิ่มเป็น Ultra จากนั้นเปิดปรับความละเอียดภาพและเงา พร้อมกับปิดฟังก์ชั่นปรับเฟรมเรทลงอัตโนมัติ
แบบนี้เล่นได้แบบลื่นมากแถมการทัชสกรีนตอบสนองได้ดีเหมือนที่โฆษณาไว้
แต่การทดสอบในครั้งนี้ตัว Game Space ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมถูกตั้งค่าไว้ที่ Balance Mode เท่านั้น
เราจึงลองอีกครั้งด้วยการเปิดโหมด Competitive แล้วเข้าไปเล่น Team Deathmatch ผลลัพธ์คือลื่นกว่าตอนเปิดโหมด Balance เล็กน้อย แต่ตอบสนองต่อการสัมผัสดีขึ้น
สำหรับความร้อนและการบริโภคแบตเตอรี่ในการเล่นเกมนั้นถือว่าทำได้ดีมาก เล่นติดต่อกันหลายตาก็ไม่ได้รู้สึกว่าเครื่องร้อนขึ้นจนกระทบกับประสิทธิภาพ ส่วนการบริโภคแบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณเกมละ 3-5% เท่านั้น
กล้องหลัง 4 ตัว ถ่ายวิวก็ดี ถ่ายคนก็สวย ถ่ายมาโครได้ด้วย
ถือว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานของสมาร์ทโฟนราคาไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทเลยก็ว่าได้ เมื่อ realme 5 Pro นั้นมาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว ซึ่งจุดที่ชอบมาก ๆ ก็คือนอกจากถ่ายภาพแบบปกติ แบบมุมกว้าง และแบบเทเลได้แล้ว ยังสามารถถ่ายแบบมาโครได้ด้วย ซึ่งมีสมาร์ทโฟนน้อยรุ่นมากที่สามารถทำได้ และที่ทำได้นั้นก็จัดว่ามีราคาค่อนข้างสูงพอสมควร
กล้องทั้ง 4 ตัวนั้นประกอบไปด้วย
- กล้อง Wide-angle Lens 119 องศา
- กล้องหลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล
- กล้อง Portrait Lens
- กล้อง Macro Lens
ในหน้าหลักของกล้องนั้นจะมีโหมด Chroma Boost ที่ช่วยเร่งสีให้สดใสขึ้น ซึ่งส่วนตัวผมมองว่ามันทำให้สีเพี้ยนเปล่า ๆ แนะนำว่าปล่อยไปไม่ต้องไปยุ่งกับมัน กับการถ่ายภาพแบบมุมกว้างที่สามารถเข้าถึงได้ด้วยการกดไอคอนสี่เหลี่ยมพื้นผ้าที่โค้งเว้าเข้าสู่ด้านใน
เปรียบเทียบระหว่างปิดและเปิด Chroma Boost
สำหรับเลนส์มุมกว้างนั้นถือว่าคุณภาพโอเคในระดับนึง แต่สีที่ได้จะออกไปในโทนเย็นเมื่อเทียบกับเลนส์หลักแบบเห็นได้ชัด
ภาพด้านซ้ายถ่ายด้วยเลนส์หลัก ด้านขวาถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้าง
ส่วนถ่ายมาโครนั้นไม่ต้องทำอะไรมาก แค่จ่อเข้าไปใกล้ ๆ วัตถุก็จะเข้าสู่โหมดมาโครได้เลย ถือว่าสะดวกดีและถ่ายออกมาได้ดีมาก
ตัวอย่างภาพจากเลนส์มาโคร
สำหรับโหมดอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็จะมี Ultra 48 MP และ Nightscape
โหมด Ultra 48 MP เป็นโหมดที่ถ่ายภาพออกมาที่ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (ถ้าถ่ายด้วยโหมดปกติความละเอียดภาพจะอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล) ภาพที่ได้จะคมชัดและเก็บรายละเอียดได้เยอะมากในกรณีที่แสงสว่างเพียงพอ แต่ก็ใช้เวลาในการถ่ายนานกว่าปกติเช่นกัน
ลองขยายภาพดูก็ถือว่ายังเก็บดีเทลระยะไกล ๆ ได้ดี
ส่วนโหมด Nightscape คือโหมดถ่ายในที่มืด เวลาถ่ายจะเปิดหน้ากล้องนานกว่าปกติ อันที่จริงถ้าสภาพแวดล้อมไม่ได้มืดมากนักเวลาเปิดโหมดนี้ภาพจะวัดแสงออกมาได้ดีกว่าการถ่ายปกติ อย่างเช่นในรูปข้างล่างถ้าสังเกตตรงป้ายโฆษณาตรงด้านบนซ้ายจะพบว่าโหมด Nightscape สามารถเก็บรายละเอียดของตัวอักษรได้ดีกว่า
ถ่ายด้วยโหมดปกติ ถ่ายด้วยโหมด Nightscape
แต่ถ้าถ่ายในบริเวณที่แสงสลัว ๆ หรือมืดไปเลยสีที่ออกมาจะเพี้ยนไปจากความเป็นจริงแบบหนักมาก (แต่ก็คงไม่มีใครไปถ่ายอะไรแบบนี้หรอกเนอะ)
ถ่ายด้วยโหมดปกติ ถ่ายด้วยโหมด Nightscape
ถ่ายด้วยโหมดปกติ ถ่ายด้วยโหมด Nightscape
ในส่วนของโหมด Portrait นั้นถือว่าตัดขอบได้คมและดีมาก ๆ ละลายหลังออกมาได้สวยงาม
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก realme 5 Pro
กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม AI Beauty
มาดูกล้องหน้ากันบ้าง จุดเด่นที่น่าสนใจคือโหมด Beauty ที่ปรับแต่งใบหน้าได้แทบทุกส่วนประดุจทำศัลยกรรมแบบชุดใหญ่ หรือถ้าไม่ชอบก็สามารถเลือกแบบ Natural ที่ถ่ายออกมาได้แบบสมจริงไร้การปรับแต่งใด ๆ
โหมดธรรมชาติ โหมด Beauty แบบเปิดทุกอย่างสุด
ส่วนโหมด Portrait ในกล้องหน้าถือว่าทำได้ดีมาก ตัดขอบคม ละลายหลังสวย
แบตเตอรี่ถึกทน ชาร์จไวด้วย VOOC Flash charging 3.0
เทคโนโลยี VOOC Flash charging จัดว่าเป็นเทคโนโลยีที่ชาร์จได้ไวเป็นอันดับต้น ๆ ในบรรดาสมาร์ทโฟนทั้งหลายเลยก็ว่าได้ ซึ่ง realme เองนั้นก็ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีนี้มาไว้ในสมาร์ทโฟนของตัวเองเช่นเดียวกัน จากการลองชาร์จดูแบบไม่ได้จับเวลาก็พบว่าไวมาก แบตเหลือประมาณ 50% เสียบชาร์จทิ้งไว้ไปหาอะไรทำสักพักใหญ่ ๆ กลับมาดูอีกทีก็พบว่าแบตเต็มแล้ว
สำหรับความจุแบตที่ให้มาเยอะถึง 4035 mAh นั้นทำให้ใช้งานได้แบบยาวนาน ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าแบตจะหมดเมื่อไหร่ จากที่ลองใช้แบบทั่ว ๆ ไปคือเช็คโซเชียลบางเป็นพัก ๆ แวะถ่ายรูประหว่างทาง เล่น PUBG Mobile สัก 4-5 ตาและเชื่อมต่อ Wi-Fi ตลอดเวลาก็สามารถอยู่ได้ตลอดทั้งวัน
และจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงอีกจุดก็คือ realme 5 Pro มาพร้อมกับพอร์ตแบบ Type-C แล้ว! ซึ่งข้อดีในทางเทคนิคของพอร์ตแบบนี้นั้นมีมากมาย แต่ที่เห็นได้ชัดเลยคือทำให้เชื่อมต่อได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องคอยมาเล็งว่าต้องเสียบชาร์จด้านไหน
สรุป เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่มีดีเกินราคาของตัวเอง
สิ่งที่คิดว่า realme 5 Pro ทำได้ดีมาก ๆ เลยสำหรับสมาร์ทโฟนช่วงราคาไม่เกิน 10,000 บาทก็คือประสิทธิภาพของเครื่อง, กล้องหน้าและกล้องหลัง, แบตเตอรี่และการชาร์จ รวมไปถึงงานดีไซน์ที่ทำออกมาได้สวยน่าดึงดูดสายตา เหมาะกับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้ดีรอบด้านและมีดีไซน์ที่สวยงามในราคาที่ไม่แพงมาก