Terminator เรียกว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ James Cameron แถมยังเป็นหนังที่ให้ฉายา คนเหล็ก แก่ Arnold Schwarzenegger ด้วย โดยเฉพาะภาค 2 ที่ดังสุดๆ ฝากฉากจำเอาไว้มากมาย โดยเฉพาะบทพูด ‘I’ll be back’ และ ‘Hasta la vista, baby’ แต่หลังจากนั้น James Cameron ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจ็กต์หนังเรื่องนี้อีกเลย ซึ่งหนังชุดคนเหล็กก็ออกภาคต่อตามมาอีก 3 ภาครวมเป็นทั้งหมด 5 ภาค
ในที่สุดลิขสิทธิ์ในตัวหนังก็กลับคืนมายัง James Cameron อีกครั้ง คราวนี้ลุงเจมส์จึงประกาศพาคนเหล็กกลับบ้าน ทำภาค 6 ในชื่อ Terminator : Dark Fate ซึ่งจะเป็นภาคต่อจากภาค 2 Judgement Day โดยตรง และทำลืมๆ อีก 3 ภาคที่เหลือไปซะ สำหรับภาคนี้เนื้อเรื่องยังคล้ายเดิม โลกอนาคตเกิดสงครามระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ เพื่อหยุดสงคราม หุ่นยนต์ได้ส่งหุ่น Terminator ย้อนอดีตมาเพื่อฆ่ามนุษย์ ทีมมนุษย์จึงส่งคนที่ได้รับการอัปเกรดให้แข็งแกร่งใกล้เคียงหุ่นยนต์มาปกป้อง ภาคนี้ยังได้ Linda Hamilton กลับมารับบทซาราห์ คอนเนอร์เหมือนเดิม และลุง Arnold Schwarzenegger ยังกลับมารับบทหุ่นพิฆาตเช่นกัน
แม้เนื้อเรื่องจะมาแนวรีไซเคิลของเก่า แต่ฉากแอ็คชั่นยังทำได้มันถึงใจ ลุ่นระทึกนิ้วจิกโซฟาทั้งเรื่อง น่าเสียดายที่หุ่นตัวร้ายนั้นดูจืดจางไปสักหน่อย (อาจจะเพราะตัวร้ายมีความคล้ายคลึงตัวร้ายภาค 2 และอีกหลายๆ ภาคจนเราไม่รุ้สึกว่ามันมความแปลกใหม่ใดๆ) ส่วนสามสาวพลังหญิงกลุ่มตัวเอกก็มาเปลี่ยนรสชาติและแต่งเติมสีสันใหม่ๆ ให้หนังได้ดีมาก โดยเฉพาะกลุ่มหนังแอ็คชั่นจริงจังที่หากลุ่มตัวเอกเป็นผู้หญิงได้ยากมาก ลุง Arnold เองก็มาให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงแบบพอดี
ถ้าย้อนดูภาค 1 และ 2 หนัง Terminator เป็นหนังที่มีเรื้อเรื่องไม่ซับซ้อนอยู่แล้ว แต่โดดเด่นที่ฉากไล่ล่าที่ลุ้นระทึกและน่าติดตาม สำหรับภาค Dark Fate ถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน แต่ไม่มีอะไรใหม่ เรียกว่าเอาความสำเร็จของภาคเก่ามารีไซเคิลก็ว่าได้ ในฐานะที่เป็นภาคที่เริ่มต้นใหม่ เปิดเนื้อเรื่องใหม่ ถือว่าทำออกมาได้ดีเลย แต่หวังว่าภาคต่อไปจะมีการพาเราไปพบกับเนื้อเรื่องและมิติใหม่ๆ ของจักรวาลคนเหล็กบ้าง
