#เล่าหลังลอง Samsung Galaxy S10 Lite & Note 10 Lite สองพี่น้องตระกูล Lite ที่มาแบบเล่นใหญ่ในราคาที่จับต้องได้

Samsung Galaxy S10 Lite และ Note 10 Lite เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่แตกรุ่นย่อยออกมาจากซีรีส์เรือธงทั้ง 2 รุ่นจาก Samsung ที่สร้างชื่อเสียงไว้อย่างมากมาย วันนี้มาในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าเดิม แต่คุณภาพไม่ได้ลดลงไปตามราคา

Samsung Galaxy S10 Lite เร็วแรง จอสวย กล้องแจ่ม

เริ่มจาก Galaxy S10 Lite น้องใหม่รุ่นที่ 5 ใน Galaxy S10 Series ที่ถึงแม้ว่าราคาจะ light กว่า S10e ตอนเปิดตัว แต่ size นั้นใหญ่พอฟัดพอเหวี่ยงกับ S10 5G เลยทีเดียว ซึ่งขนาดหน้าจอก็เท่ากับ S10 5G ที่ 6.7 นิ้ว ต่างกันตรงที่ย้ายรูกล้องหน้ามาไว้ตรงกึ่งกลางแบบ Note 10 และหน้าจอเป็น Flat screen ไม่โค้งแบบรุ่นพี่ ถ้าดูเผิน ๆ แค่ชื่ออาจรู้สึกว่านี่คือ S10 ลดสเปค แต่ถ้ามองในเรื่องประสิทธิภาพนั้นก็ไม่ได้ด้อยกว่า Galaxy S10 เลย (รวมถึงเรือธง Android หลายรุ่นในปีก่อนด้วย) นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในรุ่นนี้ด้วย

จุดขายของ S10 Lite มีอยู่ 3 จุดใหญ่ ๆ คือ ประสิทธิภาพ จอ และกล้อง

ประสิทธิภาพไม่ต้องพูดอะไรมาก มาตามคำเรียกร้องของชาวเน็ตที่อยากเห็น Samsung นำโมเดลที่ใช้ Snapdragon เข้ามาขายในไทย ตอนนี้คงสมหวังกันแล้ว เพราะ S10 Lite มาพร้อมกับ Snapdragon 855 ที่ถึงแม้ว่าจะมีอายุอานามร่วมปีแล้ว แต่เรื่องความเก๋าก็ต้องบอกว่าเอาเรื่องมาก รับประกันว่า”เอาอยู่”ทุกเกม ในส่วนอื่น ๆ ก็ไม่น้อยหน้าใคร ให้ Ram มาถึง 8 GB และ Storage 128 GB เพิ่มเมมได้อีก 1 TB

S10 Lite มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED Plus มีจุดเด่นที่บางและเบาด้วยเทคโนโลยี Flexible OLED ทำให้ S10 Lite มีขนาดที่บางและมีน้ำหนักที่เบา ในขณะที่ให้แบตเตอรี่มาเยอะถึง 4,500 mAh สีสันของจอจัดว่าสวยงามมากไม่แพ้เรือธงจากค่ายเดียวกันที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และรองรับการแสดงผลแบบ HDR 10 ด้วย น่าเสียดายที่รุ่นนี้เน้นขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เพราะอยากให้คนที่สนใจได้มาสัมผัสความเทพของหน้าจอรุ่นนี้ด้วยตัวเองจริง ๆ (เอามาดู Netflix คือฟินแน่นอน)

สำหรับกล้องหลังนั้นจะมี 3 เลนส์ คือ เลนส์ Ultra-wide กว้าง 123 องศา ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และเลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สิ่งที่น่าสนใจคือเลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซลที่โมดูลมาในรูปแบบทรงลูกบาศก์ที่ขยับตัวโมดูลได้รอบด้าน ทำให้ช่วยลดความสั่นไหวขณะถ่ายวิดีโอได้เป็นอย่างดี และเท่าที่ลองมาก็แก้ปัญหาเวลาแพนกล้องขณะถ่ายวิดีโอแล้วภาพสั่นที่เจอในเพื่อนร่วมค่ายรุ่นก่อน ๆ ได้แล้ว

กล้องตัวนี้ยังไม่เคยถูกใช้กับ Galaxy รุ่นไหนมาก่อน เท่าที่ลองแบบสั้น ๆ ต้องบอกว่าถ้าเทียบกับในบรรดากล้อง 48 ล้านพิกเซลแล้ว S10 Lite จัดว่าน่าประทับใจมาก เก็บดีเทลได้ดี สีสันใกล้เคียงกับที่ตาเห็น

ฟีเจอร์กล้องก็ว่าครบครันแล้ว ความเจ๋งคือมีฟีเจอร์ Live Focus Video, Zoom-in Mic และ All-in-one video editing suite ด้วย เรียกได้ว่าถอดแบบความสามารถมาจากรุ่นพี่เป๊ะ ๆ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Galaxy S มีรุ่นเล็กแยกย่อยออกมาจากรุ่นเรือธง แต่ครั้งนี้เป็นรุ่นแยกที่สมศักดิ์ศรีที่สุด มีดีไม่แพ้ตัวท็อป

สเปค Samsung Galaxy S10 Lite > http://bit.ly/2GwG5Ev

Samsung Galaxy Note 10 Lite ขีดได้เขียนดี ฟีเจอร์ถอดแบบมาจากรุ่นพี่แทบทุกประการ

มาต่อกันที่ Galaxy Note 10 Lite บ้าง ย้อนไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว Samsung ไปนำเสนอ Galaxy Note 3 Neo สมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy Note ที่ลดสเปคลงจาก Galaxy Note 3 นับว่าเป็นครั้งแรกเลยสำหรับตระกูล Note ที่มีรุ่นเล็กแยกออกมาและก็ไม่มีอีกเลย จนเวลาล่วงเลยมาจนถึงปี 2020 Galaxy Note ได้มีรุ่นย่อยแยกออกมาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้มาในชื่อ Note 10 Lite

มองในภาพรวม เจ้า Note 10 Lite คือลูกผสมระหว่าง Galaxy Note 9 และ Note 10 สเปคหลาย ๆ ส่วนนั้นถูกถ่ายทอดมาจาก Note 9 ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต Exynos 9810 ชุดกล้องหลัง รวมไปถึงบอดี้บางส่วน ซึ่งทำให้ Note 10 Lite ได้รับอานิสงส์มาอีกหนึ่งอย่าง คือช่องหูฟัง 3.5 มม.

ในส่วนของกล้องหลังถึงแม้ว่าชุดเลนส์ Wide กับ Tele จะยกมาจาก Note 9 แต่ Samsung ก็ไม่ยอมปล่อยให้น้อยหน้าใคร ได้เสริมเลนส์ Ultra-wide มาให้ด้วยที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่ากันกับเลนส์อื่น ๆ ทำให้ Note 10 Lite มีกล้องครบทั้ง 3 ระยะตามแบบฉบับเรือธงยุคปัจจุบัน

ด้านสเปคอาจไม่ดูหวือหวาเหมือน S10 Lite แต่สิ่งที่น่าสนใจคือจุดขายหลักของตระกูล Note อย่าง S-Pen นั้นได้ถูกส่งมายังน้องเล็กรุ่นใหม่ล่าสุดด้วย เรียกได้ว่าฟีเจอร์ถอดแบบจากรุ่นพี่กันมาเป๊ะ ๆ ไม่ว่าจะเป็น Screen off memo การจดบันทึกตอนหน้าจอดับอยู่ การแปลงลายมือเป็นตัวพิมพ์ หรือ การควบคุมการสั่งงานระยะไกล เรียกได้ว่า S-Pen ของรุ่นพี่ทำอะไรได้ ของ Note 10 Lite ก็ทำได้ทุกอย่าง จะต่างกันก็ตรงที่ไม่มี Gyroscope ทำให้ฟีเจอร์ Air Action นั้นหายไปโดยปริยาย (พูดแบบง่าย ๆ ก็คือความสามารถของตัวปากกานั้นเหมือนของ Note 9)

อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในภาพรวมแล้วความสามารถด้านการขีดเขียนของ Galaxy Note 10 Lite นั้นสามารถทดแทน Galaxy Note 10 ได้ ฟีลลิ่งการขีดเขียนเหมือนกับรุ่นพี่ทุกประการ ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ใช้งานของ Galaxy Note เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีคุณภาพอีกด้วย

สเปค Samsung Galaxy Note 10 Lite > http://bit.ly/2GtKdoW

สรุปคือน่าใช้ทั้ง 2 รุ่นและเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่น่าสนใจมาก

“สองพี่น้องตระกูล Lite” ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจจากทาง Samsung เพราะไม่ได้แค่เอาฟีเจอร์เด็ด ๆ จากรุ่นเรือธงลงมาใส่ในสมาร์ทโฟนที่ราคาจับต้องง่ายขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังคง Ergonomic ของความเป็นเรือธงอยู่ด้วย สำหรับใครที่ชื่นชอบ Samsung Experience เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากต้องการสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเล่นเกม ถ่ายรูป หรือดูหนัง จบที่ S10 Lite ได้เลย ส่วนใครที่เน้น Productivity หรือเป็น Note Fan และเคยใช้ Note รุ่นเก่า ๆ จดบันทึกแบบจริงจัง แต่ก็ไม่ได้ต้องการความอลังการงานสร้างระดับ Note 10 | 10+ ก็จบที่ Note 10 Lite ได้เลยเช่นกัน

ส่วนตัวผมคิดว่า Note 10 Lite ขายดีแน่ ๆ แต่ก็แอบคิดว่าถ้าดัน 2 รุ่นนี้ด้วยวิธีเดียวกันและวางขายในช่องทางเดียวกัน S10 Lite น่าจะโกยยอดขายได้มากกว่าและอาจช่วยเปิดฐานลูกค้าใหม่ ๆ รวมไปถึงกลุ่ม Snapdragon Fans ได้ด้วย

Samsung Galaxy S10 Lite สำหรับตลาดประเทศไทยจะเป็นรุ่น Ram 8 GB ความจุ 128 GB มีทั้งหมด 3 สีคือ Prism White, Prism Black และ Prism Blue ราคา 18,900 บาท วางจำหน่ายวันที่ 31 มกราคม 2563 เฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น (Samsung Online Shop, Lazada, Shopee, JD Central, WeMall และ PowerBuy)

Samsung Galaxy Note 10 Lite สำหรับตลาดประเทศไทยจะเป็นรุ่น Ram 8 GB ความจุ 128 GB เช่นเดียวกัน มีทั้งหมด 2 สีคือ Aura Black และ Aura Glow ราคา 17,990 บาท เปิดจองวันที่ 31 มกราคม – 6 กุมภาพันธ์ 2563 วางจำหน่ายตาม Shop วันที่ 7 กุมภาพันธ์ นี้ สำหรับผู้ที่จองรับฟรี Galaxy Fit e มูลค่า 1,290 บาท