Google เปิดตัว Android 11 Developer Preview 1 ให้กับผู้สนใจได้ทดสอบไปเมื่อคืน มาดูกันว่ามีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอะไรบ้าง
ปรับปรุงการเชื่อมต่อ
Android 11 เป็น Android ที่มาในยุค 5G แบบเต็มตัว จึงมีการเพิ่ม API ใหม่ๆ เข้ามา เช่น API ที่เอาไว้ตรวจจับถ้าพบว่าเราเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่จำกัดปริมาณข้อมูล จะปรับความละเอียดวิดีโอเป็นความละเอียดสูงอัตโนมัติ และยังมี API สำหรับวัดความเร็วดาวน์โหลด/อัปโหลดอัตโนมัติ
รองรับหน้าจอแบบใหม่
Android 11 รองรับหน้าจอแบบเจาะรูและหน้าจอน้ำตกแบบ HUAWEI Mate 30 Pro ทำให้ผู้พัฒนาแอปสามารถพัฒนาแอปของตัวเองให้รองรับสมาร์ทโฟนที่ใช้หน้าจอแบบนี้ได้ง่ายขึ้น
Bubbles
ฟีเจอร์นี้ได้รับการทดสอบใน Android 10 แล้ว แต่ไม่ได้รับการเปิดใช้ โดยฟีเจอร์นี้จะทำตัวเหมือน Chat head ของ Facebook Messenger ที่เป็นลูกโป่งให้เรากดดูข้อความได้สะดวกๆ
Conversation
บริเวณแถบแจ้งเตือนจะมีส่วนเฉพาะสำหรับการแจ้งเตือนแชทโดยเฉพาะ แยกออกจากการแจ้งเตือนอื่นๆ
ตอบแชทด้วยรูปภาพได้จากแจ้งเตือน
หากแอปรองรับการคัดลอก/วางรูปภาพ สามารถวางรูปภาพเพื่อตอบได้จากแถบแจ้งเตือนโดยตรง
ปรับปรุง Permission
แม้จะเพิ่งปรับปรุงมาหยกๆ ใน Android 10 แต่การพัฒนาไม่มีวันหยุด โดยใน Android 11 สามารถอนุญาตให้แอปเข้าถึงตำแหน่ง กล้อง และไมโครโฟนเพียงครั้งเดียวได้ด้วย (เมื่อปิดแอป สถานะจะกลายเป็นไม่อนุญาตทันที)
บันทึกวิดีโอหน้าจอ
ฟีเจอร์บันทึกวิดีโอหน้าจอกลับมาอีกครั้ง
ปิดเสียงและสั่นขณะบันทึกวิดีโอ
แอปสามารถสั่งปิดเสียงและสั่นแจ้งเตือนขณะบันทึกวิดีโอได้
HDMI low-latency mode
การต่อภาพขึ้นจอทีวีผ่าน HDMI สามารถใช้งาน Low-latency mode ที่จะตัดการประมวลผลภายหลังทิ้งทำให้ภาพมีดีเลย์น้อยที่สุด เหมาะสำหรับการเปิดเกมขึ้นจอ
Airplane mode
การเปิด Airplane mode จะไม่ตัดการเชื่อมต่อหูฟัง Bluetooth แล้ว
กำหนดการปล่อย Android 11
Android 11 มีแผนจะเปิดตัวรุ่น Beta ในเดือนพฤษภาคม และปล่อยเวอร์ชันเต็มช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
ดาวน์โหลด
สำหรับผู้ที่สนใจทดสอบ Android 11 Developer Preview 1 สามารถดาวน์โหลด full factory images จากที่นี่, และ OTA files จากที่นี่ สำหรับผู้ใช้ Google Pixel 2 ขึ้นไปเท่านั้น