แควนตัสนำเครื่องบินยอดนิยม Boeing 747 ร่วมทดสอบเครื่องยนต์ Rolls Royce

เครื่องบินโดยสารยอดนิยมของสายการบินแควนตัสได้ถูกปลดระวางไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะมาเริ่มทำหน้าที่ใหม่ในการเป็นเครื่องบินทดสอบของเครื่องยนต์ Rolls Royce ซึ่งจะถูกนำมาใช้ทดสอบเทคโนโลยีเครื่องยนต์เจ็ทในปัจจุบันและอนาคตที่จะพลิกโฉมการบิน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ และสร้างบรรทัดฐานใหม่ในด้านประสิทธิภาพ

เครื่องบิน Boeing รุ่น 747-400 ทะเบียน VH-OJU ได้ทำการบินให้กับสายการบินแห่งชาติของออสเตรเลียในฐานะสมาชิกลำหนึ่งในฝูงบินของแควนตัสมาถึง 20 ปี ตลอดอายุการใช้งาน OJU ได้บินเป็นระยะทางรวมทั้งสิ้นกว่า 70 ล้านกิโลเมตร หรือพอ ๆ กับระยะทางจากโลกไปดวงจันทร์ไปกลับถึง 100 เที่ยว โดยทำการบินไปยังจุดหมายปลายทางหลายสิบประเทศ ด้วยการให้บริการผู้โดยสารรวมกันถึง 2.5 ล้านคน ทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Rolls Royce รุ่น RB211

เครื่องบินลำนี้จะถูกติดตั้งอุปกรณ์ทดสอบประสิทธิภาพล่าสุดและเป็นครั้งแรกที่จะทดสอบเครื่องยนต์ต่าง ๆ ที่ใช้ในอากาศยานเพื่อการพาณิชย์และธุรกิจ ระบบใหม่จะเก็บรวบรวมข้อมูลได้ดีกว่าและรวดเร็วกว่าที่เคยเป็นมา และเทคโนโลยีต่าง ๆ จะนำมาทดสอบที่ระดับความสูงและความเร็วที่มากกว่าเดิม เครื่องบินทดสอบแบบต่าง ๆ จะนำมาใช้เพื่อทดสอบการบินที่ระดับความสูงต่าง ๆ และตรวจสอบเทคโนโลยีในสภาพการบินที่แตกต่างกัน

พนักงานของ Rolls Royce จะช่วยกันเลือกชื่อใหม่ให้กับอากาศยานลำนี้ ซึ่งตอนที่บินให้แควนตัสใช้ชื่อว่า Lord Howe Island และต่อจากนี้จะทำการบินโดยทีมนักบินทดสอบผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมผนวกกับประสบการณ์การบินทั้งเชิงพาณิชย์ การทหารและอากาศยานทดสอบมานับสิบ ๆ ปี

อากาศยานใหม่ลำนี้จะสนับสนุนวิสัยทัศน์ Rolls-Royce Intelligent Engine ที่เครื่องยนต์ต่าง ๆ จะถูกเชื่อมโยง รับรู้และเข้าใจบริบทต่าง ๆ ของการบินโดยเริ่มจากการปฏิบัติหน้าที่ของเครื่องบินทดสอบ

เครื่องบินรุ่น 747 เสร็จสิ้นภาระกิจการบินเชิงพาณิชย์ให้กับแควนตัสไปเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2562 โดยบินจากซิดนีย์ไป ลอสแอนเจลีส จากนั้นได้บินไปยังศูนย์ทดสอบการบิน AeroTEC ใน Moses Lake รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งที่นั่นจะเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนโฉมเป็นเวลา 2 ปี วิศวกร AeroTEC และช่างเทคนิคจะเปลี่ยน Boeing 747-400 ลำนี้จากเครื่องบินพาณิชย์ที่มีที่นั่งโดยสาร 364 ที่ไปเป็นเครื่องบินทดสอบชั้นนำอันประกอบไปด้วยอุปกรณ์และระบบล้ำสมัยต่าง ๆ มากมายที่จะทำการทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์เชิงลึกและซับซ้อนได้

เมื่อจบกระบวนการดังกล่าว เครื่องบินลำนี้จะทำงานควบคู่ไปกับเครื่องบินทดสอบของ Rolls Royce Boeing 747-200 อีกลำที่จนถึงวันนี้ได้ทำการบินทดสอบไปแล้ว 285 เที่ยวบิน

กาเรธ เฮดิกเคอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและทดสอบด้านวิศวกรรมของ Rolls Royce กล่าวว่า “ราชินีของเราบนท้องฟ้าจะกลายเป็นเพชรยอดมงกุฎของโปรแกรมการทดสอบการบินระดับโลก สิ่งนี้ถือเป็นการลงทุนสำคัญที่ช่วยเน้นย้ำความเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการทดสอบการบิน และยิ่งไปกว่านั้นจะทำให้เราเก็บข้อมูลการทดสอบต่าง ๆ ได้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา หลังจากเครื่องบินอันเป็นที่รักลำนี้ได้ให้บริการผู้โดยสารนับล้านคน มานานกว่า 20 ปี เราตื่นเต้นที่จะได้ทดสอบขุมพลังใหม่ ๆ ไปสู่อนาคต”

คริส สนูค ผู้จัดการด้านวิศวกรรมของสายการบินแควนตัส กล่าวว่า “เครื่องบิน Boeing 747 เป็นหนึ่งในสมาชิกสำคัญและเป็นที่รักของฝูงบินแควนตัสมานานหลายปี เราให้บริการเครื่องบินลำนี้ในหลากหลายเส้นทางมาอย่างยาวนาน นั่นจึงทำให้เรารู้สึกเศร้าเมื่อต้องบอกลากันไป โดย Boeing 747 ลำนี้ยังได้ปูทางไว้อย่างดีให้กับ Boeing 787 Dreamliners ที่จะเข้ามาแทนที่

เครื่องบิน OJU ลำนี้ ให้บริการผู้โดยสารเหนือน่านฟ้าดินแดนจิงโจ้มาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี และเรารู้สึกภูมิใจที่จะได้เป็นส่วนสำคัญในการช่วยทดสอบและสนับสนุนการพัฒนาเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินรุ่นใหม่ ๆ ต่อไป”

ลี ฮูแมน ประธานบริหารและผู้ก่อตั้ง AeroTEC กล่าวว่า “ทีมงาน AeroTEC รู้สึกภูมิใจมากที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Rolls Royce ในการดำเนินงานปรับปรุง สร้างแนวทางการทดสอบของเครื่องบินทดสอบใหม่ในครั้งนี้ ห้องปฏิบัติการทางอากาศแห่งนี้สามารถช่วยพัฒนาและรับรองผลการทดสอบใหม่ ๆ ในด้านการออกแบบเทคโนโลยีเครื่องยนต์ล้ำสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพร้อมช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้ เรามีทีมวิศวกร ทีมงานปรับปรุงคุณภาพและทีมทดสอบในด้านต่าง ๆ จำนวนมากประจำอยู่ที่ Seattle และ Moses Lake พวกเขาทุ่มเททำงานเพื่อนำวิสัยทัศน์ของโรลส์-รอยส์ไปสู่การใช้งานจริง”

Rolls Royce ลงทุน 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (56 ล้านปอนด์) เพื่อซื้อและพัฒนาปรับปรุงอากาศยาน นอกเหนือไปจากการลงทุนสร้างศูนย์ทดสอบการบิน Testbed 80 ด้วยเงินลงทุนราว 90 ล้านปอนด์ที่จะกลายเป็นศูนย์ทดสอบการบินที่ใหญ่และล้ำสมัยที่สุดในโลก โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ณ เมืองดาร์บี้ สหราชอาณาจักร และมีกำหนดเปิดดำเนินการในปี 2563